เป็นคนที่ชอบใส่รองเท้าแตะ และเปลี่ยนเคสมือถือบ่อย ทำให้เด็สาววัย 25 ปี นำทั้ง 2 ความชอบมาหลอมรวมเป็นธุรกิจ ด้วยการรังสรรค์ไอเดียเคสมือถือรองเท้าแตะ แบรนด์ “Jude Case” (จูดี้ เคส) สร้างกระแสฮิตในหมู่วัยรุ่น และวัยทำงาน ล่าสุดเจาะตลาด สปป.ลาว พร้อมโชว์ผลงานเพียง 1 ปี ซื้อบ้านให้ครอบครัวได้สำเร็จ
ด้วยวัยเพียง 25 ปี ของ “ลฎาภา ยิ้มละมัย หรือ น้องจู๊ส” แต่กลับมีเงินผ่อนบ้านราคากว่า 5 ล้านบาท จากรายได้ในการทำธุรกิจผลิต 'เคสรองเท้าแตะ' และรับงานออแกไนซ์ เรียกว่าไม่ธรรมดาสำหรับความสามารถของเธอคนนี้
ที่มาธุรกิจนี้เริ่มจากน้องจู๊สชอบใส่รองเท้าแตะ และมักจะเปลี่ยนเคสมือถืออยู่บ่อยครั้ง เน้นความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร แต่เคสมือถือในท้องตลาดยังไม่โดนใจมากนัก จึงคิดออกแบบและใช้เอง หลังจากเห็นรูปลักษณ์รองเท้าแตะหนีบ ตราช้างดาว ที่อยู่ในตลาดเมืองไทยมานาน กลายเป็นสินค้าคลาสสิกจึงคิดหยิบจับมาทำเป็นเคสมือถือ
เธอนำไอเดียนี้ไปบอกกับคุณแม่ว่าอยากได้ ให้คุณแม่ลองทำให้ ขณะที่ผู้เป็นมารดาก็สนับสนุนความคิดลูกสาวเต็มที่ คิดว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ จึงตัดหูรองเท้าแตะช้างดาวมาแปะลงบนเคสมือถือให้ลูกสาว ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจ น้องจู๊สก็นำไปใช้จริง และถ่ายรูปโพสต์ลงในเฟซบุกเล่นๆ แต่เพื่อนกลับให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และต้องการให้ทำให้บ้าง เกิดกระแสการแชร์ และบอกปากต่อปาก ส่งผลมีออเดอร์เข้ามาในที่สุด ทั้งๆ ที่เธอยังไม่มีสินค้าในมือ
แต่เมื่อจรรยาบรรณของความเป็นแม่ค้า ที่รับออเดอร์ลูกค้ามาแล้วก็ต้องทำให้ได้ ฉะนั้นภาระหนักจึงมาตกที่สมาชิกในครอบครัวต้องช่วยกันหาแหล่งวัตถุดิบ ซึ่งความยากอยู่ที่ 'กาว' ในการเชื่อมหูรองเท้าเข้ากับเคสมือถือ ซึ่งคุณพ่อที่ทำงานด้านตรายาง และออกแบบป้าย เป็นผู้คิดค้นกาวติดหนึบนี้ขึ้น เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ จากนั้นก็ตระเวนหาโรงงานผลิตเคสมือถือซิลิโคน และโรงงานหล่อหูรองเท้าตามลวดลายดั้งเดิมขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับติดเคสมือถือ ผลงานชิ้นแรกเป็นเคสรองเท้าแตะพื้นขาว ส่วนหูรองเท้าใช้สีน้ำเงิน ไม่ต่างจากรองเท้าแตะยอดนิยม ซึ่งก็ได้รับการตอบรับ และเป็นสินค้าขายดีจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันเคสรองเท้าแตะ Jude Case ไม่ได้ใช้กาวติดลงบนเคสแล้ว แต่ผู้เป็นบิดาได้หาวิธีเชื่อมหูรองเท้าเป็นเนื้อเดียวกับเคส ทำให้อายุการใช้งานได้ยาวนานและทนทานขึ้น ขณะที่ช่องทางจำหน่าย น้องจู๊สเลือกใช้อินสตราแกรม เป็นหน้าร้านหลัก และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ซึ่งการตอบรับดีเกินคาด เพราะนอกจากจะมีลูกค้ามาอุดหนุนแล้ว ยังมีผู้ขอเป็นตัวแทนจำหน่ายตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึง สปป.ลาว ที่มีตัวแทนจำหน่าย ช่วยเปิดตลาดให้เช่นกัน โดยเคสรองเท้าแตะ ใช้ได้กับมือถือไอโฟน และซัมซุงทุกรุ่น
“สินค้าเรายังเป็นงานแฮนด์เมดอยู่ โดยเฉพาะขั้นตอนการประกอบ ส่วนเคสที่เป็นซิลิโคน และหูรองเท้าเป็นการจ้างโรงงานผลิต ซึ่งกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 2,000 ชิ้น/เดือน โดยราคาเริ่มต้นที่ 350/ชิ้น ขณะที่ราคาส่งอยู่ที่ 250 บาท/ชิ้น แต่ผู้ที่สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย จะต้องมีค่าแรกเข้าเพียง 390 บาทเท่านั้น จะได้เป็นตัวแทนตลอดชีพ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กในวัยเรียนระดับมัธยม และอุดมศึกษา ขอเป็นตัวแทนจำหน่าย เน้นขายในอินสตราแกรม และช่องทางออนไลน์อื่นๆ”
เมื่อเคสรองเท้าแตะรุ่นแรกเป็นที่นิยม น้องจู๊สก็คิดรูปแบบอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง จากหูหนีบเป็นรองเท้าแตะแบบสวม และรองเท้าแตะเลียนแบบแบรนด์ดัง ลายขวางสีขาวสลับดำ สีแดง และเขียว ตามมา
ปัจจุบันน้องจู๊สเน้นเป็นผู้ผลิต และเล็งทำตลาดต่างประเทศหลังชาว สปป.ลาว ให้การตอบรับดี มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมองประเทศแถบยุโรปด้วยการจำหน่ายผ่านอีเบย์ 9 (e-Bay) และเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งเธอตั้งเป้าว่าจะทำรูปแบบใหม่ๆ ออกมาทุก 2 เดือน
จากรายได้ที่น้องจู๊สทำเคสรองเท้าแตะ และรับงานออแกไนซ์ ต่างๆ ในระยะเวลาเพียง 1ปีเศษ ทำให้เธอมีรายได้ที่แน่นอน และมีเงินก้อนในวัยเพียง 25 ปี เธอจึงตัดสินใจมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ครอบครัว ด้วยการดาวน์บ้านราคากว่า 5 ล้านบาท พร้อมรับภาระค่าผ่อนบ้านทุกเดือนให้กับพ่อแม่ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของเธอและครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้
***สนใจติดต่อ08-3074-8636 หรือที่ www.instagram.com/jude_case และ Line id : jousse***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
