ก้าวเข้าสู่ปี 2561 ถือเป็นปีที่ประเทศไทยและทั่วโลกก้าวสู่ยุค 4.0 อย่างเต็มรูปแบบปฎิเสธไม่ได้เรื่องเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนทุกเพศทุกวัยดังนั้นเมื่อมีสิ่งใหม่เกิดขึ้น ภาคธุรกิจก็ต้องปรับตัวและก็เป็นธรรมดาที่หลายธุรกิจต้องล้มหายตายจากกันไป
ทำให้บรรดานักวิชาการและสถาบันการเงินออกมาฟันธงถึงธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วงที่จะเห็นเกิดขึ้นในปี 2016 เริ่มจากศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “นายธนวรรธน์ พลวิชัย” ได้เปิดเผยถึงผลการวิจัยธุรกิจ 10 ดาวรุ่ง ในปีจอว่า คงหนีไม่พ้นในเรื่อง “ธุรกิจการให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและอุปกรณ์ (ผู้ให้บริการโครงข่าย)” ซึ่งอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นในปี 2561 จะเป็นยุคไอทีเต็มรูปแบบที่จะเข้ามามีบทบาทต่อระบบการค้าและการประกอบธุรกิจที่ผู้คนต้องหันมาพึ่งเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็วตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคโดยเฉพาะการค้าในรูปแบบของ อีคอมเมิร์ซก็จะยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
2.ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม จะเห็นได้จากหลายประเทศตื่นตัวในเรื่องนี้และให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพส่งผลให้ธุรกิจทางการแพทย์และโรงพยาบาลมีอัตราเติบโตสูงสุดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา 3.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะสังเกตเห็นได้ว่าที่ผ่านมาการสั่งซื้อสินค้าผ่านโลกออนไลน์มีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องผู้คนลดการจับจ่ายนอกบ้าน เลือกความสะดวกสบายโดยสั่งสินค้าผ่านหน้าจอและให้จัดส่งถึงบ้าน ดังนั้นในอนาคตการมีหน้าร้านอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป
4.ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์คนรักสุขภาพ ที่ทุกคนหันมาใส่ใจถึงความงาม ทั้งภายนอกและภายในที่ต้องแข็งแรงและน่ามองควบคู่กันไป 5.ธุรกิจด้านปิโตรเคมีและพลาสติกธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เรื่องพลังงานและการขนส่งถือเป็นสิ่งจำเป็นในโลกยุคปัจจุบันที่ภาคเศรษฐกิจเติบโตสูงสุดการใช้พลังงานจึงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว รวมถึงภาคการขนส่งที่เชื่อมถึงกันอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์กลายเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองอีกหนึ่งอาชีพที่ผู้คนกำลังให้ความสำคัญและอยากจะกระโจนเข้าสู่ธุรกิจนี้ เป็นจำนวนมาก 6.ธุรกิจโมเดิร์นเทรดธุรกิจบริการทางด้านการเงินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพราะอาหารและเครื่องดื่มถือเป็นปัจจัย 4 ดังนั้นจึงติดเทรนด์ธุรกิจในทุกปีที่มีอัตราการเติบโตแต่ในอนาคต ผู้บริโภคจะหันมาให้ความสำคัญในเรื่องบริการดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับตัวและพร้อมแข่งขันเรื่องการบริการมาเป็นอันดับหนึ่ง
7.ธุรกิจยา ซึ่งธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจโรงพยาบาลที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้นธุรกิจยาและเวชภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์จึงมีอัตราเติบโตตามไปด้วย 8.ธุรกิจด้านการศึกษา ธุรกิจเกี่ยวกับทางด้านท่องเที่ยว สังเกตได้จากคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญทั้งด้านการศึกษาและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็กมักจะให้ความสำคัญกับ 2 ธุรกิจนี้เน้นการเรียนรู้นอกสถานที่ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตตามไปด้วย รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุจากต่างประเทศก็นิยมท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน
9.ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบ้านเช่าหรือห้องเช่าธุรกิจด้านความเชื่อ (โหราศาสตร์เครื่องรางของขลัง) ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นตามจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งส่งผลให้ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตไม่ว่าจะเป็นคอนโดบ้านเดี่ยวหรือบ้านเช่าในขณะที่ธุรกิจด้านความเชื่อถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงแซงโค้ง สะท้อนถึงสภาพสังคมแม้ไม่ว่าสังคมจะเติบโตไปมากน้อยเพียงใด แต่สุดท้ายผู้คนก็ยังต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจไม่แพ้กัน และ10.ธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาและธุรกิจร้านเสริมสวย/ตัดผมแนวแฟชั่น
ขณะที่ธุรกิจดาวร่วง 10 ธุรกิจ ที่ถึงแม้จะมีการปรับตัวแต่ โอกาสในการเติบโตคงเป็นไปได้ยาก ได้แก่ 1. ธุรกิจหัตถกรรม 2.ธุรกิจเมืองแร่ 3.ธุรกิจสิ่งพิมพ์ธุรกิจเช่าหนังสือ 4.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องเล่น cd และ DVD 5.ธุรกิจการผลิตและจำหน่ายแผ่น cd และ DVD ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน 6.ธุรกิจเคเบิ้ลทีวี 7.ธุรกิจสินค้าเกษตร 8.ธุรกิจโทรศัพท์มือสอง 9.ธุรกิจร้านค้าดั้งเดิม 10 ธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ต
***สถาบันการเงินฟันธงธุรกิจดาวรุ่งโกยทรัพย์***
คงจะเห็นภาพชัดขึ้นสำหรับธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วงในปี 2561 แต่ก็ยังมีอีกหลายธุรกิจที่สถาบันการเงินได้ฟันธงไว้ถึงเทรนด์ธุรกิจเหล่านี้ที่มาแรงแน่นอนหากผู้ประกอบการรายใดที่คิดจะเริ่มต้นธุรกิจก็ไม่ควรมองข้ามเทรนด์เหล่านี้
ดังนั้น “ทีมงานเอสเอ็มอีผู้จัดการ” ได้รวบรวมเทรนด์ธุรกิจจากสถาบันวิจัยธุรกิจชั้นนำของไทยและสถาบันการเงิน ที่เคยวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคตมารวบรวมไว้ 11 ธุรกิจ ได้แก่
1.ธุรกิจโฮมแคร์ ซึ่งเป็น 'ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน' ตอบโจทย์ การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อย่างเต็มรูปแบบซึ่งธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มพัฒนาสู่รูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้นทั้งการบริการพื้นฐานที่ดูแลด้านสุขภาพไปสู่การบริการที่ครบวงจร
2.ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสสำเร็จรูป เพราะต่อไปความเร่งรีบและเวลาในการเข้าครัวของผู้คนจะลดน้อยลงดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า 'สำเร็จรูป' จะเข้ามามีบทบาทอย่างสูงเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกสบายและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี
3.วิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จากกระแสที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคมากกว่าการรักษา ดังนั้นวิตามินและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จึงเข้ามามีบทบาทในวิถีชีวิตของผู้คนมากขึ้น รวมถึงชีวิตที่รีบเร่งการรับประทานอาหารอาจไม่ครบ 5 หมู่ จึงต้องเสริมด้วยวิตามิน
4.ธุรกิจบริการการดูแลสุขภาพจากภายในและภายนอก เช่น ธุรกิจด้านความงามและการชะลอวัย บริการสปาและองค์ประกอบ รวมถึงการท่องเที่ยวแบบ Wellness Tourismสอดรับกับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
5.ธุรกิจสถานเสริมความงาม (ผิวพรรณ รูปร่างและพัฒนาบุคลิกภาพ) การมีบุคลิกภาพที่ดี รูปร่างหน้าตาที่พึงพอใจ ล้วนเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันให้แต่ละคนเป็นอย่างมาก ดังนั้นความต้องการดูดีทันสมัยและชะลอความแก่ตามวัย จึงกลายมาเป็นความต้องการของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะในสังคมเมือง โดยกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างหน้าตา (เพื่อความสวยงามและรักษาโรค)ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ บุคลิกภาพ กลุ่มนี้มีความเต็มใจที่จะจ่ายสูงมาก หากได้รับความพึงพอใจเรื่องของความงามและความมั่นใจในการออกไปสู่สังคม
6.ธุรกิจรับสร้างบ้านครบวงจร ตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ในอนาคต โดยคาดว่าจะขยายตามจำนวนบ้านที่มีอายุเกินกว่า 30 ปี ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 3.1 แสนหลัง ในระหว่างปี 2018-2021 และธุรกิจนี้จะขยายไปตามต่างจังหวัดและหัวเมืองใหญ่ ซึ่งมีความต้องการที่จะสร้างบ้านเอง สะท้อนจากตัวเลขการขอใบอนุญาตก่อสร้างบ้านเดี่ยวรวมกันที่ขยายตัวต่อเนื่อง
7.ธุรกิจ Home Care เป็นธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่บ้านตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุในสังคมไทยที่นิยมอยู่บ้าน โดยที่ธุรกิจยังมีแนวโน้มพัฒนารูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งการบริการพื้นฐานที่ดูแลด้านสุขภาพไปสู่การบริการที่ครบวงจร
8.ทัวร์สําหรับผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพราะวัยนี้มีทั้งเวลาและทุนทรัพย์ จึงต้องการใช้ชีวิตในบั้นปลายไปกับการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันไทยสามารถขยายตลาดนักท่องเที่ยวเกษียณอายุต่างชาติที่มีศักยภาพ อาทิ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และ เยอรมนี
9.ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ และธุรกิจวัสดุก่อสร้าง จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของธุรกิจ home care โดยธุรกิจอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในบ้านมีแนวโน้มเติบโตตามความต้องการการดูแลของผู้สูงอายุในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด เตียง และรถเข็น
10.บรรจุภัณฑ์กระดาษ เมื่อภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตการขนส่ง และการส่งออกก็เข้ามามีบทบาท โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์และอาหารแปรรูป ทำให้ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับบรรจุหรือลำเลียงสินค้ามีแนวโน้มเติบโตตามไปด้วย ซึ่งประเทศจีนมีแนวโน้มนำเข้าผลิตภัณฑ์กระดาษจากไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกระดาษคราฟท์ที่ใช้สำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ และแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และธุรกิจ E-Commerce ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
11.ผลิตภัณฑ์ความงามจากข้าว มีแนวโน้มเติบโตสูงตามการเติบโตของมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ความงามของไทยที่เพิ่มขึ้นถึง 8% ปัจจุบันไทยสามารถผลิตแป้งฝุ่นและแป้งอัดแข็งจากแป้งข้าวเจ้าได้ มีความปลอดภัย สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติปลอดสารเคมีมากขึ้น
***ผปก.ปรับตัวรับเทรนด์ธุรกิจปี 61***
การแข่งขันทางธุรกิจเริ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการด้านธุรกิจก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมอย่างไร ให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ในปี 2561 ทาง “ธนาคารออมสิน” มีคำแนะนำมาฝากกัน
1.ศึกษาเทรนด์ธุรกิจและคู่แข่งให้ดี ว่าตอนนี้ได้มีการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว พร้อมสังเกตคู่แข่งของเราด้วยว่า อยู่ในขั้นไหน ทำอะไรอยู่ สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้หรือไม่
2.เริ่มต้นเตรียมทีมธุรกิจให้พร้อมสำหรับการเติบโต คนในทีมถือว่ามีส่วนสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ ดังนั้นควรมีการเตรียมความพร้อม ทั้งใจ ทั้งกายให้ดี จะต้องมีทักษะ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของเราด้วย
3.รู้ช่องทางการขายที่เหมาะสมกับลูกค้าของคุณ ทั้งนี้การขายของช่องทางเดียวมักจะไม่ตอบโจทย์กับลูกค้าแล้ว เช่น ขายออนไลน์ และต้องมีหน้าร้านขายด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นหรือลองของจริงที่หน้าร้าน จะได้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูด้วยว่าสินค้าที่ขายคนส่วนใหญ่สนใจในช่องทางไหน ออนไลน์หรือ หน้าร้าน ต้องดูให้ดี
4.มีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ดี การจัดเก็บข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ธุรกิจที่ดีต้องมีการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสถิติการขาย ข้อมูลสต๊อกสินค้า หรือข้อมูลช่องทางการจัดจำหน่าย ดูที่สถิติว่าคนสนใจแบบใดมากที่สุด เพื่อนำมาปรับ หรือพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
คิดจะทำธุรกิจแล้วเรื่องการศึกษาเทรนด์เป็นสิ่งไม่ควรไม่ข้าม เพื่อคว้าชัยเหนือคู่แข่งและกอบโกยทรัพย์ได้ก่อนใครเมื่อโลกหมุนไวผู้ประกอบการก็ต้องก้าวตามให้ทัน เพราะถ้ามัวย่ำอยู่กับที่นั่นคือ 'หายนะ' ทางธุรกิจที่ต้องพบเจอในไม่ช้า
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *