ปัจจุบันอาหารที่ให้พลังงานเริ่มเข้ามีบทบาทมากขึ้น ในสังคมเมืองที่นิยมออกกำลังกายจะต้องการอาหารที่ให้พลังงานสูงแบบเร่งด่วน ดังนั้น อาหารให้พลังงานแบบสำเร็จรูปจึงเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย
วันนี้ ถ้าใครบอกว่าสินค้าโอทอปเป็นสินค้าเชย ไม่ทันสมัย คุณคิดผิด ผลิตภัณฑ์อาหารที่ให้พลังงานสูง ProEngy Energy Bar ที่เรานำเสนอในครั้งนี้มีจุดกำเนิดมาจากสินค้าโอทอป ฝีมือของ “นายไกรยุทธ แสวงสุข” เขาได้นำผลิตภัณฑ์โอทอปที่ “แม่” “นางฉัตรวรรณา คงทวี” ทำเกือบ 20 ปี มาต่อยอด
นายไกรยุทธ เล่าว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ ProEngy Energy Bar ทำมาจากวัตถุดิบไทยทั้งข้าวหอมสุรินทร์ ทำให้พองและกรอบ ธัญพืช อินทผลัม ลูกเกด สตรอเบอร์รี และผลไม้ไทย เป็นอาหารพร้อมรับประทานที่มีคุณค่าโภชนาการสำหรับนักกีฬาที่ต้องการพลังงานสูง อย่าง นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน นักมวย หรือผู้ที่ออกกำลังกายในฟิตเนส ฯลฯ โดยมีข้อมูลทางโภชนาการและการวิจัยตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา สำหรับ ProEngy Energy Bar 1 แท่งให้พลังงาน 260 แคลอรี เทียบเท่ากับการกินกล้วยหอม 3 ลูก หรือขนมปังโฮลวีต 5 แผ่น ไข่ต้ม 4 ฟอง
ต่อยอดโอทอป เพิ่มค่าผลิตภัณฑ์เกษตร
สำหรับที่มา เริ่มมาจากผมต้องการต่อยอดกิจการโอทอปที่ “แม่” เริ่มมาตั้งแต่ ปี 2545 แต่ในส่วนของ ProEngy Energy Bar เริ่มพัฒนาปี 2559 โดยผมเป็นผู้ประกอบการที่เป็นทายาทเกษตรกร เนื่องจากครอบครัวของเรามีอาชีพทำนาปลูกข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีปริมาณผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก และเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ นั่นคือ ราคาตกต่ำ จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่าแล้วจะทำอย่างไรที่จะนำผลผลิตทางการเกษตรของเรา และคนในพื้นที่มาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่า ช่วยให้สินค้าเกษตรอย่างข้าวหอมมะลิ และผลไม้อื่นๆ ในพื้นที่มีราคาที่เพิ่มมากขึ้น
นายไกรยุทธ เล่าต่อว่า โดยส่วนตัวเป็นนักกีฬารักบี้ฟุตบอลทีมชาติไทย และทราบว่าในต่างประเทศให้ความสำคัญเรื่องโภชนาการสำหรับนักกีฬาเป็นอย่างมาก ซึ่งในต่างประเทศจะมีผลิตภัณฑ์กลุ่ม Emergency Foods แล้วทำไมบ้านเรายังมีผลิตภัณฑ์อาหารในกลุ่มนี้น้อย ทั้งที่เรามีวัตถุดิบที่สามารถผลิตได้ ในราคาต้นทุนที่ถูกกว่าต่างประเทศ
“ผมจึงคิดนำวัตถุดิบที่มีในพื้นที่ อย่างข้าวหอมสุรินทร์ วัตถุดิบหลักในการผลิตของเรา และวัตถุดิบอื่นๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยมาแปรรูปเป็น Energy bars ซึ่งเป็นอาหารพร้อมรับประทานในรูปแท่ง ซึ่งเป็นการทำวิจัยและพัฒนาร่วมกันกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)”
ทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานรัฐ
ทั้งนี้ ได้ใช้เวลาในการทำวิจัยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนานกว่า 1 ปี โดยเป็นการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย วว. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ กระทรวงอุตสาหกรรม และเนื่องจากสินค้าของเราถือว่า เป็นนวัตกรรมใหม่ในการแปรรูปสินค้าเกษตรของไทย ทำให้สินค้าของเราได้รับการสนับสนุนจาก Siam Innovation Distric เมืองนวัตกรรมแห่งสยาม อีกด้วย
อย่ามองข้ามลูกค้าเพศหญิง
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของเราอยู่ในสังคมเมือง เนื่องจากปัจจุบันคนกลุ่มนี้นิยมและชื่นชอบการออกกำลังกาย หรือกลุ่มนักกีฬา ก่อนฝึกซ้อมหรือแข่งขัน ที่ผ่านมาปัญหานักกีฬา หรือคนออกกำลังกายหนักๆ คือ การรับประทานอาหารก่อนเล่นกีฬา เขาต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารนาน เพราะถ้าไม่รอให้อาหารย่อยก่อนอาจทำให้เกิดอาการจุก เสียด เรอ หรือ ท้องเสียได้ ดังนั้นจึงมีผลข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การกีฬาสำหรับอาหารที่ชัดเจนว่า สินค้าของเรา ProEngy Energy Bar ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มดังกล่าว
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าจะเป็นเพศชายกว่า 70% เพราะเป็นกลุ่มใหญ่ที่ออกกำลังกาย แต่ก็น่าแปลกใจตอนหลังเริ่มมีลูกค้าผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ 30% เห็นได้ว่าเทรนด์การออกกำลังกายแบบหนัก เริ่มมีในกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น โดยลูกค้าอายุเฉลี่ย 25-45 ปี ราคาจำหน่าย ปลีกอยู่ที่ชิ้นละ 75 บาท เป็นกล่อง กล่องละ 840 บาท มี 12 ชิ้น ปัจจุบันมีรายได้จากยอดจำหน่ายเดือนละ 60,000-80,000 บาท
นายไกรยุทธ กล่าวถึงช่องทางการจัดจำหน่ายว่า หลักๆ ช่องทางออนไลน์ ผ่านทาง Website/Facebook / Line @ /IG / YouTube กลุ่มนี้มากถึง 60% และช่องทางอื่น เช่น เวลามีงาน Event วิ่ง ขี่จักรยาน หรือไตรกีฬา เราก็จะไปเข้าร่วมทำกิจกรรม โดยผ่านทางออนไลน์ หรือไปร่วมออกร้าน และยังทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้านกีฬา สนับสนุนทีมกีฬาผ่านออนไลน์ และออฟไลน์
ผลิตเอง ขายเอง วัตถุดิบพื้นที่
สำหรับในส่วนของการผลิต เรามีโรงงานผลิตของเราเอง ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ได้นำเทคโนโลยีการจับแท่งจากงานวิจัย และออกแบบเตาอบลมร้อนขนาด 12 ถาด ที่มาช่วยอบข้าว ธัญพืช และวัตถุดิบอื่นๆ รวมไปถึงการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งใช้นวัตกรรมที่ออกแบบเป็นพิเศษ ช่วยให้มีความทันสมัย และช่วยยืดอายุการเก็บรักษา โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารกันบูด เนื่องจากต้องการให้สินค้าของเราเป็นอาหารเพื่อสุขภาพจริงๆ
ส่วนแหล่งที่มาของวัตถุดิบทั้งหมดที่นำมาใช้ ประกอบด้วย “กล้วย” มาจากจังหวัดพิษณุโลก ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ส่วนลำไยมาจากจังหวัดลำพูน มะม่วงหิมพานต์จากจังหวัดกระบี่ และอุตรดิตถ์ และสตรอเบอร์รีมาจากจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบในประเทศ ลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
โอทอปยุคใหม่ เน้นการสร้างแบรนด์
สำหรับแผนการตลาดในเบื้องต้น เน้นการสร้างความรับรู้ในแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ เช่น การออกบูท และนำผลิตภัณฑ์ไปแจกให้กลุ่มเป้าหมายได้ทดลอง หลังจากนั้นเริ่มให้ความรับรู้ ข้อมูล แนะนำเทคนิคเกี่ยวกับโภชนาการ การกีฬา และเทคนิคที่สำคัญของการออกกำลังกาย และให้ความรู้เกี่ยวกับที่มาวัตถุดิบ
ส่วนแผนการตลาดในระยะยาว คือ การทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า โดยสร้างพลังให้คนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีให้มากขึ้น แผนทำกิจรรมเพื่อสังคมอื่นๆ เช่น ส่งเสริมกิจกรรมกีฬาโรงเรียน ส่งเสริมกิจกรรมสร้างนักกีฬาช้างเผือก เป็นต้น และแผนส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ ทิศทางตลาดสินค้าสุขภาพเติบโตขึ้น คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้นมีโอกาสเติบโตสูง และในขณะเดียวกัน คู่แข่งที่เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศก็เพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่มั่นใจว่าสินค้าของเราไม่แพ้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น มั่นใจว่าลูกค้าคนไทยน่าจะสนับสนุนสินค้าของคนไทยด้วยกัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้มีรายได้เพิ่ม
“นายไกรยุทธ” บอกว่า ตนเดินมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านอะไรมามาก ผมเรียนจบปริญญาโท ความตั้งใจคือมาช่วยเหลือกิจการของแม่ แต่ก็จะมีคนโจมตีว่า เรียนจบสูงทำไมต้องมาทำตรงนี้ แต่ผมกลับคิดตรงข้าม ที่ผมเรียนจบสูงเพื่อที่จะมาช่วยเหลือยกระดับสินค้าเกษตรในชุมชนบ้านเกิด โดยได้น้อมนำพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในการทำงาน คือ ขาดตรงไหนให้เติม เกินตรงไหนให้ปรับเพื่อให้เกิดความพอดี
สนใจติดต่อ facebook/ นายไกรยุทธ แสวงสุข
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *