“ขนมขาไก่กล้วยน้ำว้า” เป็นการทำขนมขาไก่ที่ใช้ความหวานจากกล้วยน้ำว้าสุกแทนน้ำตาล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุขภาพ และชื่นชอบการรับประทานกล้วยน้ำว้า
ขนมขาไก่กล้วยน้ำว้า หรือ บานานาสติ๊ก แบรนด์ Banana family เป็นผลผลิตของกลุ่มเยาวชน “ชวนน้องออมถวายพ่อหลวง” ตำบลภูหอ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย นำโดย “นางสาวลักขณา แสนบุ่งค้อ” ที่มุ่งให้เกิดการมีส่วนร่วมของเยาวชนในหมู่บ้าน นำไปสู่การพึ่งพาตนเอง โดยเน้นใช้วัตถุดิบที่มีในพื้นถิ่น จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างชื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนได้อย่างมั่นคงยั่งยืน
นางสาวลักขณา เล่าว่า ที่มาของ ขนมขาไก่กล้วยน้ำว้า เกิดขึ้นมาจากเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาเริ่มการทำขนมขาไก่ขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของกลุ่มชวนน้องออม ถวายพ่อหลวง นอกจากการออมเงิน ออมเวลา ใช้เวลาในแต่ละวันให้เกิดประโยชน์ อีกทั้ง ออมบ้าน หมายถึง การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบบ้าน เช่นการทำฝายกั้นน้ำ ซึ่งการทำสินค้าออกจำหน่ายเป็นกิจกรรมหนึ่งของการออม การออมเศรษฐกิจ คือการช่วยหารายได้ให้ครอบครัวโดยการทำสินค้าออกจำหน่าย ซึ่งเลือกใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในพื้นที่ คือ กล้วย และอ้อย โดยเลือกกล้วย เพราะเป็นพืชที่มีการปลูกกันมาก หาได้ง่ายในท้องถิ่นและราคาไม่แพง ซึ่งถ้านำกล้วยมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า ช่วยชาวบ้านที่ปลูกกล้วยให้มีช่องทางการขายเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
สำหรับที่มาของ ขนมขาไก่กล้วยน้ำว้า ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ผ่านโครงการคูปองวิทย์เพื่อโอทอป มาช่วยพัฒนากระบวนการผลิตทำให้เราได้ขนมขาไก่เพื่อสุขภาพ ต่างจากเดิมที่ใช้การทอด และความหวานของขนมมาจากน้ำตาล แต่พอทาง วว.สอนการทำขาไก่โดยใช้กล้วยน้ำว้าสุก ทำให้ไม่ต้องใช้น้ำตาล แต่ใช้ความหวานของกล้วยแทน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์บานานาสติ๊กมีรสชาติต่างๆ ได้แก่ รสดั้งเดิม รสพิซซา รสไวต์ช็อกโกแลต และดาร์กช็อกโกแลต นอกจากบานานาสติ๊ก มีกล้วยเส้น มี 3 รส ได้แก่ สาหร่าย บาร์บีคิว และปาปริกา
"กลุ่มชวนน้องออมถวายพ่อหลวงเป็นการรวมกลุ่มทำกิจกรรมของเยาวชนในท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดและการทำขนมจำหน่าย ซึ่งใช้วัตถุดิบท้องถิ่น โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ทั้งยังมองเห็นศักยภาพทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ขนมจากกล้วยหากได้รับการพัฒนา จึงแนะนำให้รู้จักกับ วว.ซึ่งดูแลโครงการวิทย์เพื่อโอทอป จึงได้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำขนมขายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” นางสาวลักขณา กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ ทาง วว.ยังได้เข้ามาช่วยพัฒนาแพกเกจจิ้งให้มีความทันสมัย รองรับตลาดกลุ่มของฝาก และตลาดคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันบานานาแฟมิลี่ วางจำหน่ายในร้านกาแฟอะเมซอน และสนามบิน จังหวัดเลย รวมถึงร้านขายของฝากอีกหลายแห่ง และการขายผ่านออนไลน์
นางสาวลักขณา เล่าว่า สำหรับกลุ่มชวนน้องออม ถวายในหลวง มีสมาชิกที่เป็นเยาวชนมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งการทำขนมขายในครั้งนี้ก็เป็นฝีมือของเยาวชนที่อาศัยเวลาว่างหลังเลิกเรียนมาทำ และมีผู้ปกครองมาช่วยบ้างกรณีที่มีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก และน้องทำไม่ทันผู้ใหญ่ก็จะมาช่วย ปัจจุบันมีเยาวชนที่มาทำงานตรงนี้จำนวน 10 คน แต่ละคนมีรายได้เดือนหนึ่ง 5,000 บาท ไปจนถึง 8,000 บาท โดยจะจ่ายเป็นค่าแรงชั่วโมงละ 40 บาท
“เด็กๆ ใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาช่วยกันทำ แต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบตั้งแต่คัดเลือกซื้อกล้วย เป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายบรรจุ ฝ่ายขาย ฝ่ายจัดส่งลูกค้า ส่วนด้านการตลาดที่ผ่านมาได้นำสินค้าร่วมงานโอทอปของดี 4 ภาค ออกร้านวันเยาวชนแห่งชาติ จ.เลย งานกิจกรรมศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อีกทั้งสินค้ามีวางขายตามร้านขายของฝาก ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่งในตัวเมืองเลย” เธอกล่าว
ทั้งนี้ การทำขนมของเรา วัตถุดิบเป็นส่วนสำคัญ อย่างบานานาสติ๊กใช้ความหวานของกล้วย โดยในการทำ 100% ในตัววัตถุดิบมีส่วนผสมของกล้วยถึง 32% ดังนั้นจะต้องมีการทำงานร่วมกับผู้ปลูกกล้วยด้วย เพื่อจะได้ความหวานของกล้วยที่คงที่
สนใจโทร. 08-7228-0676 หรือ facebook / Banana Family
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *