xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก “ริสต์แบนด์ ฝัง GPS” 40 บาทพ่วงประกันชีวิต 1 ล้าน ไอเดียสุดเจ๋ง “ภูเก็ต พัชทรี ทัวร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายไชยา ระพือพล หรือ โกดำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัชทรีทัวร์ กรุ๊ป
อีกขั้นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวในราคาเบา แถมยังซื้อใจนักท่องเที่ยวเกาะภูเก็ตไปเต็มๆ ด้วย “ริสต์แบนด์” ฝัง “ชิป” ระบบ GPS ติดตามตัว พ่วงประกันชีวิตวงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท เรียกได้ว่าตอบโจทย์ธุรกิจท่องแที่ยวแห่งยุค 4.0 อย่างแท้จริง

ปฏิวัติวงการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริง ไอเดียเล็กๆ ของ “นายไชยา ระพือพล” หรือ “โกดำ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัชทรีทัวร์ กรุ๊ป และยังเป็นผู้ได้รับสิทธิบริหาร “ท่าเทียบเรืออ่าวปอ” จ.ภูเก็ต ที่ต้องการยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วย “สายรัดข้อมือ” หรือ “ริสต์แบนด์” ฝังชิประบบ GPS ติดตามตัว พร้อมวงเงินประกันชีวิต 1 ล้านบาท ให้นักท่องเที่ยวได้สวมใส่เพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงเรื่องการสูญหาย ในราคาเพียง 40 บาท ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่นำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจท่องเที่ยวในราคาสบายกระเป๋า แถมยังซื้อใจนักท่องเที่ยวไปได้เต็มๆ
ท่าเทียบเรืออ่าวปอ จ.ภูเก็ต
ด้วยเงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาทในการจัดซื้ออุปกรณ์และวางระบบการทำงานของริสต์แบนด์ให้เชื่อมต่อกับระบบไว-ไฟ สามารถรู้ตำแหน่งผู้สวมใส่ได้โดยรอบรัศมี 18 ไมล์ทะเลจากใจกลางภูเก็ต โดย บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT รับหน้าที่วางระบบ รวมถึงได้รับการสนับสนุนโครงการอย่างดีจากภาครัฐภูเก็ต ขณะที่ด้านประกันชีวิต ร่วมมือกับบริษัทประกันชีวิตชั้นนำแห่งหนึ่ง ซึ่งจะมีการลงนามความร่วมมือกับรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนภูเก็ตในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ พร้อมเพิ่มความสะดวกให้ไกด์ทัวร์ด้วยแอปพลิเคชันเช็กสัญญาณ GPS ของลูกทัวร์ได้ทุกราย


“ภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่อยากจะมาเยือน ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งเราในฐานะผู้ประกอบการด้านเรือท่องเที่ยว และท่าเทียบเรือมาหลายสิบปี ก็ขอเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญนี้ เพื่อทำให้ภาคการท่องเที่ยวในเกาะภูเก็ตมีความยั่งยืน และเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี 4.0 ด้วยริสต์แบนด์ ภายใต้ชื่อ 'ลอร่า ริสแบนด์' รวมถึงภาคธุรกิจอื่นยังสามารถนำไปปรับใช้และต่อยอดได้ ซึ่งปัจจุบันในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวในเกาะภูเก็ตประมาณ 2-3 พันคน ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป และจีน ซึ่งผมอยากให้ จ.ภูเก็ต เป็นต้นแบบการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มายกระดับความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และในอนาคตผมอยากผลักดันให้ใช้ระบบนี้ตั้งแต่จุดตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตเลย ช่วยเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยสูงขึ้นไปอีก และหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ เชื่อว่าจะเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวยุคใหม่กระจายไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งจะก่อประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวไทยทั้งระบบ” เจ้าของภูเก็ต พัชทรี ทัวร์ กล่าว


จุดเริ่มต้นธุรกิจของโกดำ กว่าจะมาถึงวันนี้เรียกว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเริ่มธุรกิจจากเรือนำเที่ยวเพียง 2 ลำ กระทั่งเจอคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 เขาคิดจะเลิกทำธุรกิจนี้เพราะเหลือเรือให้ใช้งานเพียงลำเดียว แต่เมื่อมองถึงโอกาสในธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตก็คิดว่ายังเติบโตได้ ซึ่งอาจจะต้องอาศัยระยะเวลาในฟื้นฟู และเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวกลับคืนมา

เงินทุนก้อนแรกที่ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจของเขาให้กลับคืนมาอีกครั้งได้จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) อนุมัติสินเชื่อให้มูลค่า 495,000 บาท สำหรับเป็นทุนฟื้นฟูธุรกิจ ควบคู่กับช่วยพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องจนถึง 6 เดือน ด้วยเล็งเห็นว่าการท่องเที่ยวภูเก็ตยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอุบัติเหตุชั่วคราว คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจท่องเที่ยวจะฟื้นคืนได้ในไม่ช้า และก็เป็นจริงดังคาด ธุรกิจของโกดำกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง และเติบโตเรื่อยมา จนปัจจุบันมีพนักงานกว่า 200 ชีวิต และยังเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจต่อเนื่องอีกมากมาย
รถรับส่งนักท่องเที่ยว บริษัท พัชทรีทัวร์ กรุ๊ป

นอกเหนือจะสร้างธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จแล้ว สิ่งที่ "โกดำ" มุ่งมั่นทำเสมอมา คือ ช่วยเหลือ “ชุมชน” ให้เติบโตเคียงคู่กันไป อย่างการเข้าบริหารท่าเทียบเรืออ่าวปอได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของคนในชุมชนเสียก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ รวมถึงกำหนดว่ารายได้ที่เข้ามาจะถูกหัก 10% เพื่อนำกลับไปใช้พัฒนาชุมชนด้วย ซึ่งเขาเชื่อถ้าทำแล้วคนอื่นมีความสุข และเขาเองก็มีความสุขด้วยจะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะเขายึดหลักว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ชุมชนต้องมาก่อนเสมอ
ตัวอย่างริสแบนด์ ฝังชิพ GPS

“ผมมองว่าการทำธุรกิจถ้าหวังจะรวยคนเดียวโดยที่ไม่มองคนหรือสังคมรอบข้าง ธุรกิจจะไม่ยั่งยืน ซึ่งแนวคิดในการทำริสต์แบนด์จริงๆ แล้วผมไม่ได้หวังผลกำไรจากตรงนี้ คิดเพียงแค่เป็นส่วนหนึ่งที่เสริมให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ ซึ่งเป็นอาชีพที่เราทำมานาน ฉะนั้นถ้าไม่มีใครคิดที่จะเริ่ม การพัฒนาก็ไม่มีวันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้ในช่วงแรกจะยังไม่ได้กำไร แต่ผมเชื่อว่าหากเราทำดีผลกำไรก็จะตามมาเอง โดยหัวใจหลักในการทำริสต์แบนด์คือความสะดวก ปลอดภัย ส่วนกำไรเป็นผลพลอยได้” โกดำกล่าวทิ้งท้าย
5 รู้จัก ลอร่า ริสแบนด์ ปฏิวัติท่องเที่ยว 4.0
นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการปฏิวัติวงการท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยี แถมยังนำไปปรับใช้กับธุรกิจภาคบริการอื่นได้อีกด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ กับการยกระดับภาคการท่องเที่ยวสู่ยุค 4.0 ที่น่าจับตามอง

***สนใจติดต่อ 08-1397-6078, 08-4188-0085 หรือที่ www.phuketpatritour.com และ www.facebook.com/phuketpatritour***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น