ผอ.คนใหม่สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่เผยแผนยุทธศาสตร์ 4 ด้านหนุนพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอีไทย เข้าถึงองค์ความรู้ทำธุรกิจที่ทันสมัย เข้าใจความต้องการกลุ่มลูกค้า หวังสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ตั้งเป้าพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นรายในปี 2561
นายพรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ภายใต้สังกัดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากแนวคิดการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่เน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจประกอบกับอัตราการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทยที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี โดยข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในปี 2560 นี้มีจำนวนบริษัท SMEs อยู่ที่ 3,004,679 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 238,713 ราย หรือประมาณ 8.63% แต่ในกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ยังขาดความรู้ในการดำเนินธุรกิจหลายด้าน เช่น การบริหารจัดการการเงิน, การขาดความเข้าใจผู้บริโภค, การเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน, การเปิดตลาดในต่างประเทศ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงจัดตั้ง “สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่” (New Economy Academyหรือ NEA) ขึ้นเพื่อมอบองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในทุกภาคส่วนธุรกิจ โดยเฉพาะจุดแข็งเรื่องความรู้ด้านการค้าในต่างประเทศ นอกจากนี้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้วางกลยุทธ์ส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย 4 ด้าน คือ 1. พัฒนาหลักสูตรของสถาบันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกขนาด ทุกภาคธุรกิจ และตอบโจทย์สังคมที่เปลี่ยนแปลงไป 2. จัดโครงการสัมมนาอบรมผู้ประกอบการเอสเอ็มมอีที่สอดคล้องกับเทรนด์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ตอนนี้หลักสูตรของ NEA เน้นการส่งเสริมอีคอมเมิร์ซมากขึ้น และให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ธุรกิจ จากเทคโนโลยีและเทรนด์ในยุคดิจิตอล 3. สร้างพันธมิตรในทุกด้านทั้งการเงิน การศึกษา และเทคโนโลยี เพื่อร่วมมือพัฒนาผู้ประกอบการให้นำความรู้ไปต่อยอดในการดำเนินธุรกิจได้ และ 4. สถาบันจะขยายหลักสูตรการอบรมสู่ประเทศในอาเซียนโดยเริ่มที่กลุ่มประเทศ CLMV โดยจะจัดคอร์สฝึกอบรมพร้อมผู้ประกอบการไทยเพื่อสร้างพันธมิตรที่ดีทางการค้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดีระหว่างผู้เข้าอบรม
“ปัจจุบันเป็นยุคที่คนตัวเล็กอยากเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองทำให้มีธุรกิจเอสเอ็มอีเกิดขึ้นมาก นับเป็นความท้าทายของ NEA ที่จะจัดหลักสูตรให้เข้าถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งหมด อีกเรื่องคือการทำความเข้าใจเทรนด์ตลาดและความคิดของกลุ่มอสเอ็มอีในแต่ละกลุ่มว่ามีความต้องการพัฒนาความรู้แบบใด ในส่วนนี้เราจะต้องทำการวิเคราะห์เทรนด์ของการฝึกอบรมด้านการค้าระหว่างประเทศที่ทันสมัยที่สุด รวมทั้งใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) มาช่วยประมวลผลข้อมูลผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมว่าทำธุรกิจอะไรและมีความสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ เพื่อนำไปวิจัยออกแบบหลักสูตรให้สามารถพัฒนาศักยภาพอสเอ็มอีไทยสู่การเป็น Smart SMEs อย่างแท้จริง” นายพรวิชกล่าวทิ้งท้าย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *