การปลูกบัว เป็นอาชีพเกษตรกรรม ที่ทำรายได้ไม่ธรรมดา เพราะบัวถือเป็นราชินีไม้น้ำทีได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดโลก เนื่องจากมีดอก ที่มีความสวยงาม ที่สำคัญบัวเป็นพืชชอบแดดเหมาะกับภูมิอากาศประเทศไทย ที่ผ่านมาจึงพบว่า มีสายพันธุ์บัวสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในประเทศไทยจำนวนมาก และยังมีสถาบันการศึกษา ที่ทำการวิจัยบัวอย่างจริงจัง และเป็นที่มาของบัว ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไปคว้ารางวัลระดับโลก จำนวนมาก
ทั้งนี้ จากความนิยมปลูกบัวที่มีอยู่ทั่วโลก จึงได้มีการจัดประกวดบัว ในเวทีระดับโลกกันอยู่บ่อย ครั้ง และก็เป็นความโชคดีของประเทศไทย เรามีอากาศที่เหมาะกับการปลูกขยายพันธุ์บัว ทำให้การเพาะขยายพันธุ์บัวสายพันธุ์ใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องยาก โดยมีนักวิจัย และคนรักบัว ในประเทศไทย อยู่ค่อนข้างมาก คนกลุ่มนี้จะทุ่มเท และใช้เวลาในการผสมพันธุ์ เพื่อสร้างบัวสายพันธุ์ใหม่ รวมถึง บัวฉลองขวัญ ที่จะกล่าวถึงในครั้งนี้
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับบัวฉลองขวัญ เป็นบัวผันที่ถูกผสมพันธุ์ขึ้นโดยคนไทย “คุณชัยพล ธรรมสุวรรณ” เป็นนักเลี้ยงบัวชาวแปดริ้ว โดยบัวชนิดนี้ผ่านการประกวดและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีระดับโลกมาแล้ว ที่มาของบัวฉลองขวัญเกิดขึ้นมาจากการผสมพันธุ์ของบัวที่ชื่อว่า บัว Colorata และบัวลาภประเสริฐ ซึ่งบัวต้นแรกมีสีม่วง ส่วนบัวต้นที่สองมีสีเหลือง สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นบัวสีม่วงน้ำงิน โดยมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษอันไพเราะ ว่า King of Siam
โดยบัวฉลองขวัญ เป็นบัวที่มีกลีบดอกสีม่วง ซ้อนกันหลายชั้น เป็นบัวที่มีดอกใหญ่ สามารถบานพร้อมกันหลายดอก ถ้าได้รับการดูแลที่ดี และเป็นบัวที่บานตอนกลางวัน และจุดเด่นของบัวฉลองขวัญ นอกจากดอกขนาดใหญ่มีความสวยงาม และยังเป็นบัวที่ เมื่อตัดดอก และนำมาจัดแจกัน สามารถอยู่ได้นาน 3-4 วัน ในพื้นที่ปกติ และถ้าอยู่ในห้องแอร์ หรือพื้นที่ปิดสามารถอยู่ได้นานถึง 7 วัน มีก้านที่แข็งแรง และเป็นบัวชนิดเดียวที่หุบ ตอนกลางคืน และบานในตอนกลางวัน
ด้วยเหตุนี้เอง เป็นจุดเริ่มต้น ให้ “คุณชูศักดิ์ หงษ์ทอง” เจ้าของไร่บัวฉลองขวัญ ที่อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ได้ยึดอาชีพการปลูกบัว และตัดดอกขาย สร้างรายได้มานานกว่า 6 ปี เดิมมีพื้นที่การปลูกบัวอยู่ที่ลำลูกกา คลอง 5 จ.ปทุมธานี แต่ด้วยพื้นที่ลำลูกกา มีความเจริญเข้าไปมาก ทำให้พื้นที่ เหมาะกับการนำไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้มากกว่า “คุณชูศักดิ์” จึงได้กลับบ้านเกิดมาพลิกฟื้น พื้นที่ทำนามาทำเป็นแปลงปลูกบัว ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่
คุณชูศักดิ์ เล่าว่า ได้รู้จักบัวฉลองขวัญ จากการได้ไปดูบัวที่พิพิธภัณฑ์บัว ที่ สถาบันราชมงคลธัญบุรี หลังจากนั้นขอคำแนะนำ จาก "คุณชัยพล" ก่อนจะตัดสินใจซื้อมาทดลองปลูก และด้วยบัวเป็นไม้น้ำที่ปลูกไม่ยาก ดังนั้น ถ้าเราเอาใจใส่ ก็สามารถปลูกบัวฉลองขวัญได้เป็นสำเร็จ ส่วนตลาด เนื่่องจากบัวฉลองขวัญมีความแข็งแรง ไม่บอบบางและมีดอกใหญ่ ไม่เหี่ยวเฉาง่าย เราจึงสามารถตัดดอกขายได้ เราเริ่มต้นจากการนำบัวไปแนะนำกับโรงแรม ผ่านญาติซึ่งทำงานโรงแรม ทางโรงแรมสนใจ ตัดส่งโรงแรม ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา และขยายตลาดผ่านตัวแทน ที่นำไปส่งร้านดอกไม้ และโรงแรม อีกช่องทางหนึ่ง โดยส่งบัว ในราคาดอกละ 20 บาท ระยะเวลาในการปลูก เริ่มจากการเพาะในกระถาง 1 เดือน และลงบ่อ ใช้เวลาอีก 2 เดือน
โดยพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกบัวได้ ตั้งแต่ 100 ต้น ไปจนถึง 200 ต้น บัวหนึ่งต้นสามารถให้ดอกได้ทุกวัน เพราะตัดดอกไปก็จะมีดอกใหม่เกิดขึ้นมาตลอด ซึ่งบัวเมือลงดินแล้ว สามารถเก็บหัวมาใช้เพื่อขยายพันธุ์ได้ต่อไป ปัญหาของบัวชนิดนี้ คือ ต้องระวังยาฆ่าหญ้า เพราะจะทำให้บัวตาย และโรคที่มาจากแมลง เพลี้ยไฟ หนอนผีเสื้อกลางคืน และก็ยังมีหอยเชอรี่ และปลากินพืช การตัดดอกบัวเพื่อจำหน่าย จะตัดบัวที่ตูม เมื่อนำไปส่งจะบานพร้อมใช้งานในวันถัดไป ส่วนต้นกล้าพันธุ์ จะมีราคาตั้งแต่ 100 บาท 150 บาท ไปจนถึง 200 บาท การดูแลรักษา เหมือนบัวทั่วไป คือ ใส่ปุ๋ยบำรุงบ้าง คอยดูแลเรื่องโรคที่จะมารบกวนบัว
ส่วนผู้ที่สนใจ ลุงชูศักดิ์ พร้อมที่จะถ่ายทอดการปลูกในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถนำไปปลูก ไม่ว่าจะปลูกเพื่อเป็นอาชีพ หรือ ปลูกเพื่อความสวยงาม ที่ผ่านมา มีผู้สนใจนำไปปลูกเป็นอาชีพ และปลูกพื่อตกแต่งบ้าน
คุณชูศักดิ์ พูดถึงเรื่องราคาไว้อย่างน่าสนใจ ว่า การกำหนดราคา เราเป็นคนกำหนดเอง ดังนั้น ถ้าราคาถูกเกินไป ย่อมมองไม่เห็นคุณค่า เราอยากให้คนที่ซื้อ บัว หรือ ต้นไม้อื่นของเราไปเห็นคุณค่า และดูแลอย่างดี เช่นเดียวกับต้นไผ่ ที่ขายไปต้นละ 1,000 บาท ซึ่งเมื่อราคาสูง เขาก็จะดูแลมันอย่างดี
โทร. 09-5365-0029
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *