"Hotto Bun" ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ ที่ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตวัยรุ่นปัจจุบันที่ต้องการความ “แปลกใหม่ ถ่ายรูปสวย อร่อย” โดย Hotto Bun เปิดตัวด้วยสินค้าตัวแรกคือ เบอเกอร์ญี่ปุ่น เป็นเบอเกอร์ที่แตกต่างจากทุกๆเบอเกอร์อย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่นำเสนอออกมาเป็นข้าวปั้นญี่ปุ่น และวิธีการทำ ที่แป้งขนมปังใช้วิธีการนึ่งแทนการอบเหมือนขนมปังทั่วไป เพื่อให้ได้ความเหนียวนุ่มคล้ายๆแป้งโมจิ
นายธนากร ปมุติโต หรือ คุณเบียร์ เจ้าของร้าน เล่าถึงร้าน Hotto Bun ว่า เกิดขึ้นมาจากหุ้นส่วน 3 คน ที่เจอกันที่ New York คือ ผม (เบียร์) ที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการวางระบบการจัดการและบริหารร้านอาหาร “คุณโอ” เป็นศิลปินอิสระ ที่เคยถูกเชิญให้ไปแสดงผลงาน ที่เมือง New York “เชฟต้อม” เชฟเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นใน New York ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยทั้ง 3 คนได้กลับมาร่วมกันปลุกปั้นแบรน Hotto Bun เมื่อปี 2558 โดยตั้งเป้าว่าจะขยายทั่วประเทศภายใน 5 ปี และจะขยายตลาดไปต่างประเทศในอนาคต
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Hotto Bun มี 8 สาขาคือ สาขา มธ.รังสิต ,สาขา ท่ามหาราช ,สาขา เชียงใหม่ ,สาขาขอนแก่น ,สาขา ม.กรุงเทพ ,สาขา มหิดล ,สาขา ABAC ,สาขา ม.เกษตร จะเห็นว่า การขยายสาขา ของร้านจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ จึงเจาะไปที่ตลาดนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดัง ต่างๆ และก็ไม่ผิดหวัง เพราะไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มตรงกับ กลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้ ทั้งนี้ การทำตลาดในกลุ่มนักศึกษา การจัดกิจกรรม ก็มีส่วนสำคัญ ที่ผ่านมา ได้จัดโปรโมทชั่น ให้น้องๆที่มีผลการเรียนติด F มารับเบอร์เกอร์ฟรี เพื่อเป็นการปลอบใจน้องๆ ให้คลายความทุกข์ ในช่วงที่มีปัญหาเรื่องการเรียน
“เนื่องจาก Hotto Bun เลือกที่จะขาย ในราคาสมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบลูกค้า เราจึงต้องเลือกทำเลสาขาแรกที่ค่าเช่าไม่แพง แต่มีกลุ่มคนเยอะพอที่จะทำให้ Hotto Bun เดินต่อได้ จึงได้ทำเลในรั้วมหาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากได้รับการตอบรับที่ดี อีก 7 สาขาที่ตามมาเราจึงเลือกเปิดในรั้วมหาวิทยาลัยทั้งหมด และ Hotto Bun มีแผนที่จะขยายสาขาให้ทั่วประเทศในระยะเวลา 5 ปี และกำลังจะเปิดสาขา New York เร็วๆนี้” คุณเบียร์ เล่าให้ฟัง
สำหรับในส่วนการขายแฟรนไชส์ ได้เริ่มเปิดขายแฟรนไชส์ ออกไปบ้างแล้ว ปัจจุบันมีสาขาเฟรนไชส์ ที่ สาขาขอนแก่น และสาขา ABAC การลงทุน เปิดร้าน Hotto Bun เริ่มด้วยเงินทุน 350,000 บาท และใช้เวลาในการคืนทุนสาขาแรกประมาณ 3เดือน ส่วนสาขาแฟรนไชส์ แตกต่างกันไปตามทำเล
มาทำความรู้จัก กับ บันเบอเกอร์ เบอร์เกอร์นึ่ง สไตล์ญี่ปุ่น กันให้มากขึ้น ผ่านการบอกเล่าของ” คุณเบียร์” เจ้าของเร้าน เล่าว่า ที่มาของเบอร์เกอร์นึ่ง ตัวนี้ เ กิดมาจากแนวคิดของ “เชฟต้อม” ที่อยากจะทำอาหารที่เหมาะกับวัยรุ่นโดยเลือกอาหารแนว Finger food ที่เป็นอาหารที่ต้องใช้มือกิน ไม่มีการเสริฟช้อนส้อม จึงเลือกที่จะทำเป็นเบอเกอร์ แต่ก็ไม่อยากให้ซ้ำซากจำเจกับเบอเกอร์แบบเดิมๆ จึงนำเสนอออกมาในรูปแบข้าวปัน โอนิกิริ
วิธีการทำ บันเบอร์เกอร์ เริ่มจากการนำ แป้งสาลี เนย ยีส มาตีและหมักเป็นโดว์ เหมือนการทำขนมปัง แต่เปลี่ยนมาใช้การนึ่งเพื่อให้ตัวแป้งมีสีขาว เหนียว และนุ่ม ที่สำคัญ Hotto bun จะไม่ใส่สารเสริมในการทำเบเกอรี่ทุกชนิดเช่น ผงฟู สารคงรูปขนมปัง หรือสารเสริมอื่น เพราะ “เชฟต้อม” จะเน้นเรื่องนี้มากๆ ทีเด็ดอีกอย่างของ Hotto Bun คือ Hotto ซอส ที่เป็นซอสที่ “เชฟต้อม” คิดค้นขึ้นมา โดยทำมาจากผัก ผลไม้ สิบกว่าชนิด ตีกับพริกญีปุ่น และเครื่องเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้ซอสที่มีรสชาติหอมกลมกล่อม ปัจจุบัน เมนูเบอเกอร์ญี่ปุ่นมี 4 ตัวหลัก คือ ไก่กรอบ ปลาเทมปุระ หมูตุ๋น และหมูพิริคาระ ราคาจะอยู่ที่ชิ้นละ 65 บาท สำหรับ กลุ่มลูกค้า Hotto Bun หลักๆจะเป็นนักเรียนนักศึกษา รองมาก็จะเป็นคนวัยทำงานและผู้ใหญ่ ที่ติดใจในรสชาติอาหาร ยอดขายโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่วันละ 600 ชิ้น
นอกจากเมนู บันเบอร์เกอร์ ทางร้าน ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ทางเชฟต้อม และคุณเบียร์ช่วยกันคิด นั่นคือ เมนูเบนโตะแนวใหม่ ที่เน้นรสชาติที่เข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศญี่ปุ่น .. เมนูของว่าง เมนูสลัด กาแฟและเครื่องดื่มต่างๆ และเมนูของหวานที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครคือ เบอเกอร์บันไอศกรีม และคากิโกริหน้าต่างๆ
สนใจ ติดต่อ โทร.08-6327-0271 www.facebook.com/ Hotto bun
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
