แม้จะเข้าสู่วงการเครื่องดื่มพร้อมดื่มไร้แอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic Beverage) ได้ไม่นาน ทว่า น้ำโซดากลิ่นผลไม้ แบรนด์ “จัสซ่า” (JUST ZAA) สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้วงการอย่างน่าสนใจ ด้วยการนำเสนอตัวเองเป็นเครื่องดื่มทางเลือกใหม่ ที่โดดเด่นด้วยรสชาติหอมหวาน ชื่นใจ และไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย ส่งให้ตลาดตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่กับยอดขายที่พุ่งทะยานต่อเนื่อง
ผู้ปลุกปั้นและอยู่เบื้องหลังเครื่องดื่มน้องใหม่ แบรนด์ “จัสซ่า” คือ “คุณมิตร เฉลิมชัยชาญ” เจ้าของอาณาจักร “เฉลิมชัยชาญ” ผู้นำเข้าหมึกพิมพ์อันดับหนึ่งของประเทศไทยและแถวหน้าของเอเชีย ซึ่งคลุกคลีในธุรกิจหมึกพิมพ์ยาวนาน ตั้งแต่ พ.ศ.2510 โดยส่งหมึกพิมพ์ให้ทั้งหนังสือพิมพ์หัวสี และโรงพิมพ์ฉลากสินค้าต่างๆ จำนวนมาก
ปัจจุบัน “เฉลิมชัยชาญ” ยังคงอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงธุรกิจนำเข้าและส่งหมึกพิมพ์ แต่ด้วยเทรนด์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน หันไปใช้บริการสื่อดิจิทัลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งให้แนวโน้มการใช้หมึกพิมพ์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ จำเป็นต้องปรับตัว สร้างธุรกิจใหม่มาเสริมทัพธุรกิจเดิม เป็นที่มาของการแตกไลน์ธุรกิจจากผู้นำเข้าและส่งหมึกพิมพ์ สู่ผู้ผลิตเครื่องดื่ม
คุณมิตร อธิบายเสริมถึงเหตุผลที่เลือกจะเข้าสู่วงการเครื่องดื่มพร้อมดื่ม เพราะเห็นว่าธุรกิจนี้ ตลาดใหญ่มูลค่ามหาศาล และเติบโตต่อเนื่องทุกปี (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2559 มูลค่า 225,000-230,000 ล้านบาท) อีกทั้ง ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เครื่องดื่มคลายร้อนเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอยู่แล้ว นอกจากนั้น สินค้าประเภทนี้มีความเป็นสากลสามารถจะทำตลาดขายได้ทั่วโลก
เมื่อเป้าหมายหลักต้องการผลิตเครื่องดื่มพร้อมดื่ม โจทย์ต่อมา ต้องเฟ้นหาเครื่องดื่มที่แปลกใหม่จากสินค้าทั่วไปในท้องตลาด เพราะหากจะผลิต “น้ำอัดลม” หรือ “น้ำชาเขียว” แทบไม่มีทางจะเบียดสู้กับแบรนด์ยักษ์เจ้าตลาดได้เลย ดังนั้น การเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ ย่อมสร้างโอกาสแจ้งเกิดแบรนด์น้องใหม่ได้ง่ายกว่า
“ผมศึกษาสินค้าเครื่องดื่มในตลาดจากทั่วโลก จนพบว่า น้ำโซดากลิ่นผลไม้ มีความน่าสนใจมาก เพราะดื่มแล้วหอมหวานชื่นใจ อีกทั้ง ในตลาดโลกมีคู่แข่งน้อยมาก ส่วนในเมืองไทยยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ผมจึงเชื่อว่า เราสามารถจะเป็นเครื่องดื่มทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคได้ ทั้งในและต่างประเทศ” คุณมิตร เผยแนวคิดธุรกิจ
แบรนด์ “จัสซ่า” บริหารภายใต้ บริษัท ฟรุ๊ตซ่าส์ จำกัด ใช้เวลาวิจัยและพัฒนาสินค้าอยู่ประมาณ 1 ปี เบื้องต้นมีด้วยกัน 6 รสชาติ ประกอบด้วย แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ สตรอเบอรี ส้ม องุ่น และมะนาว คุณสมบัติเด่น สามารถเปิดดื่มได้ทันที หรือนำไปผสมเป็นเครื่องดื่มคอกเทลก็ได้ ส่วนรสชาติ เน้นรสหวานน้อย น้ำตาลแค่ 3% เพื่อเข้ากับเทรนด์รักสุขภาพของคนยุคใหม่ รวมถึง ไม่ซ่าจนเกินไป เพื่อให้เป็นเครื่องดื่มเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กเล็กยังสามารถดื่มได้เช่นกัน
อีกจุดเด่น เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ “กระป๋องใส” สามารถมองเห็นน้ำโซดาภายในได้อย่างชัดเจน เจตนาเพื่อต้องการแสดงให้ผู้บริโภคเห็นถึงความสะอาดปลอดภัย แถมยังชวนน่าดื่มอีกด้วย
“น้ำดื่มเมื่อบรรจุกระป๋องใส ถ้าเกิดมีตะกอน หรือมีสิ่งสกปรกแม้แต่นิดเดียว ก็จะเห็นชัดเจน ธุรกิจแทบจะจบเลย ดังนั้น ที่เราเลือกใช้กระป๋องใส เพราะมั่นใจในคุณภาพ กล้าพิสูจน์ให้ผู้บริโภคเห็นว่า ของเราสะอาดปลอดภัยจริงๆ ผ่านมาตรฐานทั้ง อย.และฮาลาล และเมื่อนำไว้วางบนชั้นขายสินค้า เคียงข้างกับเครื่องดื่มกระป๋องชนิดอื่นๆ ที่เป็นแบบทึกแสง กระป๋องใสจะโดดเด่นขึ้นมาทันที นอกจากนั้น เรายังเลือกขนาดกระป๋องที่เหมาะจะวางในตู้เย็นได้กำลังดี นี่เป็นสิ่งที่เราคิดรอบด้าน เพื่อให้สินค้าตอบความต้องการของตลาดได้ดีที่สุด” เจ้าของธุรกิจอธิบายถึงที่มาของบรรจุภัณฑ์กระป๋องใส
น้ำโซดากลิ่นผลไม้“จัสซ่า” เริ่มอวดโฉมในท้องตลาดมาประมาณ 1 ปี ราคากระป๋องละ 25 บาท กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ในระยะเริ่มแรก อาศัยลงพื้นที่ทั้งย่านธุรกิจ สถาบันการศึกษา เพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายได้ทดลองดื่มมากที่สุด เพื่อจุดกระแสบอกต่อ ควบคู่กับทำโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย และโทรทัศน์ เน้นสื่อสารให้รู้จักในฐานะเครื่องดื่มทันสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่ ตามด้วยส่งเข้าขายในซุปเปอร์มาร์เกต และห้างสรรพสินค้าต่างๆ เช่น ฟู้ดแลนด์ ตั้งฮั่วเส็ง เดอะมอลล์ วิลล่ามาร์เกต และแมคโคร เป็นต้น นอกจากนั้น ออกงานแสดงสินค้าอาหารเพื่อการส่งออก (THAIFEX) เพื่อเปิดรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างชาติ
จากความโดดเด่นและแปลกใหม่ของเครื่องดื่ม “จัสซ่า” นับตั้งแต่เปิดตัวมา ได้ผลตอบรับดีขึ้นต่อเนื่อง จากช่วงเริ่มต้น ยอดผลิตประมาณหลักพันกระป๋องต่อวัน มาถึงปัจจุบันนี้ เพิ่มเป็นหลักหมื่นกระป๋องต่อวัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนั้น ได้รับความสนใจจากคู่ค้าต่างชาติจำนวนมาก ติดต่อให้ส่งออกสินค้าไปขายทั้งที่ทวีปยุโรป และเอเชีย
ดังนั้น เพื่อจะขยายกำลังผลิตให้ทันต่อความต้องการของตลาด บริษัท ฟรุ๊ตซ่าส์ จำกัด ได้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำหน้าที่ค้ำประกัน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับ ทั้งช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน แถมยังได้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษด้วย
“บริการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อนำมาขยายกำลังผลิต ซึ่งตามแผนที่วางไว้ จะผลิตเพิ่มเป็นวันละหลักแสนกระป๋อง สำหรับรองรับตลาดในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างดี และส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งเวลานี้กำลังเจรจาอยู่หลายราย นอกจากนั้น ในปีหน้า (2561) จะออกอีก 2 รสใหม่ คือ เมลอน และบลูเบอรี รวมถึง ใส่สารที่ให้คุณประโยชน์ทางร่างกาย เพื่อให้เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย” คุณมิตร เผยในตอนท้าย
ถึงจะเป็นหน้าใหม่ในวงการเครื่องดื่ม แต่ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารที่คว่ำหวอดในการทำธุรกิจมากกว่า 40 ปี ประกอบกับมีกลไกค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.เป็นแรงเสริม ช่วยให้แบรนด์ “จัสซ่า” สามารถแจ้งเกิดในฐานะเครื่องดื่มน้องใหม่ไฟแรงที่น่าจับตา และพร้อมจะต่อยอดสู่ตลาดโลกในเร็ววันนี้
บทความโดย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *