น้ำมังคุด เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มีผลการวิจัยออกมาหลายฉบับเรื่องรองรับคุณสมบัติของน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น ในขณะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการปลูกมังคุด และมีผลผลิตมังคุดออกมาเป็นจำนวนมาก ขนาดเรียกว่าล้นตลาดกันเลยทีเดียว หน่วยงานที่สนับสนุนการวิจัยมังคุด หรือแม้แต่องค์การอาหารและยา หรือ อย.ของไทย กลับไม่ยอมรับผลงานวิจัยคุณสมบัติของน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น
ทั้งนี้ ในต่างประเทศ หลายประเทศก็ออกมายอมรับพร้อมกับจำหน่ายและกล่าวถึงคุณสมบัติมังคุดสกัดเข้มข้นกันอย่างกว้างขวาง กระแสที่มาแรงในต่างประเทศ แต่ประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบและแหล่งผลิตน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นอันดับต้นๆ ของโลก การขายน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นกลับไม่มี อย.รองรับ โดยคำตอบคงจะเป็นเรื่องของการตลาด ที่บางครั้งก็อยากที่จะอธิบาย แต่สำหรับผู้ประกอบการรายนี้ “ผศ.เดือนรุ่ง เบญจมาศ” ดำรงตำแหน่งอาจารย์ฟูดส์ซายน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี และเป็นหนึ่งในผู้ทำวิจัย และผลิตน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นออกมาจำหน่าย ภายใต้ บริษัทสยามโปรฟรุตส์ จำกัด
สำหรับ สยามโปรฟรุตส์ เป็นโรงงานผลิตน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น และน้ำมังคุดพร้อมดื่ม ที่ตั้งของโรงงานอยู่ในพื้นที่แหล่งปลูกมังคุดสำคัญ อย่างจังหวัดจันทบุรี ซึ่งโรงงานแห่งนี้ไม่ธรรมดา เพราะน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นที่จำหน่ายในประเทศไทยมากกว่า 60 แบรนด์ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ อันนี้ยังไม่รวมถึงแบรนด์ที่ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ รวมแล้วโรงงานของอาจารย์เดือนรุ่งแห่งนี้ผลิตน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นให้กับแบรนด์ชั้นนำที่ขายในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 80 แบรนด์
ผศ.เดือนรุ่งเล่าว่า ที่มาของการเปิดโรงงานทำน้ำมังคุดครั้งนี้เกิดมาจากตนเองได้ร่วมทำวิจัยกับหน่วยงานและคณะอาจารย์ ทำให้เรารู้ว่าน้ำมังคุดมีคุณสมบัติที่ดีมาก และตลาดทั่วโลกมีความต้องการสูง ประกอบกับเราอยู่ในพื้นที่ เห็นถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร เวลาผลผลิตออกมามาก และล้นตลาดก็ไม่รู้จะนำไปทำอะไร ดังนั้น การแปรรูปเป็นทางออกที่ดีในการช่วยเหลือเกษตรกร และยังช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ได้มีแนวทางในการดูแลสุขภาพ นอกเหนือจากการใช้ยาปฏิชีวนะ
บริษัท สยามโปรฟรุตส์ จำกัด เป็นโรงงานที่รับจ้างผลิต หรือ OEM เป็นหลัก ซึ่งใครมีสูตรอะไร หรือต้องการให้โรงงานผลิตตามสูตรน้ำมังคุดของตนเองก็ได้เช่นกัน ที่ผ่านมามีผู้จำหน่ายน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นมาว่าจ้างให้โรงงานผลิตเป็นจำนวนมาก เพราะส่วนหนึ่งอาจารย์เดือนรุ่งมีความเชี่ยวชาญในฐานะนักวิชาการ และได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานวิจัยต่างๆ ทำให้รู้ขั้นตอนและวิธีการผลิต ที่จะทำให้ได้น้ำมังคุดสกัดเข้มข้น ที่มีคุณสมบัติอย่างที่ควรจะเป็น โดยการทำน้ำมังคุดสกัดเข้มข้นเป็นการสกัดจากเปลือกมังคุดเป็นหลัก ดังนั้น การเลือกวัตถุดิบหรือการทำความสะอาดเพื่อให้เปลือกมังคุดปลอดจากสารพิษจึงเป็นเรื่องสำคัญ และที่เลือกใช้เปลือก เพราะผลงานวิจัย สารสำคัญอยู่ที่เปลือกมังคุด
“ส่วนวัตถุดิบ เนื่องจากเก็บวัตถุดิบช่วงที่ผลผลิตออก ดังนั้นใช้วิธีการแช่แข็ง ทำให้สามารถมีมังคุดที่นำมาใช้ผลิตได้ตลอดทั้งปี และมังคุดที่ใช้เป็นมังคุดตกเกรด ผลไม่สวย หรือมังคุดที่ตกค้าง ไม่สด ดังนั้น ราคาวัตถุดิบที่ซื้อมาใช้ทำน้ำมังคุดก็จะราคาไม่สูง ราคาอยู่ที่ไม่เกิน 20 บาทต่อกิโลกรัม ในแต่ละเดือนต้องใช้มังคุดมากถึงเดือนละประมาณ 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) ปัจจุบันแม้จะมีการทำน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น เพื่อส่งออกต่างประเทศกันอย่างแพร่หลาย แต่ในภาพรวมมีการใช้มังคุดเพียง 5% ของผลผลิตโดยรวมของมังคุดจากหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศ และด้วยความต้องการของตลาดต่างประเทศมีสูง ทำให้น้ำมังคุดสกัดเข้มข้นกว่า 70% ส่งออก ที่เหลือจะเป็นลักษณะของการขายตรงในประเทศไทย” ผศ.เดือนรุ่งกล่าว
ผศ.เดือนรุ่งเล่าว่า เนื่องจากโรงงานของเราเป็นลักษณะของการรับจ้างผลิต ดังนั้นจึงไม่ได้ทำแบรนด์ของเราเอง จนกระทั่งในปีที่ผ่านมาเริ่มมีโรงงานที่รับจ้างผลิตเหมือนกับเราเพิ่มขึ้นมาในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ทำให้เราต้องแตกไลน์ ลองทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ของเราเอง แต่เป็นน้ำมังคุดพร้อมดื่ม เป็นการทำน้ำมังคุดที่คั้นเนื้อมังคุด แต่มีส่วนผสมของเปลือกมังคุดในสัดส่วน 5% ที่เหลือเนื้อมังคุด และน้ำตาล โดยทำออกมา 2 รส คือ น้ำมังคุดล้วน และน้ำมังคุดผสมเสาวรส ส่งขายให้กับร้านขายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ และมีแผนที่จะส่งขายที่ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เกต หรือตัวแทนที่สนใจรับไปจำหน่าย ราคาขายปลีก 20 บาท ถึง 25 บาท ซึ่งร้านที่ขายนักท่องเที่ยวขายขวดละ 25 บาท ปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 20,000 ขวดในปีแรก ยอดขายต่อเดือน ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวเมื่อต้นปีอยู่ที่ประมาณ 2-3 พันขวด ส่งขายตามแหล่งท่องเที่ยว อยู่ที่ ประมาณ 1,500 ขวดต่อเดือน
ผู้สนใจ โทร. 08-6331-6153
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *