ขึ้นชื่อเรื่องสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการปลูกกาแฟอาราบริกาของหลายจังหวัดในภาคเหนือ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือจังหวัดเล็กๆ อย่าง 'น่าน' แต่เลือกปลูกพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกได้ในภาคใต้เป็นผลสำเร็จ และคนในพื้นที่ก็ผันตัวเป็นผู้ประกอบการแปรรูปกาแฟคั่วบด และทรีอินวัน พร้อมสนับสนุนชาวบ้านปลูกเพิ่มทดแทนข้าวโพดสร้างรายได้ บนพื้นที่กว่า 2,100 ไร่
เมื่อพื้นเพเป็นคนภาคเหนือ แต่ต้องการผลิตกาแฟคั่วบดและทรีอินวัน ที่ต้องใช้สายพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกได้ดีในภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ชุมพร ทำให้หญิงสาวที่เคยทำงานในโรงคั่วกาแฟ มานาน 8 ปี “วัชรี พรมทอง” หรือ คุณแอ๋ว ตัดสินใจลองนำต้นกล้ากาแฟโรบัสต้า ขึ้นมาปลูกที่ จ.น่าน ก่อเกิดเป็น 'โรบัสต้าน่าน' รสชาติความขมลดลงมาเล็กน้อย ทำให้มีความละมุนมากขึ้นเมื่อได้ดื่มด่ำ กับ “น่านดูโอ คอฟฟี่”
แต่กว่าจะเป็นน่านดูโอ คอฟฟี่ อย่างในทุกวันนี้ คุณแอ๋วต้องศึกษาในเรื่องของกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงลิ้นสัมผัสของผู้บริโภค ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยของผู้ที่เคยเป็นพนักงานตัวเล็กๆ ของบริษัทคั่วกาแฟแห่งหนึ่ง
“จากการทำงานในโรงคั่วกาแฟมา 8 ปี เราก็เริ่มเห็นช่องทางตลาด จึงใช้เงินเก็บจำนวน 3แสนบาท ทำโรงคั่วกาแฟเอง โดยมีคุณแม่ ที่เป็นเกษตรกรให้การสนับสนุนเต็มที่ ด้วยเหตุผลที่ว่า 'แม่ชอบดื่มกาแฟ' ส่วนการตั้งโรงคั่วแห่งแรก เกิดขึ้นที่พัทยา เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เพราะพี่ชายทำงานประจำอยู่ที่นั่น ประกอบกับพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเยอะ ดังนั้นตลาดกาแฟคั่วบดน่าจะเติบโตได้”
เริ่มแรกคุณแอ๋ว ได้สั่งซื้อเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าจากทางใต้มาคั่วเอง โดยใช้ชื่อว่า “ภูคอฟฟี่” เป็นกาแฟคั่วบด วางจำหน่ายตามร้านค้าส่ง โดยใช้โมเดลของชาแบรนด์ดังเป็นต้นแบบ ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่เธอเปิดโรงคั่วกาแฟที่พัทยาผลตอบรับดีมาก สินค้าถูกกระจายไปจังหวัดใกล้เคียง และไกลออกไปเรื่อยๆ เช่น ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ อีกหลายจังหวัด
กระทั่งยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เธอตัดสินใจนำต้นกล้ากาแฟพันธุ์โรบัสต้าจากทางใต้ ขึ้นมาทดลองปลูกในภาคเหนือที่ จ.น่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ช่าวบ้านปลูกกาแฟกันบ้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบ สุดท้ายก็ได้เมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มีถิ่นกำเนิดจากน่านนคร ที่แม้รสชาติจะเบาบางกว่าโรบัสต้าจากทางใต้บ้างเล็กน้อยแต่ตลาดก็ตอบรับดี
ปัจจุบันเธอมีพื้นที่ปลูกกาแฟเอง1,000 ไร่ และอีกกว่า 2,100ไร่ ทำคอนเทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) กับเกษตรกรหลายอำเภอ ใน จ.น่าน ได้แก่ อำเภอปัว ท่าวังผา เวียงสา แม่จริม ทุ่งช้าง เพื่อป้อนผลผลิตเข้าสู่ไลน์ผลิต พร้อมจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกาแฟครบวงจร ด้วยการสร้างแบรนด์เพื่อเจาะตลาดบน-ล่าง คือ สินค้าในแบรนด์ 'ภูคอฟฟี่' และ 'ดูโอ คอฟฟี่' เจาะตลาดล่าง ส่วนตลาดบนผลิตสินค้าในแบรนด์ 'ภูมิใจ๋ คอฟฟี่' เป็นกาแฟออร์แกนิคในรูปแบบของกาแฟ 3 in 1 รวม 3 สูตร ได้แก่ 1.กาแฟทรีอินวัน มีกาแฟ ครีมเทียม และน้ำตาล 2.กาแฟ 4 in 1 เพิ่มส่วนผสมของงาดำ และ 3.เพิ่มส่วนผสมของงาขี้ม่อน เพื่อเอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ นอกจากนี้ภายใต้แบรนด์ภูมิใจ๋ คอฟฟี่ ยังมีกาแฟดริป บรรจุในซอง เพียงเติมน้ำร้อนได้ลิ้มลองกาแฟสด หอมกรุ่น ในราคาซองละ 30 บาท
นอกจากนี้ยังมีการนำผลิตภัณฑ์กาแฟ ไปจำหน่ายยังโรงแรม รีสอร์ท ทั่วจังหวัดน่าน และยังเป็นที่สนใจของหน่วยงานราชการในจังหวัด เช่น อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด เป็นต้น รวมถึงมีการเข้าศึกษาดูงานและให้คำปรึกษาที่แปลงสาธิต และโรงคั่วกาแฟเป็นประจำ
ขณะที่การสนับสนุนด้านเงินทุนจากหน่วยงานภาครัฐฯ ทาง น่านดูโอ คอฟฟี่ ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากรัฐบาล ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยได้รับอนุมัติวงเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ จากคณะกรรมการกองทุนบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ปลอดชำระเงินต้น 3 ปี ระยะเวลาคืน 7 ปี ขณะเดียวกันยังได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธพว. ในโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 2 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 3% ใน 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR ปกติ โดยให้ บสย. ค้ำประกันสินเชื่อ ในโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 2,000,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตรของจังหวัดน่าน ที่ได้รับการส่งเสริมป็นพิเศษ จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดน่านด้านเศรษฐกิจ ด้านการผลิตทางการเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยเงินทุนดังกล่าว คุณแอ๋ว เตรียมนำมาลงทุนในเรื่องการสร้างลานตาก และโดมพาราโบลา สำหรับตากเมล็ดกาแฟ พร้อมขยายโรงคั่วกาแฟ เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น
อนาคตเธอเริ่มขายแฟรนไชส์ ดูโอ คอฟฟี่ ไปทั่วประเทศแล้ว พร้อมแตกไลน์ผลิตสบู่กาแฟ หวังเจาะตลาดยุโรป อาเซียน คาดว่าในปี 60 ธุรกิจจะเติบโตประมาณ30-40% และภายใน 3 ปี รายได้จะทะลุ 100 ล้านอย่างแน่นอน
***สนใจติดต่อ 258 ม.2 บ้านสะไมย์ ต.นาซาว อ.เมือง จ.น่าน โทร.054-718929, 09-8749-0135***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *