การส่งเสริมสินค้าทางการเกษตรเป็นสิ่งที่ภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสำคัญในการยกระดับและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “พลังผัก” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ SME ที่ประสบความสำเร็จและได้ช่วยเหลือเกษตรกร โดยรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากทั่วประเทศ นับว่าเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร
ปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจ SME มีการเติบโตสูงขึ้น หลายคนผันตัวเองจากพนักงานออฟฟิศมาเป็นเจ้าของธุรกิจทั้งตลาดแบบดั้งเดิมและตลาดออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ประสบความสำเร็จจากมนุษย์เงินเดือนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจ SME อย่าง “นายวุฒิชัย เจริญศุภกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลังผัก จำกัด ผู้จำหน่ายสลัดผักและผลไม้พร้อมรับประทาน ตรา Oh! Veggies (โอ้! เวจจี้) ที่เริ่มทำธุรกิจจากการทำตามความตั้งใจและมีมุมมองทางการตลาดที่ไม่เหมือนใคร ทำให้สินค้าโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง โดยมีน้ำสลัดและเครื่องจิ้ม เช่น น้ำปลาหวาน น้ำตาลปี๊บปรุงรส ที่อร่อย ให้ผู้บริโภคสะดวกในการซื้อรับประทานมากยิ่งขึ้น จึงช่วยสร้างยอดขายเติบโตในเวลาอันรวดเร็ว
“วันที่ต้องการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็มองว่าเรื่องเทรนด์การรักสุขภาพน่าจะมีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ จึงคิดกันตั้งแต่วันแรกว่าจะขายผักสลัดพร้อมรับประทาน เพราะสะดวกต่อผู้บริโภค และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และตั้งชื่อบริษัทว่า บริษัท พลังผัก จำกัด โดยมีวิสัยทัศน์ว่าต้องการเป็นผู้นำตลาดผักสลัดพร้อมรับประทาน ส่วนพันธกิจคือ จะนำเสนออาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคในรูปแบบที่รับประทานได้ทันที”
บริษัท พลังผัก ได้มีการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากเกษตรกรทั่วประเทศ ทั้งผักสลัดที่เป็นผักออร์แกนิก ปลูกจากดิน ไม่ใช้สารเคมี และผลไม้ เช่น มะม่วง และฝรั่ง สำหรับผักสลัดออร์แกนิกมีการวางแผนร่วมกับเกษตรกร ในการผลิตและรับซื้อผลผลิตให้สัมพันธ์กับความต้องการโดยไม่มีผลผลิตเหลือทิ้ง และการกำหนดราคาร่วมกับเกษตรกรล่วงหน้า ทำให้เกษตกรมีความมั่นคงด้านรายได้ ในขณะที่บริษัทฯ สามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร ตลอดจนการจัดหาวัตถุดิบ มะม่วงและฝรั่ง จากเกษตรกรจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ในปริมาณที่แน่นอน นับว่าเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร และเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคการเกษตรให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
การประกอบธุรกิจคงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งสำคัญและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ซึ่งเจ้าของ SME ผักสลัดและผลไม้พร้อมรับประทานก็เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว โดยเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการนำสินค้าเข้ามาขายในเซเว่นฯ ไว้อย่างน่าสนใจว่า
“บริษัทได้นำสินค้าเข้ามาขายในร้านเซเว่นฯ ตั้งแต่ปี 2555 เพราะมีลูกค้าโทร.เข้ามาถามเป็นประจำว่าหาซื้อได้ที่ไหน ทีมงานก็เดินเข้าไปสำรวจในร้านเซเว่นฯ ปรากฏว่ายังไม่มีผักสลัดประเภทนี้ขาย เป็นจังหวะเดียวกับที่ทางจัดซื้อของเซเว่นฯ ติดต่อให้นำสินค้าเข้าไปเสนอ จึงได้ทำงานร่วมกันระหว่างพลังผักกับซีพี ออลล์ ในการพัฒนาทั้งเรื่องการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และได้รับคำแนะนำ รวมถึงพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับตลาด การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค การยืดอายุสินค้า เป็นต้น ตอนนี้มีสินค้าที่ขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำนวน 5 ประเภท คือ สลัดผัก มะม่วงน้ำปลาหวาน ฝรั่งจิ้มน้ำตาลปี๊บ ยำมะม่วง และมะเขือเทศเชอรี่ โดยจำหน่ายผ่านร้านเซเว่นฯ กว่า 8,000 สาขาทั่วประเทศ และยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกับเซเว่นฯ อย่างต่อเนื่อง” นายวุฒิชัยกล่าว
นอกจากนี้ นายวุฒิชัยได้บอกถึงปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จว่า ต้องมีแนวคิดการพัฒนาสินค้าที่แตกต่าง และตรงตามความต้องการของผู้บริโภค พยายามมองช่องว่างที่ยังไม่มีใครทำ แล้วนำมาปรับใช้เพื่อตอบสนองความต้องการนั้น และต้องศึกษาช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งเซเว่นฯ เป็นช่องทางการจำหน่ายที่สะดวก เข้าถึงได้ง่าย จึงเห็นว่าน่าจะเหมาะสมในการส่งต่อสินค้าให้ลูกค้าทั่วประเทศ
ด้านนายบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าของผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้ามีคุณภาพมาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชนมาตลอด โดยบริษัทจะเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ SME เพื่อส่งสินค้าตรงถึงมือผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่นฯ ทั่วประเทศ และผ่านช่องทางของบริษัท ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด โดยจำหน่ายสินค้าผ่านนิตยสารทเวนตี้โฟร์ แค็ตตาล็อก ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ และอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันทั้งเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ได้จัดจำหน่ายสินค้าเอสเอ็มอีรวมทั้งสิ้นกว่า 22,000 รายการ และมีการพัฒนา SME ให้เจริญก้าวหน้าเพื่อเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นและทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้งมีสินค้าเอสเอ็มอีที่จำหน่ายหลายประเภท โดยเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เช่น ผลไม้แปรรูป, เครื่องดื่ม, เบเกอรี, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นต้น ซึ่งสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของกลุ่มธุรกิจ SME จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายบัญญัติกล่าว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *