ขนมครก เมนูขนมหวานที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ปัจจุบันหน้าขนมครกเริ่มเปลี่ยนไปจากในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหน้าตาให้มีความหลากหลาย และในส่วนของตัวแป้งก็มีการปรับเปลี่ยนไปเช่นกัน
วันนี้ เรากำลังพูดถึงขนมครกแม่พลอย ความแตกต่างของขนมครกแม่พลอย ต่างจากขนมครกรายอื่นๆ ตรงที่ เป็นขนมครกที่ใช้แป้งสด ซึ่งการใช้แป้งสด คือ การนำข้าวหอมมะลิมาบดเป็นแป้ง แทนการใช้แป้งข้าวจ้าว ที่เป็นแป้งสำเร็จรูป แน่นอนเมื่อทำออกมาได้ขนมครก ที่มีเนื้อสัมผัสและรสชาติของแป้ง ต่างจากขนมครกที่ทำจากแป้งสำเร็จรูปอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ขนมครกแม่พลอย ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด มานานกว่า 30 ปี
นางกัลยา สอนชัย เจ้าของต้นตำรับขนมครกแม่พลอย เล่าว่า ตนเองและสามีทำขนมครกขาย เลี้ยงลูก และดูแลครอบครัว ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย จนจบปริญญาตรีด้วยการทำขนมครกขาย แม้ว่าตอนนี้ลูกเรียนจบแล้ว ไม่คิดว่าจะเลิกกิจการตรงนี้ เพราะต้องบอกว่า ทำรายได้ให้กับเราเป็นอย่างดีตลอดมา แต่ได้ลูกชายเข้ามาสานต่อกิจการ และเป็นจุดเปลี่ยน ครั้งสำคัญของขนมครกแม่พลอยด้วย
ปัจจุบันขนมครกแม่พลอย หน้าตาเปลี่ยนไป แต่ที่สำคัญ คือ แป้งที่ใช้ยังคงใช้การทำจากแป้งสด ข้าวหอมมะลิ และที่เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อสุขภาพ โดยใช้ข้าวไรซ์เบอรี่ ส่วนอื่น ลูกชาย (นายณัฐพล ธำรงลีฬหา) คิดออกแบบหน้าตา ขนมครกขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนจากเดิมขายอยู่ในรถเข็น มาเป็นร้าน ซึ่งรูปหน้าตาของขนมเปลี่ยนดั้งเดิม ขายหน้าเดียว คือ ต้นหอม แต่วันนี้ มีให้เลือก 8 หน้า และที่สำคัญ คือ แป้งให้เลือก 3 แบบ ชาไทย ไมโล และ ผงถ่านชาโคล พร้อมทั้งตั้งชื่อแบรนด์แม่พลอย ขึ้นมาเพื่อยกระดับขนมครกรถเข็น ให้ดูดีขึ้นมา
ส่วนชื่อแบรนด์แม่พลอย เป็นชื่อของลูกสาว เพราะโดยส่วนตัวชอบดูละคร เรื่องสี่แผ่นดินมาก ก็เลยตั้งชื่อลูกว่า พลอย แต่พอมาตั้งชื่อร้านขนมครก ก็เลยตั้งชื่อว่า แม่พลอย ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อให้เห็นว่า ขนมครกของเราเป็นขนมครกโบราณ
คุณกัลยา เล่าว่า หลังจากที่ปรับเปลี่ยนขนมครกให้มีความหลากหลายมากขึ้น อาจจะทำให้เรามียอดขายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อถามว่ากำไรไม่ได้มากขึ้นกว่าตอนที่ขายรถเข็น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มมากขึ้น หลายเท่าตัว บวกกับต้นทุนค่าเช่าร้าน ซึ่งลูกชายเขามาสานงานต่อ ได้มีการวางแผนไว้หลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการขายแฟรนไชส์ หรือ เพิ่มเวลาขายเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า 7 โมงเช้า ถึงบ่าย 2 โมง และช่วงเย็น ตั้งแต่ 5 โมงครึ่งถึง 3 ทุ่ม
สำหรับรายได้ ปัจจุบันมีรายได้วันละประมาณ 7,000-8,000 บาท จากราคาขายขนมครก 9 คู่ กล่องละ 40 บาท จากในอดีต ราคากล่องละ 20-25 บาท กำไรหลังหักค่าใช้จ่าย อยู่ที่ 40-50 %
ด้านนายณัฐพล เล่าว่า ในส่วนของการขายแฟรนไชส์ ตอนนี้ได้มีการขายออกไปแล้วจำนวน 4 สาขาอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งเป้า ว่าในปีนี้จะขยายสาขาแฟรนไชส์ให้ได้ 10 สาขา ส่วนราคาแฟรนไชส์ เริ่มต้นที่ 9,000 บาท ไปจนถึง 30,000 บาท ราคาจะขึ้นอยู่กับ อุปกรณ์ โอกาสคืนทุน ก็ต้องขึ้นอยู่กับทำเล ผลตอบแทนอยู่ที่ 40-50 % ลูกค้าแฟรนไชส์จะต้องซื้อแป้งจากเราเท่านั้น ส่วนหน้า เราสอนการทำให้ ลูกค้าสามารถไปทำเอง หรือ รับจากเราก็ได้เช่นกัน
โทร. 08-1721-1215, www.facebook.com/ขนมครกแม่พลอย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *