“ปูอ่อง” หรือ ปู๋อ่อง อาหารเหนือที่มีการพูดถึงกันอย่างมากในช่วงนี้ เพราะจากอาหารพื้นเมืองที่หากินยาก จะมีเฉพาะในพื้นถิ่น แต่วันนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถกินปูอ่องได้ หลังจากมีผู้นำปูอ่องมาเปิดขายออนไลน์
สำหรับปูอ่อง เป็นอาหารพื้นถิ่นของภาคเหนือ ถือว่าเป็นเมนูหากินยาก เพราะทำแค่ในช่วงฤดูที่มีปูนาเยอะ ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม พ้นจากนั้นไม่มีให้กิน ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวช่วงนั้นก็จะได้กินเมนูดังกล่าว แต่จะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินตลาดนัด เพราะไม่ได้มีขายในร้านอาหาร ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ ปูอ่อง ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
จนกระทั่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมามีร้านอาหารเหนือในกรุงเทพฯ ได้นำเมนูปูอ่องมาเสิร์ฟในร้าน พร้อมกับขายผ่านออนไลน์ ทำให้คนกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงที่เคยได้กินปูอ่อง สนใจสั่งซื้อ เป็นที่มาของ ปูอ่องออนไลน์ แต่หลังจากเพจดังอาหารแนะนำเมนูปูอ่อง จากคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยกินเริ่มสนใจ และหาซื้อปูอ่องกันทางออนไลน์ แต่ผู้ขายปูอ่องที่เราพูดถึงในวันนี้ เป็นหนึ่งในร้านออนไลน์ที่ได้รับความนิยม ชื่อว่า “ร้านปู๋อ่อง อ่องปูมันติดปาก” ของ “นางสาววรินทร์ สุขพรหม”
“นางสาววรินทร์” เจ้าของเพจ ปู๋อ่อง อ่องปูมันติดปาก เล่าว่า ปูอ่องเป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือในแถบจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เป็นการนำส่วนมันปูมาผสมกับไข่ และปรุงรสตามชอบ คนให้เข้ากัน และใส่ลงในกระดองปู ก่อนจะนำไปปิ้งบนเตาถ่านเพื่อทำให้สุกก่อนจะนำมารับประทาน แต่พอเรามาทำขาย การใส่ในกระดองปูคงไม่สะดวก และทำให้เสียเร็ว ก็เลยเปลี่ยนจากใส่ในกระดองปูมาใส่ภาชนะอื่นๆ หลังจากได้ปูอ่องที่สุกพร้อมกิน นำมาบรรจุลงในขวดแก้วแบบพาสเจอไรซ์เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งปูอ่องของร้านเราเก็บในตู้เย็นได้ 1 เดือน แต่ถ้าอยู่นอกตู้เย็นอยู่ได้เพียง 1 วันเท่านั้น ทำให้การขายออนไลน์ในช่วงแรกจะมีปัญหาในเรื่องการขนส่ง แต่โชคดีที่ปัจจุบันมีบริการขนส่งที่ให้บริการรวดเร็ว ส่งได้ถึงภายใน 1 วันทั่วประเทศ
“ในช่วงแรกที่นำปูอ่องมาขายเริ่มจากเราเห็นเพจร้านอาหารเหนือนำปูอ่องมาขายออนไลน์ ซึ่งบ้านที่เชียงใหม่ของเราแม่ทำปูอ่องขายอยู่แล้ว เกิดความคิดว่าถ้าอย่างนั้นลองเอาปูอ่องมาขายออนไลน์บ้าง แต่ต้องปรับแพกเกจจิ้งให้ดูดี เพื่อสะดวกในการขนส่ง และที่สำคัญต้องช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งเป็นจังหวะที่เราว่างงานอยู่แล้ว ตอนนั้นลาออกมาเลี้ยงลูก แต่ในช่วง 6 เดือนแรก ขายได้น้อยมาก วันละ 2-3 กระปุก เดือนหนึ่งประมาณ 40 กระปุก แต่มาช่วงหนึ่งเพจดังที่รีวิวอาหารได้แนะนำเมนูปูอ่อง จึงเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้มีคนรู้จักปูอ่องมากขึ้น และเขาก็เริ่มค้นหาเพื่อซื้อปูอ่องมาลองกิน จนได้มาเจอเรา และสุดท้ายเป็นลูกค้า จากยอดขายวันละ 3-4 กระปุก เพิ่มเป็นวันละ 40 กระปุก เดือนหนึ่งขายได้ประมาณ 400-500 กระปุก"
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เริ่มช่วง 5-6 เดือนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะยอดขายน้อยมาก เพียงแค่เอาของที่แม่ทำขายมาขายต่อ ซึ่งก่อนหน้าที่จะขายได้มากขนาดนี้เราก็ไม่ได้ละความพยายาม มีการซื้อแอดในเฟซบุ๊ก และกูเกิล โดยลองทุกทางที่ช่วยโปรโมตเพจให้เป็นที่รู้จัก แต่ก็ไม่ช่วยอะไร จนมาได้เพจดังกล่าว ทำให้เราได้ลูกค้าค้นหาผ่านกูเกิล เพจชื่อร้านของเราก็ขึ้นมาเลย วันนี้ลูกค้ากว่า 70% เป็นลูกค้าประจำ ส่วนลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับลูกค้าประจำ ดังนั้น สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือ รสชาติ และคุณภาพที่ต้องเหมือนเดิม
ในส่วนของการผลิต “วรินทร์” บอกว่า เราเป็นกิจการเล็กทำกันในครอบครัว โดยแม่ และน้องสาวช่วยกันทำอยู่ที่เชียงใหม่ และส่งมาให้เราที่กรุงเทพฯ ทางเครื่องบิน และเราก็นำมากระจายส่งลูกค้าโดยบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งสามารถส่งของได้ทุกวัน และรวดเร็ว หลังจากที่มีออเดอร์มากขึ้น จากเดิมทำขายเล็กในช่วงที่ปูนาเยอะ วันนี้ทำอย่างจริงจัง และต้องทำทุกวัน ส่วนของปูนา แม่ก็จะรับซื้อจากชาวบ้าน ซึ่งสามารถหาปูนามาส่งให้เราได้ตามที่ต้องการ บางส่วนซื้อเก็บไว้เพราะราคาปูนาขึ้นอยู่กับช่วงฤดู ถ้าเป็นช่วงที่มีปูนาออกมาเยอะ ราคาถูกเหลือกิโลกรัมละ 100 บาท แต่ถ้าเป็นช่วงที่ปูขาดตลาด อัปขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งปู 1 กิโลกรัมได้มันปูเพียงเล็กน้อย ต้นทุนของเราค่อนข้างสูง เพราะเราจะเน้นมันปูถึง 70% ที่เหลือเป็นไข่ โดยไม่มีส่วนผสมแป้ง ส่วนราคาขาย 1 กระปุก ขายในราคา 160 บาท น้ำหนัก 700 กรัม
วรินทร์เล่าว่า แม้ว่าวันนี้กระแสของปูอ่องเริ่มเป็นที่รู้จัก และมีคนเข้ามาขายผ่านออนไลน์มากขึ้น แต่เราก็ยังสามารถรักษายอดขายไว้ได้ เนื่องจากเราทำในสิ่งที่ครอบครัวเราถนัด และเชื่อมั่นในคุณภาพ ดังนั้น ลูกค้าที่เคยกินก็จะกลับมากินของเรา ในขณะที่ผู้ขายรายอื่นๆ ถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่ก็ต้องไปรับของมาขาย และที่สำคัญ ไม่รู้จักปูอ่องได้ดีเท่ากับเรา การอธิบายลูกค้าในการกิน หรือแนะนำเมนูที่ใช้ปูอ่อง ก็คงจะอธิบายได้ไม่ดีเท่ากับเรา ซึ่งคุ้นเคยมานาน จึงเป็นจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
สำหรับรายได้ วรินทร์บอกว่า ปัจจุบันเธอมีรายได้ในระดับที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพราะนอกจากจะสร้างรายได้ให้ตัวเองมากกว่าเงินเดือนประจำที่เคยทำหลายเท่า ยังสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัดได้อีกด้วย ที่สำคัญเป็นอาชีพช่วยให้เราสามารถทำควบคู่ไปกับการดูแลลูกอีกด้วย
สนใจโทร. 08-3092-6161 FB: ปู๋อ่อง อ่องปู มันติดปาก
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
