จากจุดเล็กๆ ที่ต้องการให้ผ้าขาวม้าของไทยกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ทำให้เจ้าของแบรนด์ “นุชบา” ตัดสินใจนำผ้าขาวม้าที่สะสมมาแปรเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายสู่สาธารณะ จนขณะนี้กลายเป็น 'ผ้าขาวม้าเงินล้าน' ไปแล้ว ซึ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากความมุ่งมั่นและตั้งใจของเธอทั้งสิ้น
เส้นทางการพลิกฟื้นผ้าขาวม้าให้กลับมาโลดแล่นในวิถีชีวิตของคนไทยอีกครั้งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทุกย่างก้าวของผ้าขาวม้าแบรนด์ 'นุชบา' ล้วนต้องฟันฝ่าอุปสรรคมานับไม่ถ้วน มาวันนี้เธอทำสำเร็จ สามารถปั้นผ้าขาวม้าจนขายดิบขายดีและคว้าเงิน 'ล้าน' มาครองได้สำเร็จ!
“ธนิดา คุณณัฐณิชา” ที่ปรึกษาห้างหุ้นส่วนจำกัดเคทีพีกรุ๊ป ผู้วาดฝันให้ผ้าขาวม้าไทยโลดแล่นในตลาดได้อีกครั้ง โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่ตัวเธอเอง อาศัยผ้าขาวม้าที่สะสมไว้มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ จากนั้นเมื่อความนิยมเพิ่มมากขึ้นก็กระจายงานสู่ชุมชนด้วยการทอผ้าขาวม้า มาวันนี้ออเดอร์ล้นทอผ้าแทบไม่ทัน จากการแปรรูปเป็นกระเป๋าทรงเก๋ให้โลดแล่นอวดความงามแบบไทยแท้ใน Lazada
“ในฐานะที่เราเป็นคนอีสานตั้งแต่เกิดเห็นวิถีชาวบ้านใช้ผ้าขาวม้ามายาวนาน แต่ที่ผ่านมาความนิยมเริ่มลดน้อยลง จึงคิดรื้อฟื้นความนิยมขึ้นมาใหม่ เพราะผ้าขาวม้าถือเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เริ่มต้นจากการนำผ้าขาวม้าที่เป็นของสะสมของตัวเองมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ก็มีแต่คนรู้จักที่อุดหนุนกันเอง ทำให้ตลาดไม่โตเท่าที่ควร และลำพังจะทำเพียงคนเดียวอาจทำให้ผ้าขาวม้าไปได้ไม่ไกลดังฝัน จึงหันพึ่งหน่วยงานภาครัฐฯ และเครือข่ายท้องถิ่น โดยมีการส่งผลงานเข้าประกวดสินค้าโอทอป และออกบูทตามงานต่างๆ ก็ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น”
หลังจากที่เธอรุกตลาดเต็มที่ก็เริ่มมีออเดอร์เข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องระดมชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันทอผ้าขาวม้าขึ้น เธอเลือกใช้วิธีลงพื้นที่ปลุกระดมทำความเข้าใจกับชุมชน พร้อมอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน แสดงความจริงใจต่อกัน พร้อมชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่จะทำร่วมกันนั้นจะสร้างมูลค่าให้ผ้าขาวม้ามากมายขนาดไหน ซึ่งสุดท้ายสิ่งที่จะตามมาคือรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
และแล้วผ้าขาวม้าแบรนด์ ‘นุชบา’ ก็เกิดขึ้น มีทั้งผ้าผืน และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยยังคงคอนเซ็บต์ว่าต้องเป็นสินค้าที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และเป็นสื่อที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชาวไทยอีสานได้เป็นอย่างดี
“จากเดิมชาวอำนาจเจริญมีกลุ่มทอผ้ากว่า 100 ชุมชน จาก 7 อำเภอ แต่เราเลือกเข้าถึงเฉพาะกลุ่มทอผ้าขาวม้าเพราะเป็นลายผ้าที่เรารักและชื่นชอบเป็นการส่วนตัว สำหรับกลุ่มที่ทอผ้าขาวม้าในพื้นที่มีอยู่ 20-30 กลุ่ม จาก 43 ชุมชน เราพยายามดึงความสามารถในการทอผ้าที่เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนออกมา อย่างตำบลดงมะยาง อำเภอลืออำนาจ จะทอผ้าสีธรรมชาติได้สวยมาก อำเภอปทุมราชวงศาจะเก่งทอผ้าลายน้ำไหลหรือน้ำหลาก อำเภอชานุมานจะถนัดทอผ้าสีย้อมคราม ลวดลายดั้งเดิม ซึ่งจะเห็นว่าผ้าขาวม้าทอมือเรารับซื้อมาจากหลายที่ เพราะคำนึงความต้องการของตลาดที่แตกต่างกัน”
ขณะที่การออกแบบตัดเย็บ คุณธนิดาจะพิถีพิถันในขั้นตอนนี้มาก ต้องคัดเลือกคนฝีมือดีมาเป็นผู้ตัดเย็บ เพราะหากมีออเดอร์ที่เร่งด่วนต้องอาศัยผู้ที่ชำนาญจริงๆ จึงจะทำผลงานออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มชาวบ้านฝีมือดี คือ ชาวบ้านอำเภอหัวตะพาน ที่มีความชำนาญในการตัดเย็บมานานหลายปี ลูกค้าส่วนใหญ่ยอมรับในฝีมือ พร้อมคำชมตลอด ทำให้เธอรู้สึกภูมิใจที่ได้ส่งต่อมรดกของไทยอย่างผ้าขาวม้า ให้ผู้คนที่หลงใหลในผ้าไทยชนิดนี้ได้
ผลิตภัณฑ์จากผ้าขาวม้าแบรนด์ “นุชบา” นอกจากผ้าผืนที่ผู้คนนิยมแล้ว ยังมีกระเป๋า เสื้อผ้า ที่ทำขึ้นจากผ้าขาวม้าด้วย ซึ่งเธอใช้เวลาในการแจ้งเกิดสินค้าเพียง 1 ปีเท่านั้นก็สามารถสร้างยอดขายในตลาดออนไลน์ได้ถึง 5 แสนบาท ซึ่งกระเป๋าก็เป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแจ้งเกิด แต่เมื่อตลาดเริ่มโตแบบไม่ทันตั้งตัว ออเดอร์มากขึ้น ทำให้เธอประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และไม่มีเงินทุนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้นทางเลือกของเธอคือ การขอสินเชื่อกับ SME Development Bank เพื่อนำมาลงทุนต่อยอดผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น กระเป๋า เสื้อผ้าสำเร็จรูป หมอน พวงกุญแจ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าผืน ตุ๊กตา ผ้าพาดเตียง และอื่นๆ
สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 20-790 บาท ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ลูกค้าได้รับ ทำให้สินค้าแบรนด์นุชบาได้ถูกรับเลือกให้วางจำหน่ายที่ร้านค้าประชารัฐสุขใจ ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาหน้าศาลากลาง และสาขา จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการความร่วมมือของภาครัฐ ที่ต้องการส่งเสริมเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้สินค้าชุมชน
และสิ่งที่ดันยอดขายให้ทะลุถึงหลักล้าน คือการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความชื่นชมในคุณภาพสินค้าแปรรูปจากผ้าขาวม้าเมืองอำนาจเจริญ พร้อมถ่ายภาพร่วมกับสินค้าแบรนด์นุชบา ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้คน ออเดอร์หลั่งไหลมาจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ กว่า 80% ขณะที่ออเดอร์จากออนไลน์อยู่ที่ 20% ล่าสุดสามารถติดปีกผ้าขาวม้าไทยวางขายใน Lazada.co.th ตลาดออนไลน์ใหญ่ระดับโลกได้
อนาคคตเธอวาดฝันปั้น 'หมู่บ้านผ้าขาวม้าไทย' โดยใช้หมู่บ้านที่ทอผ้าขาวม้าเนรมิตเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเทียบชั้นหมู่บ้านจิม ทอมป์สัน ที่พร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องผ้าขาวม้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หวังอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป และหากคิดถึง จ.อำนาจเจริญ ต้องคิดถึงผ้าขาวม้าทอมือ
***สนใจติดต่อ 08-0333-8399 หรือที่ Facebook: NUCHBrand***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
