ทายาทธุรกิจที่คลุกคลีกับ 'ครก' มาตั้งแต่เกิด เห็นแต่รูปทรงเดิมๆ ไม่ได้มีการพัฒนามากนัก ทั้งที่ยุคสมัยเปลี่ยนไปทุกอย่างก็ยังคงเดิม โดยเฉพาะการนำไปใช้งานค่อนข้างลำบาก ด้วยน้ำหนักที่เป็นเอกลักษณ์ตายตัว ดังนั้นเมื่อเป็นคนรุ่นใหม่เห็นปัญหาดังกล่าวจึงคิดทำ 'ครกหิ้วได้' พร้อมออกแบบที่วางสาก สะดวกใช้งานมากขึ้น ภายใต้แบรนด์ “ศิลาทิพย์”
ดีไซน์ออกมาหลายแบบสำหรับครก ที่หนึ่งในทายาทธุรกิจครอบครัวผลิตครกอ่างศิลา “ธารา ธาราศักดิ์” คิดจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่จำเจ ซึ่งแบบที่แจ้งเกิดพร้อมคว้ารางวัลโดดเด่นด้านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากการประกวดโครงการ SME Thailand Inno Awards 2017 และได้รับการคัดสรรเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาว เมื่อปี พ.ศ. 2559 มาครองได้สำเร็จ โดยเขานำจุดอ่อนจากการใช้งานที่ยังไม่ค่อยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มาขบคิด จนออกมาเป็น “ครกหิ้วได้” พร้อมออกแบบสากที่จะไม่กลิ้งตกแตกอีกต่อไป
“ที่ผ่านมาจากการที่อยู่ในแวดวงครกมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ก็พบว่าลูกค้ามักจะเข้ามาซื้อสากเพียงอย่างเดียว โดยให้เหตุผลว่าสากตกแตก หรือขณะการใช้งานมักจะไม่มีที่วางสาก จึงนำจุดอ่อนเหล่านี้มาออกแบบเป็นครกรูปแบบใหม่”
แนวคิด “พัก พิง คว่ำ” ถูกนำมาใช้ในการออกแบบตัวครกให้มีร่องด้านบนเพื่อใช้วางพักสากป้องกันการกลิ้งตกแตก เมื่อใช้ครกตำน้ำพริกหรือเครื่องแกงเสร็จก็สามารถนำสากมาวางพักด้านข้างครกเพื่อตักของด้านในออกจากครกได้อย่างสะดวก และเมื่อล้างทำความสะอาดเสร็จก็สามารถคว่ำครกแล้วล็อกสากป้องกันการตกแตกได้ ทั้งยังช่วยระบายอากาศทำให้ป้องกันกลิ่นอับชื้นและเชื้อราได้อีกด้วย
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ถึงกว่า 10 รูปทรง และยังนำเศษวัสดุไปพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย อย่างเปลือกหน้าครกใช้ทำกระถางต้นไม้ ทำเป็นผนังห้อง ปากครกกับส่วนก้นที่ตัดออกนำไปทำเป็นเชิงเทียน หรือแม้แต่เศษผงหรือวัสดุที่เหลือก็นำมาทำเป็นเครื่องประดับได้อีกด้วย
สำหรับขนาดที่เขาทำออกมานั้นจะเน้นขนาดมาตรฐานประมาณ 4-5 ขนาด เริ่มต้นที่ 5 นิ้ว (วัดจากซ้ายไปขวา) ขณะที่การขนย้ายครกก็ถือเป็นหนึ่งอุปสรรคที่อาจจะทำให้ครกไม่เป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ จากการที่มีน้ำหนักมากยกเคลื่อนย้ายลำบาก ดังนั้นเขาจึงออกแบบครกให้สามารถสอดสายหิ้วได้ด้วยวัสดุที่ทำจากเชือกสีขาวรับน้ำหนักได้ดี เดิมทีใช้ถุงพลาสติกทั่วไปเป็นแพกเกจ
“ขึ้นชื่อว่าครก เรื่องน้ำหนักจะเป็นข้อเสียเปรียบที่ทำให้สินค้าชนิดนี้ถูกลดความนิยมลงไปเรื่อยๆ คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยม หันไปใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแทน และผมสัมผัสได้ว่าคนรุ่นใหม่รู้สึกว่าการใช้ครกเชย ทำให้เป็นการจุดประกายให้ผมออกแบบใหม่เพื่อลบภาพเหล่านั้น กลายเป็นครกหิ้วได้ ใช้เชือกสีขาวอย่างดีร้อยเข้าไปตามช่องที่ออกแบบไว้ทำให้หิ้วได้ และเชือกก็ถอดออกมาซักได้เช่นกัน กับแบรนด์ชื่อว่า ศิลาทิพย์”
นอกจากครกศิลาทิพย์มีความโดดเด่นในเรื่องงานดีไซน์แล้ว เขายังผลิตครกตามออเดอร์ในแบบที่ลูกค้าต้องการด้วย เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตครกตัวจริง ซึ่งปัจจุบันกระบวนการผลิตจะใช้แบบกึ่งมือกึ่งเครื่องจากช่างที่มีความชำนาญสูง มีกำลังการผลิตประมาณ 500-1,000 ลูก/เดือน จากเดิมใช้แรงงานคนสกัดหินด้วยมือ ช่างหนึ่งคนจะทำครกได้อย่างมาก 1-2 ลูกต่อวันเท่านั้น เมื่อเข้ามารับช่วงกิจการได้พัฒนานำเครื่องจักรมาช่วยทุ่นแรง รวมถึงจัดระบบการทำงานใหม่ แบ่งเป็นขั้นตอน ช่วยให้ผลิตครกหินได้เร็วขึ้นจากเดิม 3 เท่าตัว
ปัจจุบันครกศิลาทิพย์ผลิตที่ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งนายธาราได้มาตั้งรกรากที่นี่พร้อมรวมกลุ่มชาวบ้านตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมา เพื่อให้ใกล้แหล่งวัตถุดิบหินทำครกที่มีคุณภาพ ซึ่งมีเหมืองหินอยู่จำนวนมาก และยังขึ้นชื่อเป็นแหล่งหินแกรนิตที่แข็งแรงที่สุดในประเทศไทย ส่วนที่อ่างศิลาไม่มีหินสำหรับทำครกแล้ว แต่ยังมีวางจำหน่าย ที่ร้าน “บ้านครกครูน้อย” ซึ่งเป็นบ้านของมารดา และจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ที่ Facebook: ศิลาทิพย์ ครกหิน ผลิตภัณฑ์จากหิน และเว็บไซต์ www.silathip.com โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น และวัยทำงานที่ชอบงานดีไซน์แฝงฟังก์ชันการใช้งาน ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่นายธาราต้องการให้คนรุ่นใหม่กลับมาใช้ครกกันอีกครั้ง
การไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ถือเป็นหัวใจหลักที่ผู้ประกอบการรายนี้ให้ความสำคัญ พร้อมมองถึงอนาคตให้วัสดุอย่างหินแกรนิตคุณภาพเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนให้ได้มากที่สุด ซึ่งต่อไปเตรียมออกแบบจาน ชามหิน สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ และต่อไปจะต่อยอดสู่หม้อชาบูนำตั้งไฟรักษาความร้อนได้ รวมถึงทำที่วางนามบัตรจากหินเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบ นอกจากนี้ ศิลาทิพย์ยังผลิตลูกนิมิตและเสมาแกะรายละเอียดสำหรับนำไปถวายตามวัดต่างๆ ซึ่งเป็นการสั่งผลิตโดยตรงจากลูกค้า ทางศิลาทิพย์ก็สามารถทำได้ และสินค้าอื่นๆ ที่สามารถนำหินแกรนิตมาขึ้นรูปได้
ส่วนตลาดส่งออกก็เป็นตลาดที่ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้า เช่น ฮ่องกง และพม่า มีนักธุรกิจสั่งไปจำหน่ายเช่นกัน มีการออกแบบให้มีขนาดเล็กลง แต่คว้านครกให้ลึกขึ้นตอบโจทย์ครอบครัวเดี่ยวที่ทำอาหารในปริมาณไม่มากนัก
เรียกได้ว่าเป็นการฟื้นชีพของใช้ในครัวที่เกือบถูกลืมเลือนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง จากการออกแบบที่โดนใจคนรุ่นใหม่ แถมฟังก์ชันการใช้งานที่มีนวัตกรรม สามารถตอบโจทย์จุดบกพร่องของ “ครก” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
***สนใจติดต่อ 08-1441-4099, 08-9159-6602 หรือที่ www.silathip.com และ Facebook: ศิลาทิพย์ ครกหิน ผลิตภัณฑ์จากหิน***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *