มะม่วงน้ำปลาหวาน "ระฆังทอง" ที่ตลาดนัดโต้รุ่งบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ร้านนี้ไม่ธรรมดา ได้ฉายาว่า "มะม่วงน้ำปลาหวานร้อยคิว" เพราะการที่จะมาซื้อมะม่วงน้ำปลาหวานร้านนี้ โอกาสที่จะมาซื้อโดยไม่ต้องใช้บัตรคิวนั้นค่อนข้างยาก เพราะเมื่อตั้งร้านก็มีลูกค้ามารอ และทุกคนรู้กฎ คือต้องหยิบบัตรคิว และไปเข้าแถว ซึ่งดูจากบัตรคิวที่มีถึง 200 คิว ก็คงไม่ต้องบอกว่าเขาขายดีขนาดไหน
สองสามีภรรยา "คุณจิระพันธ์ มณีกุล" (สามี) และ "คุณมยุรฉัตร แพร่ติภา" (ภรรยา) เล่าถึงร้านมะม่วงน้ำปลาหวานระฆังทอง ว่า เกิดขึ้นมาจาก "คุณมยุรฉัตร" ต้องการหารายได้ระหว่างเรียน มาเปิดร้านขายฝรั่ง และมะม่วงน้ำปลาหวาน ซึ่งเป็นสูตรของแม่สามี เดิม ครอบครัวของสามี พี่ๆ น้องๆ ทำขายระหว่างเรียน พอเรียนจบไปทำงานกันหมดก็หยุดขายไป ตนก็เลยลองสูตรมะม่วงน้ำปลาหวานแม่สามีมาขายควบคู่ไปกับขายฝรั่ง ตั้งโต๊ะเล็ก ขอพื้นที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของญาติ สุดท้ายมะม่วงน้ำปลาหวานเริ่มขายดี ก็เลยตัดสินใจขายมะม่วงน้ำปลาหวานอย่างเดียว พร้อมกับขยายพื้นที่ร้าน โดยซื้อ Food Truck มาเปิดร้านขายบนรถ แต่จอดขายที่เดิม พอนับถึงวันนี้ 13 ปี
มยุรฉัตรบอกว่า หลังเรียนจบ ปวช.ก็ขายมะม่วงน้ำปลาหวานอย่างจริงจัง ตอนนั้นทำกับแฟน ช่วยกัน 2 คน จากยอดขายวันแรก ตั้งโต๊ะใช้มะม่วงประมาณ 10 กิโลกรัม พอผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน ใช้มะม่วงเพิ่มเป็น 1 ลัง หรือ 25 กิโลกรัม และค่อยขยับขึ้นเป็น 2 ลัง (50 กิโลกรัม) เวลาผ่านไป ลูกค้าเริ่มรู้จักมากขึ้น มีลูกค้าประจำกลับมาซื้ออีก และได้ลูกค้าใหม่จากการบอกต่อ ปัจจุบันต้องใช้มะม่วงประมาณ 10 ลัง 250 กิโลกรัม และใช้น้ำตาลในการปรุงน้ำปลาหวานมากถึงวันละ 100 กิโลกรัม และต้องใช้เงินในการซื้อกุ้งแห้งต่อวันมากกว่า 5,000 บาทในการทำน้ำปลาหวาน
โดยราคาขายมะม่วงน้ำปลาหวานของร้านระฆังทอง เริ่มต้นที่ชุดละ 40 บาท มะม่วง 4 ขีด พร้อมน้ำปลาหวาน และ 50 บาท มะม่วง 5 ขีด พร้อมน้ำปลาหวาน และ 100 บาท มะม่วง 2 ลูก พร้อมน้ำปลาหวาน ส่วนราคาน้ำปลาหวานเปล่า ราคา 30 บาท น้ำหนัก 4 ขีด และ 40 บาท น้ำหนัก 5 ขีด 50 บาท นอกจากเมนูมะม่วงน้ำปลาหวาน ก็ยังมีกะปิแห้ง และกะปิหวาน และนอกจากน้ำปลาหวานที่รสชาติดี สิ่งสำคัญที่ร้านระฆังทองให้ความสำคัญ คือ มะม่วง
มยุรฉัตรบอกว่า เขาเลือกมะม่วงที่รสชาติดี ไม่เปรี้ยวมาก ได้แก่ มะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น เดือน 9 และมะม่วงน้ำดอกไม้ที่แก่จัด การเลือกมะม่วงสำคัญพอๆ กับการปรุงรสชาติของน้ำปลาหวาน ซึ่งมีแหล่งที่สามารถซื้อได้ทั้งปี อย่างสวนมะม่วงทวาย เป็นสวนที่มีผลผลิตมะม่วงออกทั้งปี แต่ราคามะม่วงไม่คงที่ ช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลมะม่วงก็จะแพง และรสชาติเปรี้ยว บางครั้งเราต้องเปลี่ยนเป็นมะม่วงมัน อย่างฟ้าลั่นไปเลย ถ้ามะม่วงเปรี้ยวรสชาติไม่ดี ซึ่งลูกค้าเข้าใจ และรับได้
สำหรับรายได้ ไม่ธรรมดา เพราะถ้าขายหมดจะมีรายได้ต่อคืนมากถึง 20,000-30,000 บาท โดยเริ่มขายตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึง 4 ทุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะขายหมดทุกวัน นอกจากวันไหนฝนตกยอดขายลดลงไปบ้าง ซึ่งวันที่ขายดีสุดบางครั้งบัตรคิวที่เตรียมไว้ 150 คิวใช้เกือบหมด และนอกจากมะม่วง มีผลไม้ฤดูกาลอื่นๆ ที่กินกับน้ำปลาหวานได้ลงตัว อย่างสละ และกระท้อนทรงเครื่อง ด้วย
"มยุรฉัตร" ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมามีลูกค้ามาขอซื้อสูตร บางคนก็มาขอซื้อแฟรนไชส์ แต่ตนเอง และสามีมองว่าสูตรของเรายังไม่คงที่ในแต่ละวัน ก็เลยยังไม่กล้าขายแฟรนไชส์ และทำตรงนี้ก็มีรายได้เพียงพอสำหรับตนเอง กับแฟน แต่ถ้าในอนาคตพร้อมกว่านี้ ก็อาจจะขายแฟรนไชส์ ส่วนคู่แข่งในตลาดก็มีบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายของเราลดลง เพราะเชื่อมั่นในรสชาติ ซึ่งคงจะหาคู่แข่งเลียนแบบได้ยาก
ส่วนสูตรการทำมะม่วงน้ำปลาหวานของระฆังทอง อย่างหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดคือ กุ้งแห้งที่เขาเลือกกุ้งแห้งที่ตัวใหญ่ และกุ้งฝอยที่ใส่ไม่อั้น เชื่อว่าคงจะไม่มีใครกล้าให้กุ้งได้มากขนาดนี้ ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า การกล้าให้เต็มที่ และเมื่อรสชาติลงตัว ทั้งมะม่วงและน้ำปลาหวาน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ลูกค้าติด และต้องกลับมาซื้อซ้ำจนเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งคงไม่ต้องถามถึงรายได้ต่อเดือนไม่ต่้ำกว่า 6 หลักอย่างแน่นอน ขณะที่ทั้งสองคนบอกว่าเป็นรายได้ที่มากกว่าการไปทำงานประจำของเขาทั้งสองคน จึงตัดสินใจเลือกที่ทำอาชีพค้าขาย แบบนี้
สนใจโทร. 08-0111-6050
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *