xs
xsm
sm
md
lg

“จ๊อบไทยดอทคอม” เผย 5 ธุรกิจไทยต้องการแรงงานมากสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการเว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com)
เว็บไซต์ “จ๊อบไทยดอทคอม” เปิดโผ 5 กลุ่มธุรกิจของไทยที่ต้องการแรงงานมากที่สุดในช่วงครึ่งปี 2560 ที่ผ่านมา ได้แก่ ภาคบริการ อาหารและเครื่องดื่ม ค้าปลีก ยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ และวัสดุก่อสร้าง ชี้สะท้อนเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวส่งผลให้เกิดการจ้างงานมากยิ่งขึ้น คาดครึ่งปีหลังยังโตต่อเนื่อง ผลจากการลงทุนภาครัฐ และท่องเที่ยวขยายตัว

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการเว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) เปิดเผยว่า จากการเก็บข้อมูลสถิติความต้องการแรงงานของประเทศไทยครึ่งปี 2560 ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน พบว่า 5 กลุ่มธุรกิจที่ต้องการแรงงานมากที่สุด ได้แก่ อันดับหนึ่ง ธุรกิจบริการ 9,691 อัตรา ตามมาด้วยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 9,018 อัตรา อันดับสาม ธุรกิจค้าปลีก 8,138 อัตรา อันดับสี่ ธุรกิจยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ 6,775 อัตรา และอันดับห้า ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง 6,316 อัตรา โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. กลุ่มธุรกิจบริการ ประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ได้แก่ งานบริการลูกค้าสัมพันธ์ 1,698 อัตรา งานขาย 1,388 อัตรา และงานเทคนิค/ซ่อมบำรุง 914 อัตรา

2. กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ได้แก่ พนักงานบริการ/ต้อนรับ 2,762 อัตรา งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 1,197 อัตรา และงานขาย 1,059 อัตรา

3. กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ได้แก่ งานขาย 2,899 อัตรา งานบัญชี/การเงิน 639 อัตรา และงานจัดซื้อ/ธุรการ 470 อัตรา

4. กลุ่มธุรกิจยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ ประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ได้แก่ งานเทคนิค/ซ่อมบำรุง 1,249 อัตรา งานขาย 1,161 อัตรา และงานผลิต/ควบคุมคุณภาพ 925 อัตรา

5. กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ประเภทงานที่มีความต้องการแรงงานสูงสุด 3 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ ได้แก่ งานโยธา/สำรวจ/สถาปัตย์ 1,386 อัตรา งานบัญชี/การเงิน 1,150 อัตรา และงานวิศวกรรม 1,025 อัตรา

นางสาวแสงเดือนระบุว่า จากข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ซึ่งปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยยังคงเป็นการบริโภคของภาคเอกชน การลงทุนของภาครัฐในโครงการสำคัญต่างๆ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงส์มาตั้งแต่ปี 2559 (ข้อมูลจากธนาคารโลก) ผนวกกับสถานการณ์ที่ปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นของตลาดรถยนต์ในประเทศ (ข้อมูลจากสำนักยุทธศาสตร์และการวางแผนเศรษฐกิจมหภาค เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560) จึงส่งผลต่อความต้องการแรงงานในกลุ่มธุรกิจเหล่านี้

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังงานในสายผลิตจะยังคงมีอัตราความต้องการแรงงานเติบโต เนื่องจากภาคการผลิตได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการและท่องเที่ยวที่จะขยายตัวดีตามไปด้วย เนื่องจากเป็นส่วนที่สามารถสร้างรายได้และกระจายไปสู่ภาคธุรกิจต่างๆ ทั่วประเทศ และยังได้รับนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐอีกด้วย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น