xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์กรุงไทยเผย 3 กูรูเอสเอ็มอีพันล้าน ชี้เทคโนโลยีสำคัญช่วยดันธุรกิจโตก้าวกระโดด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย
แบงก์กรุงไทยเติมเต็มความรู้เอสเอ็มอี จัดสัมมนาประจำปี “แชร์ทางลัด ชัดทางรวย ด้วยไอเดีย” ระดม 3 กูรูนักธุรกิจมากประสบการณ์แชร์ความรู้ พร้อมเผยเคล็ดลับติดปีกธุรกิจทะยานสู่ร้อยล้าน ผู้บริหารกรุงไทยเชื่อสิ่งที่ SMEs ต้องมีมากกว่าเงินทุน คือองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดจากเจ้าของธุรกิจโดยตรง คาดจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองช่วยสร้างธุรกิจไทยเติบโต และเดินไปข้างหน้า

ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในยุคที่ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนด้วยภาคเศรษฐกิจ ซึ่งธุรกิจเอสเอ็มอีถือว่ามีส่วนสำคัญในการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ดังนั้นการสร้างรากฐานในการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งธนาคารกรุงไทยก็มีนโยบายให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทุน และให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

“เราต้องการเป็นพันธมิตรที่ดีของลูกค้า ให้ความไว้วางใจเพื่อการเติบโตไปด้วยกัน ดังนั้นเราจึงเน้นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาไอเดียของผู้ประกอบการที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็ม และสามารถแตกกิ่งก้านสาขาในเชิงธุรกิจออกไปได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจมีความแตกต่าง และสามารถแข่งขันในเชิงธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในไทยหรือต่างประเทศ ซึ่งงานสัมมนาในครั้งนี้เป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในหัวข้อที่แตกต่างกันไป โดยเน้นประเด็นที่อยู่ในกระแส และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ซึ่งผู้ประกอบการทั้ง 3 รายที่ทางแบงก์กรุงไทยได้เชิญมา ได้แก่ คุณอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของธุรกิจแพ 500 ไร่, ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด และคุณชิตพล มั่งพร้อม ประธานบริหาร บริษัท อินเตอร์เน็ต เบส บิซิเนส จำกัด จะช่วยเปิดมุมมองให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าว
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด
สำหรับแนวคิดจากเวทีสัมมนา “แชร์ทางลัด ชัดทางรวย ด้วยไอเดีย” จากวิทยากรทั้ง 3 ท่าน เริ่มจาก “ดร.องอาจ กิตติคุณชัย” ประธานบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรแบรนด์ซันสวีท และ KC ที่มีความโดดเด่นในการแปรรูปข้าวโพดหวานรายใหญ่ของไทย และผู้ส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก เผยว่า ในปัจจุบันการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะภาคการเกษตร จากเดิมที่ต้องอาศัยลมฟ้าอากาศในการปลูก ทำให้ไม่สามารถคำนวณผลผลิตในแต่ละปี และไม่สามารถแจ้งข้อมูลผลผลิตแก่ลูกค้าได้ รวมถึงไม่สามารถแจ้งตัวเลขในเรื่องของรายได้แก่ธนาคารที่จะปล่อยสินเชื่อ แต่ปัจจุบันเมื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ มีระบบเซ็นเซอร์ในแปลงปลูก ทำให้รู้ว่า ณ เวลานั้นข้าวโพดต้องการน้ำ หรืออุณหภูมิเท่าไรที่จะช่วยในการเติบโต ทำให้ลดแรงงานคน และใช้คนกับงานที่ต้องอาศัยความละเอียดที่เครื่องจักรทำไม่ได้แทน ส่งผลให้รายได้ทะลุหลายพันล้านในเวลาไม่กี่ปีเมื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ และในอนาคตอันใกล้เตรียมนำบริษัทเข้าตลาด MAI
คุณอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุราษฎร์ อินเตอร์ทัวร์ จำกัด เจ้าของธุรกิจแพ 500 ไร่
ด้านคุณอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุราษฎร์ อินเตอร์ทัวร์ จำกัด เจ้าของธุรกิจแพ 500 ไร่ เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เริ่มต้นจากศูนย์ไม่มีความรู้เรื่องการท่องเที่ยวมาก่อน แต่อาศัยใจรักและเป็นคนในพื้นที่ที่เข้าใจธรรมชาติของนักท่องเที่ยว จึงเนรมิตที่พักในเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี สู่รีสอร์ตที่มีผู้จองเต็มข้ามปี แม้ราคาจะสูงที่สุดในบรรดาที่พักในเขื่อน ตกคนละ 6,000 บาท/คน/คืน ซึ่งเขาเผยเคล็ดลับในการดำเนินธุรกิจนี้ให้ฟังว่า อยู่ในทำเลที่ดี แม้จะเป็นที่พักที่อยู่ลึกที่สุดในเขื่อนรัชชประภาก็ตาม แต่เมื่อกลับมามองอีกด้านถึงวัตถุประสงค์ของผู้ที่เข้ามาพักว่าต้องการอะไร ซึ่งการพักผ่อนเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ดังนั้นทำเลดังกล่าวจึงตอบโจทย์ได้ดีที่สุดเพราะห่างไกลผู้คน มีความเงียบสงบ มีวิวแบบพานอรามา ในขณะที่มีสิ่งที่ธรรมชาติสร้างไว้เป็นจุดขาย และการขายธรรมชาติจากคนท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวสัมผัสได้

ทั้งนี้ ในช่วงแรกคุณอติรัตน์ตั้งใจไว้ว่าไม่ต้องการนำเทคโนโลยีมาใส่กับธุรกิจแพ 500 ไร่มากนัก แต่ด้วยสังคมที่เปลี่ยนไป การสร้างการรับรู้และการเปิดการขายเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เขาต้องให้ฝ่ายขายเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นอันดับแรกเพื่อความสะดวกในการจองที่พักแก่นักท่องเที่ยว ขณะที่ในภาคส่วนอื่นๆ อย่าง ฝ่ายต้อนรับ ก็ยังคงให้ชาวบ้านทำอยู่ อาศัยวัฒนธรรมท้องถิ่นมาเป็นจุดขายและสร้างความประทับใจ ซึ่งก็ถือว่าเขาเดินมาถูกทาง เห็นได้จากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวซ้ำ เพราะการพักผ่อนที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
คุณชิตพล มั่งพร้อม ประธานบริหาร บริษัท อินเตอร์เน็ต เบส บิซิเนส จำกัด
ด้านคุณชิตพล มั่งพร้อม ประธานบริหาร บริษัท อินเตอร์เน็ต เบส บิซิเนส จำกัด สตาร์ทอัพดางรุ่ง ผู้สร้างแพลตฟอร์มด้านข้อมูลในโลกออนไลน์ สู่ข้อมูลสำคัญที่เจ้าของแบรนด์ องค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกต้องการเพื่อนำไปวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาด ภายใต้แบรนด์ “Zanroo” (แสนรู้) ทำให้ขณะนี้เขากลายเป็นสตาร์ทอัพที่มีรายได้หลายร้อยล้านบาทในวัยที่ยังไม่ถึง 30 ปี แถมยังมีสาขาอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเขาให้ข้อคิดในการดำเนินธุรกิจไว้ 4 ข้อ คือ 1. ต้องทำธุรกิจที่ล้มแล้วไม่เจ็บ กล่าวคือ เงินลงทุนต้องเป็นจำนวนที่มีอยู่ก่อนแล้ว ในสัดส่วนที่หากนำมาลงทุนแล้วไม่ประสบความสำเร็จจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่น หรือกับตัวเอง 2. ทำธุรกิจแล้วผลลัพธ์แห่งการลงทุนต้องได้กลับมาแบบ 1:10 ไม่ใช่ 1:1 เพราะจะไม่คุ้มค่า 3. ไม่พึ่งคนอื่น เพราะบางครั้งสิ่งที่ทำอยู่เราทำไม่เป็น ไม่มีโนว์ฮาว จะประสบความสำเร็จได้ยาก และ 4. ทำธุรกิจแบบรับเงินสด จ่ายเงินผ่อน เหมือนการผลิตโดยใช้เงินของลูกค้า ส่วนวัตถุดิบที่ติดต่อไว้กับโรงงานอื่นให้ชำระเป็นเงินผ่อน ซึ่งเขามองว่า ปัจจุบันคำว่า ‘ปลาใหญ่ กินปลาเล็ก’ จะใช้ไม่ได้แล้ว สมัยนี้ต้องเป็น ‘ปลาไว ชนะปลาใหญ่’ หมายถึงคนที่เร็วและยืดหยุ่นกว่าจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งอนาคตเขาเตรียมนำเสนอแพลตฟอร์ม ด้านข้อมูลรายได้ของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนซื้อโฆษณาในสื่อที่ตรงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ซึ่งเขาใช้เวลาในการพัฒนาประมาณกว่า 2 ปี
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น