xs
xsm
sm
md
lg

กระแสยืดสายรุ้ง 'Happy Cheese Toast' พลังโซเชียลดัน ปัง! ชั่วข้ามคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระแสยืดสายรุ้ง
ต้องยอมรับกระแสโซเชียลสร้างปรากฏการณ์ทางสังคมได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งหากมีของแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พฤติกรรมแชะแล้วแชร์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับ ขนมปังปิ้งไส้ชีสสายรุ้ง “Happy Cheese Toast” เปิดขายเพียงแค่เดือนเศษ ก็มีชาวต่างชาติขอร่วมทุนแล้วชนิดที่ว่าเจ้าของธุรกิจก็ตั้งตัวไม่ทัน

ด้วยความเป็น 'ครู' สอนด้านเบเกอรี่ ของ “อุนันทา จันทร์บาง” ทำให้ต้องคิดพลิกแพลงเมนูใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะลูกศิษย์ ที่อาศัยวิชาความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพหารายได้ ซึ่งโดยส่วนตัวเธอเป็นคนที่ชื่นชอบการรับประทานชีส และหลงเสน่ห์ในความยืดของชีส จึงอยากนำมาใส่ไอเดียที่แตกต่างออกไป ด้วยการศึกษาเรื่องชีสอย่างจริงจัง
อุนันทา จันทร์บาง เจ้าของธุรกิจ Happy Cheese Toast
“ชีสปกติจะเป็นมอสซาเรลล่า (Mozzarella) และชีสทั่วไปที่มักนำมาใส่ในขนมปังปิ้ง เมื่อโดนความร้อนจะยืดได้ แต่เมื่อเย็นลงจะมีความเหนียวไม่ชวนรับประทาน ดังนั้นเราจึงคิดหาวิธีที่ทำให้ชีสยังคงความเหนียวนุ่มอยู่ได้ ซึ่งใช้เวลาคิดค้นไม่นาน ก็ได้ชีสคุณภาพจากฟาร์มนมชั้นดี ออกมา 6 สูตร คือ ชีสรสดั้งเดิม, รสหวานสีสายรุ้ง, พริกเผา, มั่นม่วง, ชาเขียวมัจฉะ และชาโคล”

ช่วงแรกเธอทำส่งตามร้านของลูกศิษย์ที่สนิทกัน เช่น จ.สุราษฎร์ธานี และแถบปริมณฑล เมื่อต้นปี 60 ที่ผ่านมา กระแสการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ มีการเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อ โดยเฉพาะชีสสายรุ้งที่นอกจากรสชาติจะแปลกใหม่แล้ว สีสันยังชวนให้ลิ้มลองจากชีสทั้ง 7 สี ที่เมื่อยืดออกมาจะเหมือนสายรุ้งไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งเป็นสีสำหรับปรุงแต่งอาหารที่เข้ากับชีสได้เป็นอย่างดี ถูกใส่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
มาเตรียมยืดชีสสายรุ้งกัน
แต่ลึกๆ แล้วเธออยากมีหน้าร้านเป็นของตัวเองสักร้านหนึ่ง เพราะอยู่เบื้องหลังมานานต้องการมีธุรกิจของตัวเองบ้าง ซึ่ง “ชีส” ที่แปลกใหม่ น่าจะเป็นสินค้าตัวแรกที่นำร่องในการบุกเบิกตลาด พร้อมได้แรงสนับสนุนจากผู้เป็นสามีช่วยคิดรูปแบบร้านและผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร สุดท้าร้าน “Happy Cheese Toast” ก็เปิดตัวขึ้นครั้งแรกเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 60 ที่ผ่านมา ณ งาน Cheeze Magazine ลานเซ็นทรัลเวิร์ล ที่มีระยะเวลาการจัดงานเพียง 3 วัน (7-10 ส.ค.) ผลตอบรับดีเกินคาด สินค้าที่เตรียมไปเพียง 100 ชิ้น หมดในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง
นำขนมปังปิ้งลงบนกระทะ
“สาเหตุที่เราเลือกงาน Cheeze Magazine เป็นที่แรกในการออกบูธ เพราะรูปแบบงานตรงกับสินค้าของเรามากที่สุด รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาร่วมงานเป็นวัยรุ่น และคนวัยทำงาน ซึ่งตรงกับเป้าหมายที่เราวางไว้ที่จะช่วยโปรโมทแบรนด์ของเราผ่านช่องทางโซเชียลได้ แต่ผลตอบรับกลับดีเกินคาดผ่านไปเพียง 3 ชั่วโมง สินค้าของเราที่เตรียมมา 100 ชิ้นหมด ทั้งๆ ที่จำนวนดังกล่าว เราเตรียมขายในช่วงตลอดงาน 3 วัน ถือเป็นกระแสที่เกิดขึ้นเร็วมาก ชนิดที่เราก็ไม่ทันไม่ตัว”
เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ที่ต้องแชะแล้วแชร์
นอกจากรสชาติของชีสที่มีความเหนียวนุ่ม เมื่อทิ้งไว้ให้เย็นลงชีสก็ยังคงความนุ่มอยู่ รสชาติกลมกล่อมแล้ว ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก ทาง “Happy Cheese Toast” ก็ยังให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เริ่มจาก เนื้อแป้งขนมปังเป็นสูตรที่ทางร้านคิดขึ้นเอง และจ้างโรงงานผลิต ซึ่งเป็นขนมปังที่ทำส่งร้านลูกศิษย์มาโดยตลอด แต่ที่แตกต่างออกไปคือโลโก้แบรนด์ พร้อมใบหน้าตุ๊กตาน่ารัก รอยยิ้มสดใส ที่ฉาบลงบนแผ่นขนมปังเพื่อนำมาปิ้งจะเกิดเป็นลวดลายดังกล่าว ส่งผลให้ขนมปังมีความกรอบนอกนุ่มใน และกลายเป็นเครื่องการันตีคุณภาพผลิตภัณฑ์ Happy Cheese Toast ได้เป็นอย่างดี
นำไปอบในเตาก็ได้นะ
“ในส่วนของขนมปังก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความอร่อยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสูตรที่เราคิดค้นขึ้นเองและจ้างโรงงานผลิต เป็นขนมปังสีขาวรสชาติกลางๆ ไม่หวานและไม่เค็มจนเกินไป เมื่อผสานเข้ากับชีสคุณภาพก็มีรสชาติขึ้น แต่เราก็เอาใจนักชิมที่ชอบรสจัดไว้ด้วย คือ เราเตรียมทอปปิ้ง เช่น มายองเนส ซอสมะเขือเทศ นมข้นหวาน และอื่นๆ ตามที่ลูกค้าเรียกร้อง”
ทุกครั้งที่ไปออกบูธ ลูกค้าให้ความสนใจเป็นพิเศษทุกเพศทุกวัย
“Happy Cheese Toast” สนนราคาไว้ที่ชิ้นละ 99 บาท เหมาะกับคนที่ชอบทานชีสโดยเฉพาะ และชอบลิ้มลองอาหารที่เป็นแฟชั่นฟู้ด (Fashion Food) แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร แถมยังได้วัตถุดิบที่ดีต่อร่างกาย ปัจจุบันเธอยังไม่มีหน้าร้าน เน้นการออกบูธตามงานต่างๆ ย่านใจกลางกรุงเทพฯ และจากความโด่งดังนี้เองทำให้มีลูกค้าชาวต่างชาติ ที่มีโปรแกรมจะบินมาไทยในช่วงที่ออกบูธ ก็ตั้งใจแวะมาลิ้มลอง บางรายขอร่วมลงทุน เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และสหรัฐฯ แต่เธอยังไม่พร้อม เพราะธุรกิจอยู่ในช่วงเริ่มต้นได้เพียงเดือนเศษ และสินค้ายังเป็นแบบโฮมเมด อาศัยแรงงานคนในการผลิตขนมปังแต่ละชิ้น ดังนั้นคงต้องรออีกสักระยะในเรื่องการขยายตลาดไปต่างประเทศ 

ส่วนอนาคตเธอเตรียมหาทำเลใจกลางเมืองเป็นหน้าร้านเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องคอยไปชิมตามงาน และยังรองรับลูกค้าจากต่างประเทศได้ด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการเตรียมทีมงานแตกไลน์ธุรกิจ และขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป

***สนใจติดต่อ Facebook: Happy Cheese Toast
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น