กลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพไปแล้วสำหรับ “ไข่ขาว” เพราะปราศจากไขมันและคอลเลสเตอรอล เหมาะกับคนดูแลสุขภาพที่ต้องการโปรตีน และผู้ป่วยที่ต้องการควบคุมอาหาร ซึ่งไข่ขาวเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ในเมื่อตามท้องตลาดปัจจุบันไข่ขาวจะผลิตออกมาให้รูปแบบน้ำ ผู้บริโภคต้องนำมาปรุงอีกครั้ง คงจะดีหากมีไข่ขาวพร้อมทาน พกพาสะดวก ทำให้มีผู้ประกอบการหัวใส ใช้ความรู้ด้านเบเกอรี่แปรรูปไข่ขาวเรื่อยมาจนกลายเป็น “ไข่ขาวพร้อมทาน” แบรนด์ FiNe (ฟินอี) บรรจุถ้วยเพิ่มคุณค่าด้วยวิตามินสร้างความต่าง
เมื่อไข่ขาวมาในรูปแบบของน้ำทำให้ยากต่อการรับประทาน ทำให้ผู้ที่ต้องดูแลคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และสามีรับประทานแต่อาหารคลีนเน้นโปรตีนจากไข่ขาวเพียงอย่างเดียว “ภารดี เกียรติอุทัย” หรือ คุณก้อย จึงต้องเสาะหาวิธีการแปรรูปไข่ขาว เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น อาศัยความรู้พื้นฐานด้านเบเกอรี่มาแปรรูป ผลงานชิ้นแรกออกมาเป็น 'ไข่ขาวอบกรอบ' ในลักษณะเป็นแท่ง กระทั่งไปเจอคลิปของต่างประเทศ ได้มีการนำไข่ขาวมาฉีดลงในหลอดพลาสติกคล้ายเต้าหู้หลอด ทำให้เธอเกิดไอเดียที่จะนำการแปรรูปไข่ขาวในลักษณะนี้ออกมาในเชิงธุรกิจอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่มีในท้องตลาด
เรียกได้ว่าความคาดหวังในผลิตภัณฑ์ “ไข่ขาวหลอด” มีสูงมาก เพราะเธอเชื่อมั่นว่าเป็นกรรมวิธีที่ทำให้การรับประทานไข่ขาวเป็นเรื่องง่ายที่สุด แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะมียอดการสั่งซื้อเข้ามาอย่างเนื่อง มียอดการผลิตประมาณ 400 แท่ง/วัน ในขณะที่ฟีดแบคของลูกค้าที่แจ้งปัญหาเข้ามาคือ การแกะเพื่อรับประทานยาก รวมถึงเมื่อเธอนำผลิตภัณฑ์ไปนำเสนอกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ ก็พบช่องโหว่หลายอย่างที่เธอคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่คล้ายเต้าหู้หลอด แต่ราคาสูงกว่าโดยขายในราคา 39 บ./แท่ง ทำให้เป็นเรื่องยากที่ลูกค้าจะเลือกซื้อไข่ขาว เพราะผู้บริโภคจดจำไปแล้วว่าบรรจุภัณฑ์ลักษณะนี้จะต้องเป็นเต้าหู้หลอดเท่านั้น ส่วนความสะดวกในการรับประทานก็ยังไม่ตอบโจทย์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไข่ขาวยังเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม
จากข้อคิดดังกล่าวที่เธอได้รับมานั้น ทำให้เธอต้องกลับมาขบคิดพร้อมหาทางอุดช่องโหว่เหล่านี้ให้ได้ เธอตัดสินใจหยุดการผลิตไข่ขาวทันที ประกอบกับเป็นช่วงที่เธอตั้งครรภ์ ทำให้มีเวลามานั่งขบคิดทบทวนข้อผิดพลาดในการดำเนินธุรกิจ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจย์ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง สุดท้ายมาลงตัวที่ไอเดียการนำไข่ขาวบรรจุลงถ้วย เป็นไข่ขาวเนื้อเนียนคล้ายโยเกิร์ต ฆ่าเชื้อด้วยระบบพาสเตอร์ไรส์เก็บได้นาน 1 เดือน โดยต้องแช่เย็น เธอทำออกมาใน ในรสชาติต่างๆ รสชาติ ได้แก่ ซอสสลัดงาวาซาบิ น้ำพริกตาแดง และดั้งเดิมพร้อมซอสโชยุ
เจาะตลาดห้างเครือเซ็นทรัลขายในท็อปซูเปอร์มาร์เก็ตโดยกลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ คนเล่นกล้าม ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และคนรักสุขภาพ รวมถึงขายในช่องทางออนไลน์ด้วยทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงมีร้านขายสลัดไปจำหน่ายที่ร้าน และสาขาในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกด้วย
แต่การพัฒนาก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะเธอเชื่อว่าถ้าผลิตภัณฑ์ไข่ขาวฟินอีของเธอ ไม่ต้องแช่เย็น และเก็บได้นานขึ้น ก็จะสามารถเปิดตลาดได้ไกลและไปทั่วโลกได้ กระทั่งมาเจอโรงงานผลิตอาหารแปรรูป “บริษัท ฟูดส์ อินโน สตาร์ท อัพ จำกัด” ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของเธอให้เพิ่มมูลค่าและคุณค่าขึ้น เริ่มจากการวิเคราะห์รสชาติสูตรเดิมที่ทำมาแล้ว แต่พบว่าน้ำพริก วาซาบิ ไปต่อไม่ได้เพราะต้องแช่เย็น ดังนั้นทางโรงงานผลิตจึงแนะนำให้ใส่คอลลาเจน แคลเซียม และไฟเบอร์ลงไปแทน ทำให้ปัจจุบันไข่ขาวฟินมีทั้งหมด 4 สูตร คือ สูตรดั้งเดิม พร้อมซอสโชยุ 2.ไข่ขาวพร้อมทานสูตรคอลลาเจน 3.สูตรแคลเซียม และ 4.สูตรไฟเบอร์ ซึ่งไม่ได้ใส่เพียงเล็กน้อยแต่ให้คุณประโยชน์ตามสูตรที่ผู้บริโภครับประทานเข้าไปอย่างแท้จริง
กล่าวคือ 'สูตรคอลลาเจน' ผู้บริโภคจะได้คอลลาเจนเทียบเท่าการรับประทานหูฉลาม 1 หู โดยสกัดจากปลาน้ำจืด ช่วยทำให้ผิวมีออร่าผิวสวยเด้งใสเหมือนผิวเด็ก 'สูตรแคลเซียม' มีปริมาณแคลเซียมเทียบเท่า นมปริมาณ 100 มล. ช่วยเสริมสร้างกระดูและฟันให้แข็งแรง ส่วน 'สูตรไฟเบอร์' มีใยอาหารไฟเบอร์ เทียบเท่าผักสลัด 1 ชาม และ 'สูตรดั้งเดิม' พร้อมซอสโชยุ ให้โปรตีน 13 กรัม พลังงาน 50 แคลอรี่ ไขมัน 0%
ทั้ง 4 สูตรที่ทำออกมาวางตลาดนั้น เธอไม่ได้คิดเล่นๆ แต่อาศัยข้อมูลทางการตลาดประกอบ โดยทางโรงงานผลิตเป็นผู้แนะนำ พร้อมข้อมูลที่อ้างอิงว่าขณะนี้ผู้คนกำลังให้ความสำคัญกับคุณค่าทางอาหารที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ รวมถึงยังเจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจน กลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้หญิงวัยทำงาน แคลเซียม ผู้สูงอายุ และเด็ก และไฟเบอร์ คนไม่รับประทานผัก และสูตรดั้งเดิม เป็นผู้สูงอายุ
“ไข่ขาวฟินอีทุกสูตรจะมีโปรตีนสูง ไม่มีคอลเลสเตอรอล ไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมัน และแคลอรี่ต่ำ เหมาะแก่การสร้างกล้ามเนื้อ สร้างเกร็ดเลือด และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บางคนซื้อติดบ้านเพื่อรับประทานตอนหิว เหมาะกับมื้อดึกเป็นอย่างมาก แถมยังรับประทานง่าย ไม่คาว ขายในราคาถ้วยละ 49 บาท ขนาด 120 กรัม ซึ่งสูตรดั้งเดิมขายดีที่สุด เก็บได้นาน 1-2 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น”
หรือหากใครที่ไม่สามารถรับประทานไข่ขาว รสจืดได้ ก็สามารถนำไปประกอบการอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น แกงเขียวหวานไข่ขาว แกงจืดวุ้นเส้นใส่ไข่ขาวแทนเต้าหู้ ยำไข่ขาว และเมนูอื่นๆ ได้ตามใจชอบ และเร็วๆ นี้คุณก้อยเตรียมเจาะกลุ่มลูกค้าเพิ่มเติม ซึ่งเธอบอกว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเจาะกลุ่ม 'ดีต่อใจ' หมายถึงกลุ่มคนที่เน้นรสชาติความอร่อยต้องมาก่อน เธอจึงเตรียมทำไข่ขาวทรงเครื่อง มีรสชาติเค็ม เผ็ด กลมกล่อม เหมาะกับคนที่ชอบหิวกลางดึก แต่ยังกลัวอ้วน โดยจะวางจำหน่ายในแฟมิลี่ มาร์ท และไข่ขาวต้มยำ เน้นรสจัดจ้านหอมกลิ่นเครื่องต้มยำแบบไทยก็มีให้เลือกสรร
สำหรับเทรนด์การบริโภคไข่ขาว คุณก้อย บอกว่า เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ไข่ขาวจึงเป็นแหล่งโปรตีนที่คนกลุ่มนี้ต้องการมากขึ้น และยิ่งเธอได้ใส่สารสำคัญต่อร่างกายลงไปด้วยทำให้ยิ่งได้รับการตอบรับดี เธอตั้งใจไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะก้าวไปตามเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันไข่ขาวฟินอี มีกำลังการผลิตประมาณ 5 แสนถ้วย/เดือน ส่วนแผนในการเจาะตลาดต่างประเทศ อยู่ในช่วงศึกษาตลาด เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ ซึ่งขณะนี้เรื่องรสชาติยังไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของคนเอเชีย ที่ส่วนใหญ่รับประทานอาหารรสจัด ส่วนสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ถือว่ามีอัตราการเติบโตของตลาดสูงกว่า
แม้จะเป็นเพียงแค่ไข่ขาว แต่หากนำมาแปรรูปผ่านกระบวนการด้านนวัตกรรมอาหารก็ทำให้เดินทางไปได้ไกลขึ้น ดังนั้นไม่ควรมองข้ามเมนูคุ้นชิน ที่ไม่แน่สักวันอาจจะไปผงาดบนเวทีโลกแบบไม่ทันตั้งตัว
***สนใจติดต่อ 08-8594-4646 หรือที่ Facebook: Fiit***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
