กรมพัฒนาธุรกิจฯ แถลงยอดจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน ก.ค. 60 พบยอดตั้งใหม่ลด 8% จากเดือนก่อนหน้า ทว่า เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนยอดเลิกกิจการเพิ่ม 5% จากเดือนก่อนและ 16% จากช่วงเดียวกัน
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวในการแถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจและผลการให้บริการประจำเดือนกรกฎาคม 2560 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2560 มีจำนวน 5,979 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งมีจำนวน 6,525 ราย ลดลงเล็กน้อย จำนวน 546 ราย คิดเป็น 8% และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 4,919 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,060 ราย คิดเป็น 22%
สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกมีจำนวน 1,626 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 78 ราย คิดเป็น 5% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,548 ราย และเพิ่มขึ้นจำนวน 221 ราย คิดเป็น 16% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 1,405 ราย
ทั้งนี้ มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ ในเดือนกรกฎาคม 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,258 ล้านบาท ลดลงจำนวน 19,658 ล้านบาท คิดเป็น 48% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งมีจำนวน 40,916 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจำนวน 5,833 ล้านบาท คิดเป็น 38% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งมีจำนวน 15,425 ล้านบาท
สำหรับประเภทธุรกิจที่มีการประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 640 ราย รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 328 ราย ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 167 ราย ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ จำนวน 164 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 129 ราย ตามลำดับ
ขณะที่ห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ก.ค. 60) จำนวน 1,402,233 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 21.45 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศจำนวน 669,296 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 16.65 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น บริษัทจำกัด 487,730 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,175 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,391 ราย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา 2560 (ม.ค.-ก.ค.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 41,921 ราย มีมูลค่าจดทะเบียนทั้งสิ้น 185,539 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าจำนวนนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น จำนวน 5,210 ราย คิดเป็น 14% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค.-ก.ค. 59) ซึ่งมีจำนวน 36,711 ราย สืบเนื่องจากมาตรการทางด้านภาษีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 ซึ่งเป็นการส่งเสริมการลงทุนในประเทศเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้ตามเป้าหมาย และแรงขับเคลื่อนจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับการส่งออกที่เริ่มมีทิศทางการฟื้นตัวดีขึ้นและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ภาคการท่องเที่ยวก็เริ่มจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นเช่นกันปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีและเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีเสถียรภาพ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *