เมื่อกระแสมะพร้าวมาแรงเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์แถมยังเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของเจ้าของธุรกิจเค้กมะพร้าว "Bakery Mind By Aiew" ทำให้เกิดไอเดียรังสรรค์เป็น 'เค้กมะพร้าวไส้แตก' หน้าตาชวนลิ้มลอง แถมยังสร้างกระแสฮือฮาในโลกโซเชียลแจ้งเกิดได้อย่างงดงาม
คงเคยผ่านตามาบ้างกับเค้กมะพร้าวไส้แตกที่ "เสน่หา ชูสันติ" หรือคุณเอี่ยว ใส่ไอเดียออกแบบเค้กเป็นรูปมะพร้าวพร้อมโชว์ไส้มะพร้าวที่อัดแน่นอยู่ข้างในจนแตกทะลักยั่วน้ำลายบรรดานักท่องโซเชียลไม่น้อย
แต่กว่าจะมาเป็นธุรกิจดังกล่าวได้จุดเริ่มต้นก็ไม่ต่างจากผู้ที่รักในการทำเบเกอรีทั่วไปมากนัก ซึ่งเธออาศัยเวลาว่างหลังจากงานประจำมาลองทำเบเกอรีโดยศึกษาจากยูทูป (youtube) และลงทุนซื้อเตาอบเครื่องแรกในราคา 4,000 บาท เมื่อทำสำเร็จก็ถ่ายรูปลงโลกโซเชียล ซึ่งโดยส่วนตัวเธอชอบรับประทานมะพร้าวมาก ดังนั้นขนมของเธอแทบทุกชนิดก็ย่อมมีมะพร้าวเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะเมนูเค้กมะพร้าวที่เนื้อเค้กใช้กลิ่นและสีเขียวของใบเตยบรรจุลงในถ้วยฟอยล์ทั่วไป เมื่อทำสำเร็จก็นำไปให้เพื่อนร่วมงานได้ลิ้มลอง รวมถึงทำเครปพัฟไส้มะพร้าวครีมสด และกลายเป็นเมนูที่ทุกคนชื่นชอบไม่แพ้กัน
กระทั่งการลองทำเล่นๆ ผ่านไป 3 เดือน ก็มีเหตุให้เธอต้องเปลี่ยนงานจึงตัดสินใจลาออกมาทำเบเกอรีแบบเต็มตัว อาศัยครัวที่บ้านและลงมือเริ่มต้นธุรกิจเพียงคนเดียวตั้งแต่การซื้อวัตถุดิบ ลงมือทำ แพกของ ส่งของ ซึ่งสิ่งที่เธอทำเธอคิดเพียงแค่ว่าต้องหาเงินมาชดเชยรายได้จากงานประจำที่เสียไปให้ได้
แต่เมื่อคลุกคลีในการทำเบเกอรีมาได้เกือบปีเธอก็กลับมาย้อนดูว่าการทำแบบนี้ไม่สนุกและเหนื่อยเกินไปจึงมองหาทำเลเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ แต่สุดท้ายลูกค้าก็ยังไม่มากพอ จึงอาศัยประสบการณ์ด้านการเป็นเซลส์มาก่อนวิ่งหาลูกค้าด้วยตัวเอง โดยการเข้าไปติดต่อตามร้านกาแฟ ร้านอาหาร ถึงขนาดไปลงทุนซื้อตู้แช่เค้กให้ แต่วิธีดำเนินธุรกิจเช่นนี้ก็ไปไม่รอดอยู่ดี เพราะมีการลงทุนที่มากเกินไปขณะที่ผลสำเร็จก็ไม่เป็นตามคาด
เธอจึงขอหยุดพักชั่วคราว และเดินทางไปทำธุรกิจกับเพื่อนที่จังหวัดหนองคาย แต่ก็ยังไม่วายเปิดร้านคาเฟ่ขายเบเกอรีแบบเทกโฮม (take home) ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีพอสมควร และเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วก็กลับมากรุงเทพฯ อีกครั้งหวังนำโมเดลการซื้อกลับบ้านมาปรับใช้กับคนกรุง
ปลายปี 2559 ร้านเค้กเล็กๆ ย่านราษฎร์บูรณะ 29 ก็เกิดขึ้น เน้นการซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน ควบคู่กับการทำตลาดออนไลน์ และเน้นปรับโฉมผลิตภัณฑ์ให้ทุกคนเห็นแล้วต้อง 'ว้าว'
เริ่มจากการทำเค้กกะลา โดยใช้กะลามะพร้าวแทนถ้วยฟอยล์ ขณะที่รสชาติและเนื้อเค้กก็ไม่เป็นรองใครเน้นรสชาติไม่หวานจัดตามกระแสคนรักสุขภาพในปัจจุบัน ขณะที่บรรจุภัณฑ์ก็ต้องดูน่าสนใจด้วย ซึ่งเธอเลือกนำชะลอมมาใส่เค้กมะพร้าว พร้อมออกแบบโลโก้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้า
และเมนูที่สร้างกระแสการแชร์ในโลกโซเชียลคงหนีไม่พ้น 'เค้กมะพร้าวไส้แตก' ซึ่งคุณเอี่ยวบอกว่า ใช้เวลาคิดไม่นาน แต่กว่าจะทำสำเร็จนั้นใช้เวลานานพอสมควรประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงออกมาเป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นเค้กมะพร้าวไส้แตกที่รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบเป็นลูกมะพร้าว ซึ่งสีเขียวที่ทำเป็นลูกมะพร้าวนั้นเป็นสังขยาใบเตยสดห่อหุ้มไว้ด้วยเค้กเนื้อนุ่ม และภายในสุดเป็นเนื้อมะพร้าวอ่อนพร้อมครีมสดที่ใครเห็นก็อดที่จะลิ้มลองไม่ได้
"เมื่อคิดกลับมาตั้งต้นในธุรกิจเบเกอรีอีกครั้งในเมืองหลวงทำให้เราต้องศึกษาตลาดออนไลน์ให้ถ่องแท้ ซึ่งการเลือกทำตลาดในช่องทางนี้ต้องปรับตัวเยอะ ต้องรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไรและจะทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในเวลาอันรวดเร็วไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเพื่อให้เกิดกระแสการแชะแล้วแชร์สินค้าต้องมีความแตกต่างผู้คนยังไม่เคยเห็น ซึ่งเค้กมะพร้าวไส้แตกสามารถตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ดี พิสูจน์ได้จากการที่เราเปิดเพจมา 2 ปี มีคนติดตามประมาณ 2,400 คน แต่ปัจจุบันมีประมาณ 30,000 กว่าคนแล้ว ขณะที่การทำภาพเคลื่อนไหวก็มีส่วนสำคัญ พร้อมการจัดโปรโมชันควบคู่ก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสการบอกต่อและเกิดการสั่งซื้อในที่สุด"
นอกจากความปังในเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของเค้กมะพร้าวไส้แตกแล้ว คุณภาพเนื้อในก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเธอเลือกใช้มะพร้าวเกรดส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์จากจังหวัดราชบุรีเป็นมะพร้าวน้ำหอมเนื้ออ่อน น้ำมะพร้าวมีความหอมเฉพาะตัว ซึ่งในหนึ่งวันเธอใช้มะพร้าวประมาณ 500 ลูก โดยใช้ทุกส่วนของลูกมะพร้าวให้เป็นประโยชน์ สำหรับน้ำมะพร้าวก็ยังนำมาแปรรูปเป็นพุดดิ้งให้ลูกค้าได้เลือกลิ้มลองอีกด้วย
span style="color: #0000ff;">สำหรับราคาเค้กมะพร้าวไส้แตกอยู่ที่ 85 บาท/ชิ้น เครปพัฟไส้มะพร้าวครีมสด ชิ้นละ 65 บาท และเค้กกะลามะพร้าวราคา 110 บาท
อนาคตเธอวาดฝันที่จะเสิร์ฟความสดของเค้กมะพร้าวในทุกเมนูของเธอที่มีอยู่ไปทั่วประเทศ ด้วยการหาพาร์ตเนอร์จังหวัดละ 1 คน เปิดสอนทุกขั้นตอนในการทำเค้กมะพร้าวไส้แตก ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องซื้อแป้งจากเธอเท่านั้น ซึ่งขณะนี้สามารถขยายตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว 15 จังหวัด ภายใต้พันธสัญญาการเรียนรู้สูตรในราคา 80,000 บาท และมีค่าคอร์สต่อหนึ่งเมนูในราคา 3,900 บาท ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้เรียนจะได้รับการถ่ายทอดการทำเค้กให้เป็นแล้ว ยังมีการสอนวิธีคิดกลยุทธ์ธุรกิจโดยนำประสบการณ์ที่เธอเจอมากับตัวถ่ายทอดให้ผู้เรียน รวมถึงเมื่อทำเค้กออกมาเป็นที่น่าพอใจแล้วผู้เรียนยังสามารถนำมาฝากขายที่เพจของ "Bakery Mind By Aiew" ได้อีกด้วย
ค่าคอร์สดังกล่าวเธอตั้งใจนำเงินที่ได้เข้ามูลนิธิเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กๆ ได้เรียนหนังสือ ตามโครงการที่ตั้งขึ้นว่า "พี่ได้รู้หนูได้เรียน" โดยตั้งใจมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กที่ไม่มีทุนในการเรียนหนังสือต่อไป
***สนใจติดต่อ 06-2463-6499 หรือที่ Facebook: bakerymind***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
