ที่ผ่านมา ตลาดปากคลอง ได้ฉายาเป็นแหล่งซื้อขายดอกไม้ ที่ทุกคนจะต้องเดินทางมา แต่เมื่อมีการจัดระเบียบตลาดดอกไม้ย่านปากคลองใหม่ ทำให้ผู้ค้าดอกไม้ย่านปากคลองตลาด ต่างๆ ก็แยกย้ายกันไปหาทำเลใหม่ รวมถึงการแจ้งเกิดตลาดค้าส่งดอกไม้แห่งใหม่ ที่เกิดขึ้นมาในช่วงนี้ และตลาดดอกไม้ที่มีอยู่เดิม ระเบิดศึกช่วงชิง ผู้ค้า และลูกค้ากันอย่างเต็มที่ สุดท้ายใครจะได้ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดค้าส่งดอกไม้ หรือ จะไม่มีใครขึ้นเบอร์ 1 แต่แบ่งลูกค้า กันตามโซน ซึ่งทุกอย่างก็คงต้องใช้เวลา ทั้งเจ้าของตลาด พ่อค้า แม่ค้า และลูกค้า ...
วันนี้ เรามี 5 ตลาดค้าส่งดอกไม้ ที่น่าจะเข้าวิน มาแนะนำ....
1. “ตลาดไท”
“ตลาดไท” ตั้งอยู่ ทางทิศเหนือจากกรุงเทพมหานครด้วยระยะทางเพียง 40 กิโลเมตร เป็นศูนย์กลางการค้าขายสินค้าเกษตรครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และเกษตรกรที่ต้องการซื้อ-ขายสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศ โดยมีปริมาณการซื้อขายกว่า 12,000 ตันต่อวัน พร้อมผู้ประกอบการกว่า 3,500 ราย มีมูลค่าการค้ากว่า 180,000 ล้านบาท ต่อปี ศักยภาพของตลาดไท ถือว่าเป็นตลาดกลางค้าส่ง สินค้าเกษตรชั้นนำของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
โดยมีสินค้าหลักที่สำคัญ อาทิ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา อาหารทะเล ข้าวสาร ธัญพืช ดอกไม้ อาหารแปรรูป สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และพันธุ์ไม้ต่างๆ ในส่วนของอาคารดอกไม้ตลาดไท ประกอบด้วย ดอกไม้ประเภท พวงมาลัย ดอกดาวเรือง พวงมาลัยดอกมะลิ ดอกไม้เข้าช่อ จัดถวายพระ พานพุ่ม ร้านที่รับจัดทำพวงหรีดดอกไม้สด ร้านจำหน่ายชุดสังฆภัณฑ์ ดอกไม้พลาสติก ดอกไม้อื่นๆ เช่น กุหลาบ ยิบโซ เบญจมาศ มีให้เห็นบ้าง แต่ไม่มาก เท่ากับ ดอกไม้ถวายพระ ลูกค้าตลาดไท ค่อนข้างชัดเจน คือเป็นดอกไม้ถวายพระ และงานพิธีกรรมต่างๆ
ส่วนราคาค่าเช่า อาคารดอกไม้ ตลาดไท ราคาคิดเป็นตารางเมตร ปัจจุบันหลังจากตลาดไท ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ ราคาค่าเช่า จึงไมีการเปลี่ยนแปลง ไปมาก จากเดิมเช่าแผงละ 8,000 บาท เพิ่มเป็นหลักหมื่น บาท (วงใน แจ้งว่า ถึง 24,000 บาท) ซึ่งผู้ที่สนใจคงต้องติดต่อสอบถามรายละเอียดเอง โทร. 02-908-4499..
2.ตลาดสี่มุมเมือง
ในปี พ.ศ.2525 ซึ่งอยู่ในช่วงระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 รัฐบาลได้กำหนดให้มีตลาดกลางสำหรับสินค้าเกษตรขึ้นในสี่ทิศชานเมือง ของกรุงเทพมหานคร เรียกว่า "ตลาดกลางค้าส่งสี่มุมเมือง" โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อตัดพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรได้พบกับผู้ซื้อโดยตรง เปิดโอกาสในการแข่งขันอย่างเสรี โดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการภายใต้การสนับสนุนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
ในครั้งนั้น บริษัท ดอนเมืองพัฒนา จำกัด ได้รับเลือกจากกรมการค้าภายในให้ดำเนินการจัดตั้งตลาดกลางค้าส่งสี่มุมเมือง ด้านทิศเหนือ หรือตลาดกลางค้าส่งสี่มุมเมือง(รังสิต) เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2526 ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 29 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตลาดกลางสี่มุมเมืองปัจจุบันนี้มีเนื้อที่กว่า 400 ไร่ ตำแหน่งที่ตั้งของตลาดอยู่ทำเลที่ที่ ผู้ซื้อก็สามารถเข้า ไปหาขายสินค้าทุกชนิดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับ ตลาดดอกไม้ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,040 ตรม. มีแผงค้า 109 แผงค้า จำหน่ายดอกไม้ไหว้พระต่างๆ ดอกกล้วยไม้นานาพันธุ์ ไม้ใบ สินค้าจำพวกเครื่องสังฆภัณฑ์ และอุปกรณ์จัดดอกไม้ ซึ่งตลาดสี่มุมเมือง จำหน่ายดอกไม้ใกล้เคียงกับตลาดไท เน้นไปที่ดอกไม้พิธีต่าง เช่น พวงมาลัย พานพุ่ม ดอกบัว เป็นต้น ความน่าสนใจตลาดสี่มุมเมือง ไม่เหมาะกับดอกไม้ต่างประเทศ เพราะไม่มีพื้นที่ติดแอร์ ส่วนใหญ่ลูกค้า เป็นกลุ่ม พ่อค้า แม่ค้า รับไปจำหน่าย และลูกค้าที่เข้ามาซื้อดอกไม้เพื่อนำไปใช้ในงานพิธี ต่างๆ
ส่วนราคาค่าเช่าพื้นที่ตลาดสี่มุมเมือง จะคิดราคาอยู่ที่่ ตารางเมตรละ 15 บาทต่อวัน (ราคาเดิม) ส่วนราคาใหม่ จะคิดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง แต่ขอบอกว่า ราคาแผงเช่า ตลาดสี่มุมเมือง ก็ไม่ธรรมดา เช่นกัน ซึ่งผู้สนใจก็ต้องไปขอรายละเอียดได้ที่ สนง.เช่นกัน โทร. 02-995-0610-3 (ทางทีมงานแจ้งว่า เป็นความลับ)
3.ตลาดเวิล์ดมาร์เก็ต
ตลาดเวิล์ดมาร์เก็ต ตั้งอยู่ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา บนพื้นที่ 35 ไร่ มีอาคาร11 อาคาร พื้นที่ 15,000 ตารางเมตร มีที่จอดรถ 800 คัน โดยจัดสรรพื้นที่ออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ตลาดค้าส่ง ประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และดอกไม้ 2.ศูนย์อาหาร และ3. ตลาดนัดกลางคืน
ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดเวิล์ดมาร์เก็ต ทางเจ้าของ ตั้งใจว่า จะทำตลาดแห่งนี้ ให้เป็นตลาดค้าส่ง ค้าปลีก ครบวงจร เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ อาหารทะเล และดอกไม้ ซึ่งในส่วนของตลาดดอกไม้นี้ เป็นความตั้งใจของเจ้าของที่ ต้องการจะทำให้เป็นตลาดค้าส่งดอกไม้ปากคลองตลาดแห่งที่ 2 หลังจากตลาดดอกไม้ปากคลองโดนจัดระเบียบ แต่หลังจากเปิดตลาดมา และคู่แข่งที่มาแรง ความฝันจะเป็นดอกไม้ปากคลองแห่งที่ 2 คงอาจจะต้องพับไป แต่เจ้าของหันมาเน้นการเป็นตลาดค้าส่ง ค้าปลีก ครบวงจร และตลาดนัดกลางคืนแทน
โดยส่วนของค่าเช่าพื้นที่ตลาดค้าส่งดอกไม้ ราคา 1,100 บาท ต่อตารางเมตร เก็บค่าเช่าพื้นที่เป็นรายเดือน โซนตลาดสด ค่าเช่า 990 บาทต่อ ตรม. โซนพลาซ่า คิดค่าเช่ารายเดือน ๆละ 4,500 บาท ส่วนตลาดกลางคืน ค่าเช่า วันละ 40 บาท ต่อล็อค สนใจโทร. 02-053-3699
4.ตลาด Flower market Thailand หรือ
ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ปากคลองแห่งใหม่
ตลาดตั้งอยู่บนถนนทางหลวงท้องถิ่น เชื่อมระหว่าง ถ.จรัญสนิทวงศ์ ถ.พุทธมณฑล สาย 4 (ถนนพระเทพ) กรุงเทพฯ ห่างจากสถานที่รถไฟฟ้า BTS บางหว้า เดินต่อมา 3 นาที ซึ่งตลาดตั้งอยู่บนพื้นที่ 50 ไร่ แบ่งเป็น 3 เฟส รองรับผู้เช่าได้กว่า 3,000 แผง มีที่จอดรถ 2,000 คัน เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
โดยพื้นที่เช่าจะแบ่งเป็น โซนศูนย์อาหาร และโซนดอกไม้ โซนติดแอร์ จำหน่ายดอกไม้จากทางภาคเหนือ ดอกไม้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และโซนจำหน่ายอุปกรณ์จัดดอกไม้ และบริการรับจัดดอกไม้ ร้อยมาลัย พานพุ่ม ฯลฯ ซึ่งเจ้าของตลาดบอกว่า ผู้ค้า กว่า 70% มาจากตลาดปากคลองเดิม
ส่วนค่าเช่า เนื่องจากในช่วงที่เปิดตลาดใหม่ คิดค่าเช่า รายวันๆละ 100 บาท ต่อแผง ซึ่งทางเจ้าของต้องการผลักดันให้ตลาดนี้เป็นศูนย์กระจายสินค้าประเภทดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน สนใจโทร.063-114-0029
5. ตลาดดอกไม้ปากคลองตลาด เดิม
ตลาดอกไม้ปากคลองตลาด ถนนจักรเพชร แขวงวังบูรพา เขตพระนคร กรุงเทพฯ ตลาดดอกไม้ปากคลองเกิดขึ้นอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ชื่อเสียงของตลาดดอกไม้ปากคลอง ดังไปไกลถึงต่างประเทศ ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการจัดระเบียบ สำหรับผู้ค้าบนพื้นที่ทางเดินเท้า ออกไป ผู้ค้าบางส่วนก็เข้าไปขายในตลาดที่อยู่ใกล้เคียง อย่างตลาดดอกไม้ส่งเสริมการเกษตร และตลาดยอดพิมาน และผู้ค้าที่มีหน้าร้านอยู่ริมถนน ก็ยังคงขายอยู่ ตลาดดอกไม้ ปากคลอง จะเป็นดอกไม้ในประเทศ และต่างประเทศ เช่น ดอกกุหลาบ ดอกเบญจมาศ ยิปโซ่ และดอกไม้อื่นๆ ซึ่งเคยขายที่ตลาดนี้ก็ยังมีเหมือนเดิม แต่น้อยลงไป จุดเด่นของตลาดปากคลองเดิม คือ ตัวผู้ค้าจะรู้ใจลูกค้า เพราะค้าขายกันมานาน โดยเฉพาะดอกไม้เมืองหนาว และดอกไม้จากต่างประเทศ หรือ อุปกรณ์การจัดดอกไม้ ที่ยังไม่สามารถไปหาที่ตลาดอื่นๆได้ ทำให้ตลาดปากคลองจะคงมีเสน่ห์ในแบบของดอกไม้ ที่ลูกค้าร้านดอกไม้ หรือ คนทำงานอีเวนต์ ยังคงนิยม มาซื้อดอกไม้ปากคลองตลาดเดิมอยู่
สำหรับลูกค้า ก็ยังคงมาใช้บริการ และซื้อดอกไม้จากตลาดแห่งนี้ แม้ว่าผู้ค้าบางส่วนจะย้ายออกไป เพราะราคาดอกไม้ที่ไม่แพง และยังมีดอกไม้ให้เลือกอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ คือ ลูกค้าส่วนใหญ่จะคุ้นเคย เพราะเดินทางไปมา สะดวก อยู่ใจกลางเมือง ส่วนค่าเช่า พื้นที่ เนื่องจากผู้เช่าเดิม ที่ยังขายอยู่ ดังนั้นค่าเช่า ก็ยังคงสูงอยู่ บางร้านเช่ากันเป็นหลักแสน หลักล้านบาท ต่อปี
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *