xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรแห่ ปลูก “ทุเรียนเหมาซานคิง” รองรับตลาดจีน ราคาสูงถึง กิโล..หลักพันบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผลจะคล้ายหยดน้ำ
วันนี้ ถ้าพูดถึงทุเรียนมูซังคิงส์ หรือ เหมาซานคิง คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะชาวสวนทุเรียน และทำไมละ..คำตอบ คือ ทุเรียนพันธุ์นี้ ราคาแพงมาก ราคาหน้าสวน กิโลกรัมละ 300 บาท ไปจนถึง 400 บาท และที่ราคาแพงขนาดนี้ ก็คงพอจะเดากันได้ ว่ามาจากลูกค้าหลักอย่าง คนจีน ชื่นชอบรสชาติของทุเรียนพันธุ์นี้ มาก ราคาขายที่ประเทศจีนเขาบอกกันว่า สูงถึงกิโลกรัม 2,000 บาทถึง 3,000 บาท เลยทีเดียว

โดยที่มาของทุเรียนมูซังคิงส์ หรือ เหมาซานคิง และคนยะลา เรียก เหมาซานหว่อง มีต้นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซีย รัฐบาลมาเลเซียได้พัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองพันธุ์นี้ขึ้นมา  เมื่อ 15 ปีก่อนหน้านี้ และมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการบริโภค เพราะประเทศมาเลเซียมีฝนตกชุกทำให้ทุเรียนออกผลน้อย แค่ขายในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ก็ยังไม่เพียงพอ โดยราคาทุเรียนเหมาซานคิง ในมาเลเซียราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 800 บาท
เนื้อเหนียว ละเอียด และเนื้อเยอะ
สำหรับลักษณะของทุเรียนเหมาซานคิง นี้ รูปทรงจะคล้ายหยดน้ำ ตูดจะมี 5ดาว ผลเว้้านิดหน่อย และบริเวณก้านเหมือนมงกุฎ ส่วนรสชาติจะหวาน และเนื้อสัมผัสจะเหนียวเนื้อละเอียด เมล็ดรีบ ให้เนื้อเยอะ ลูกจะไม่ใหญ่มาก น้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม เนื้อทุเรียนจะเหลืองนวลเมื่อสุกมากจะมี่รสขมนิดหน่อย ถ้าเปรียบเทียบกับทุเรียนไทย จะคล้ายคลึงกับสายพันธุ์ พวงมณี แต่พวงมณี เมล็ดใหญ่ และลูกจะเล็กกว่า

ส่วนการเข้ามาของทุเรียนเหมาซานคิง ในประเทศไทย เริ่มมาจากพื้นที่ทางใต้ ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งมีพื้นที่ติดกับมาเลเซีย การไปมาหาสู่กัน ทำให้มีเกษตรกรในพื้นที่ได้ไปซื้อกิ่งพันธุ์ มาปลูก ปัจจุบันที่จังหวัดยะลา มีการปลูกทุเรียนเหมาซานคิง จำนวนมากถึงกว่า 1,600 ไร่ ส่วนใหญ่เกษตรกรที่เคยปลูกส้มโชกุน และส้มราคาตก เลยหันมาปลูกทุเรียนสายพันธุ์นี้แทน ด้วยพื้นที่อยู่ในเทือกเขาที่ความสุงเหมือนกัน ผลผลิตที่จั้งหวัดยะลา ออกมาใกล้เคียงกับที่มาเลเซีย  ซึ่งผลผลิตเริ่มเก็บออกจำหน่ายครั้งแรก ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา (2560) โดยใช้ระยะเวลาในการปลูก 4-5 ปี เป็นทุเรียนพันธุ์เบา คือ แก่เร็ว กว่าหมอนทองที่ต้องใช้เวลา 90-100 วัน และผลผลิตที่ได้เกือบทั้งหมด ได้ถูกส่งไปขายยังประเทศมาเลเซีย สิงค์โปร์ ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

นายประภาส สุภาผล ผู้จำหน่ายกิ่งพันธุ์ทุเรียนเหมาซานคิง เล่าว่า ปัจจุบัน เกษตรกรหันมาปลูกทุเรียนพันธุ์เหมาซานคิง กันเป็นจำนวนมาก รวมถึงในพื้นที่ปลูกทุเรียนหลัก ในแถบภาคตะวันออก อย่าง จังหวัดจันทบุรี และระยอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ปลูกทุเรียนเพื่อการส่งออก จะหันมาปลูกทุเรียนพันธุ์ เหมาซานคิงกันเยอะมาก เกือบ 80% เพราะตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักในการส่งออกทุเรียนจากประเทศไทย มีความต้องการบริโภคทุเรียนพันธุ์นี้ ดังนั้น จากความต้องการและราคาที่สูงอยู่ในขณะนี้ ทำให้เกษตรกรสนใจหันมาปลูกทุเรียนพันธุ์นี้ เป็นจำนวนมาก  

ส่วนราคากิ่งพันธุ์ ในขณะนี้ มีราคาตั้งแต่ 260 บาท 350 บาทไปจนถึง 400 บาท และ 500 บาท แล้วแต่ขนาดและอายุของกิ่งพันธุ์ ส่วนที่มาของกิ่งพันธุ์ ก็มีทั้งนำเข้าจากมาเลเซีย และ สามารถหาได้ในประเทศไทย ที่จังหวัดยะลา และจังหวัดใกล้เคียง เริ่มสามารถตอนกิ่งพันธุ์ ที่เป็นสายพันธุ์แท้ ของเหมาซานคิง ออกมาจำหน่ายให้กับเกษตรกรที่สนใจ

ความยากในการทำตลาดของทุเรียน เหมาซานคิง มาจากราคาที่สูง ทำให้กลุ่มลูกค้าค่อนข้างแคบ อยู่ในกลุ่มของคนที่มีกำลังซื้อ ในอนาคต ถ้ามีผลผลิตออกมามาก ราคาถูกลง เชื่อว่าทุเรียนพันธุ์นี้ น่าจะได้รับความนิยม

นายประภาส บอกว่า เขาได้เริ่มมาจำหน่ายกิ่งพันธุ์ทุเรียน เหมาซานคิง ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังจาก กระแสทุเรียนสายพันธุ์นี้ ได้รับความนิยม เกษตรกรมีที่ต้องการกิ่งพันธุ์ ไปปลูกจำนวนมาก ตนเอง ได้นำกิ่งพันธุ์ มาจำหน่าย ในพื้นที่ภาคตะวันออก  ซึ่งผลผลิตในภาคตะวันออก อย่างจันทบุรี เพิ่งเริ่มปลูก ดังนั้น จึงยังคาดเดาไม่ได้ว่า ผลผลิตที่ได้จะดี เหมือนกับการปลูกในประเทศต้นทางอย่างมาเลเซีย หรือ ยะลา ได้หรือไม่ แต่สิ่งที่เราได้เปรียคือ  บ้านเราฝนไม่ตกมากเหมือนมาเลเซีย ซึ่งรสชาติ ก็น่าจะดีกว่า  ประกอบกัน เกษตรกรไทย มีประสบการณ์การปลูกทุเรียน จึงไม่น่ายาก สำหรับทุเรียนสายพันธุ์เหมาซานคิง  
ต้นทุเรียนเหมาซานคิง
สนใจ สอบถามรายละเอียด ได้ที่โทร. 08-8533-2299

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น