xs
xsm
sm
md
lg

“กิมซุน”หมูปิ้งร้อยล้าน ขายสนั่นจากตลาดนัด ดังไกลถึงลาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“กิมซุนหมูปิ้ง ไทยแลนด์”
หากมีการจัดอันดับอาหารเช้ายอดนิยมสำหรับคนไทยมั่นใจว่าจะต้องมีเมนู “หมูปิ้ง” เข้าไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากรสชาติถูกปาก กินง่ายทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ นอกจากนั้น ราคาน่าคบหา ส่วนใหญ่ไม่เกินไม้ละ10 บาท ซื้อ 2ไม้บวกข้าวเหนียวสักห่อ อยู่ท้องได้ถึงมื้อถัดไป
“นายปรีชา คล่องจิตร์” หรือ“เฮียตี๋” เจ้าของธุรกิจหมูปิ้งชื่อดัง
หนึ่งในยุทธภพหมูปิ้งในเมืองไทย ต้องนึกถึงแบรนด์ “กิมซุนหมูปิ้ง ไทยแลนด์” ของ “นายปรีชา คล่องจิตร์” หรือ“เฮียตี๋” เจ้าของธุรกิจหมูปิ้งชื่อดัง ที่ปัจจุบัน มีกำลังผลิตวันละกว่า 2 ตัน สร้างรายได้ปีละกว่าร้อยล้านบาท

กว่าจะมาเป็น “กิมซุน หมูปิ้งไทยแลนด์” ในวันนี้ “เฮียตี๋” เล่าว่า เคยเป็นหมูปิ้งโนเนมรายเล็กๆ อยู่ที่ตลาดนัดวัดพิกุล จ.นครนายก มาก่อน ขายวันแรกแทบต้องแจกฟรี ยอมขาย 1 ไม้ แถมฟรีอีก 1ไม้ เพราะตอนนั้นมีหมูปิ้งนมสดขายอยู่แล้วถึง 5 เจ้า ขณะที่ตนเป็นหน้าใหม่ ลูกค้าไม่คุ้นหน้าจึงไม่เลือกซื้อ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความสู้อดทน ตลอดระยะเวลา 3 เดือนแรก ใช้วิธีทั้งลดแลกแจกแถม จนเริ่มติดตลาดมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้น และขยับไปขายตลาดนัดที่อื่นๆ ช่วยยอดขายเพิ่มขึ้นตามลำดับ จากเดิมที่ขายได้วันละ 1 กล่อง จำนวน 100 ไม้ เพิ่มเป็น 100 กล่อง 1,000 ไม้ รวมถึง พัฒนาสูตร สำรวจความพอใจทั้งทางด้านราคา รสชาติ และขนาดของสินค้าตลอดเวลา โดยเฉพาะสร้างสรรค์หมูปิ้ง ถึง 20 รสชาติ เช่น รสนมสด รสกะเพรา รสพริกเผา รสเขียวหวาน รสพะแนง และรสชาเขียว เป็นต้น ช่วยเพิ่มทางเลือกหลากหลาย กลายเป็นจุดเด่นโดนใจลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ

“สามเดือนแรก ผมกินข้าวนอกบ้านทุกวัน เพื่อจะตระเวนแจกใบปลิวตามร้านข้าวแกง หาพื้นที่สำหรับติดป้ายโฆษณาหมูปิ้ง และตัดผมทุกสัปดาห์เพื่อไปทำความรู้จัก พูดคุยกับบรรดาช่างตัดผม เพื่อสำรวจความต้องการของเขา รวมถึง หาช่องทางให้เขารับหมูปิ้ง ไปขายหน้าร้านตอนเช้าเป็นรายได้พิเศษ ซึ่งก็นับว่าได้ผล เพราะมีลูกค้าที่เป็นร้านตัดผม ติดต่อขอซื้อหมูไปขายหน้าร้านเป็นจำนวนมาก ทำให้ยอดขายเติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จากรายได้หลักหมื่นต่อเดือน ก็เติบโตขึ้นหลายเท่าตัว” เฮียตี๋ เผยวิธีการทำตลาดในช่วงบุกเบิก

และเพื่อให้ง่ายต่อการขยายฐานลูกค้าที่ต้องการรับหมูปิ้งไปขายต่อ กำหนดรูปแบบจะได้รับป้ายไวนิลติดรถเข็น คล้ายๆ ระบบแฟรนไชซี โดยคิดราคาค่าป้าย 300 บาทจ่ายครั้งเดียวเท่านั้น สามารถมารับหมูปิ้งได้ที่โรงงานทุกวัน ในราคากล่องละ 600บาท หากซื้อมากกว่า 10 กล่อง และราคา 650 บาท หากซื้อไม่เกิน 10 กล่อง

เฮี่ยตี๋ อธิบายการหมักหมู
กระทั่งปี 2557 เมื่อธุรกิจไปได้สวย จนไม่สามารถทำแบบธุรกิจในครัวเรือนได้อีก ทำให้ต้องขยับขยายลงทุนสร้างโรงงาน อาศัยสินเชื่อจากสถาบันการเงินจำนวน 1 ล้านบาท มาลงทุนซื้อที่ดินใน จ.นครนายก โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำหน้าที่ค้ำประกัน ซึ่งเงินทุนดังกล่าว ยังนำไปเพิ่มคนงานสำหรับเสียบหมูอีก 20 คน เพื่อให้ทันกับออร์เดอร์ของลูกค้าที่มารับไปวางขายตามที่ต่าง ๆ โดย 20 % เป็นลูกค้าในพื้นที่ จ. นครนายก และ 80% เป็นลูกค้าในพื้นที่อื่นๆ เช่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ มหาสารคาม ตาก สุโขทัย รวมถึงจังหวัดทางภาคตะวันออก ทำให้ในปีนั้น ยอดขายโตก้าวกระโดดเป็น 60 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา นายปรีชา ขอสินเชื่ออีกครั้ง จำนวน 4 ล้านบาท นำมาซื้อรถขนส่งแบบห้องเย็นเพื่อขยายฐานลูกค้าออกไปในพื้นที่อื่น รวมทั้งซื้อเครื่องจักรสำหรับเพิ่มไลน์ผลิตสินค้าใหม่ คือ ไส้กรอกอีสาน และลูกชิ้นปลา เนื่องจากแม้หมูปิ้งกิมซุน จะมีการผลิตวันละ 2 ตัน และเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 40% แต่เครื่องจักรยังคงมีกำลังการผลิตเพิ่มได้อีก โดยได้ใช้บริการ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อเป็นสัญญาที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท ช่วยให้กิจการที่กำลังเติบโตสามารถขยายไปได้อย่างต่อเนื่อง


“ที่ผ่านมาเราเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 30 -40% และในปีนี้ (2560) มีแผนจะขยายไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะมองว่าที่ผ่านมา หมูปิ้งกิมซุนฯ ยังวางขายเฉพาะจังหวัดรอบนอก หากขยายเข้ากรุงเทพฯ โดยเน้นแผนจุดขายทั่วถึง สามารถหาซื้อได้ง่าย พบเห็นบ่อยๆ พร้อมชูจุดเด่นหมูปิ้งไซส์ใหญ่จัมโบ้ จะช่วยให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีก โดยจะตั้งเป็นศูนย์กระจายหมูปิ้งให้แก่ตัวแทนมารับ โดยในขั้นแรกจะเป็นหลานชายนำไปวางขายก่อน”

“รวมถึงในปี 2561 จะขยายไปยังพื้นที่หัวเมืองต่างๆ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ใช้พื้นที่หัวเมืองเป็นพื้นที่กระจายสินค้าให้ตัวแทนรายย่อยอีกที อย่างที่จังหวัดบุรีรัมย์ จะกระจายไปยังตัวแทนจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมายังขาดตัวแทนในพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน”

“นอกจากนั้น จะขยายสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยที่ผ่านมามีลูกค้าเริ่มนำหมูปิ้งไปวางจำหน่ายยัง สปป. ลาว ครั้งละ 200 กล่องเพื่อไปทดลองขาย พบว่าเป็นที่นิยมและได้รับการตอบรับดี” นายปรีชา อธิบายถึงแผนการตลาด


ในส่วนของสินค้าใหม่ คือ “ไส้กรอกอีสาน” เริ่มทดลองขายแล้วเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา โดยไอเดียมาจากการที่ลูกค้าที่ขายหมูปิ้งเดิมมีเสียงเรียกร้องมาว่าหมูปิ้งเหมาะจะขายเฉพาะในช่วงเช้า ส่วนช่วงเย็นจะไม่ได้รับความนิยม จึงต้องการสินค้าอื่นที่เหมาะกับบรรยากาศช่วงเย็นจึงเห็นโอกาสของไส้กรอกอีสาน ซึ่งเป็นเมนูปิ้งเหมือนกัน อีกทั้งยังใช้เครื่องบดผสมชนิดเดียวกันกับหมูปิ้ง ทำให้ชั่วโมงการทำงานของเครื่องจักรซึ่งจะใช้ผสมหมูเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้นได้ทำงานอย่างเต็มกำลังมากขึ้น โดยตั้งราคาขายส่งที่ 65 บาท/กิโลกรัม ลูกค้ามารับไปขายตามตลาดนัด และหน้าโรงงานต่างๆ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาวโรงงาน โดยผู้ขายสามารถขายหมูปิ้งในตอนเช้า และกลับไปขายไส้กรอกอีสานในตอนเย็น มีรายได้สองต่อโดยไม่ต้องลงทุนเครื่องมือเพิ่ม


“จากที่ บสย. ซึ่งเข้ามาช่วยค้ำประกัน ช่วยทำให้การขยายธุรกิจของเราเดินหน้าไปได้ โดยไม่สะดุด  ผลักดันให้ปีที่ผ่านมา (2559) ยอดขายของ “กิมซุนหมูปิ้ง ไทยแลนด์” มากกว่า 100 ล้านบาท นายปรีชา กล่าว
จากที่ บสย. ซึ่งเข้ามาช่วยค้ำประกัน ช่วยทำให้การขยายธุรกิจของเราเดินหน้าไปได้ โดยไม่สะดุด ผลักดันให้ปีที่ผ่านมา (2559) ยอดขายของ “กิมซุนหมูปิ้ง ไทยแลนด์” มากกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้งยังสามารถเปิดแฟรนไชส์เพิ่มอีกแบรนด์ คือ “ซ้อหลิน ก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นเนื้อปลาแท้ นครนายก” ซึ่งสามารถใช้เครื่องจักรเดิมในการผลิตหมูปิ้งมาใช้ผลิตลูกชิ้นอีกด้วย” นายปรีชา กล่าว


นับว่าเป็นอีกต้นแบบเอสเอ็มอีพันธุ์แกร่ง ที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้ประกอบการขนาดจิ๋ว มุ่งมั่นพยายามพัฒนาสร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง จนธุรกิจเติบโต ทำยอดขายได้ถึงหลักร้อยล้านต่อปี ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 5 ปี เท่านั้น

โทร. 080 498 4111

บทความโดย:บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น