“อภิรดี” เผยความคืบหน้าความร่วมมือ “อาลีบาบา” หนุน SMEs ไทย ขยายช่องทางตลาดผ่านออนไลน์ ระบุมอบหมายกรมส่งเสริมการค้าฯ ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เดินทาง 4 ด้าน ได้แก่ จัดตั้งสถาบันผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านดิจิตอล วางระบบลอจิสติกส์ และเชิญบริษัทในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ลงทุนใน EEC
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพาณิชย์ร่วมมือกับ “อาลี บาบา” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของ SMEs ไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านดิจิตอลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือกับอาลีบาบา ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของ SMEs และการพัฒนา National E-Commerce Platform ตัวอย่าง จากความสำเร็จของอาลีบาบา กรุ๊ป ในการเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการรายเล็กๆ ในชุมชนห่างไกลให้สามารถทำการค้าทางออนไลน์ผ่าน Platform ของบริษัท อาลีบาบาฯ
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดตั้งสถาบันผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy หรือ NEA) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ของไทยให้เข้าสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ผ่านเครือข่ายความร่วมมือที่เชื่อมต่อถึงกันทั่วประเทศ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท ลาซาด้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท อาลีบาบา ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ภายใต้สถาบัน NEA โดยเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพด้านการค้าออนไลน์ในหลักสูตร “SMEs 4.0 เจาะตลาดออนไลน์” ซึ่งมี SMEs เข้าร่วมหลักสูตรนี้แล้วกว่า 4,273 ราย
2) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านดิจิตอลและเทคโนโลยี โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสร้างวิทยากร (Train the trainers) ทั้งนี้ บริษัท ลาซาด้า ได้ให้การอบรมวิทยากรไปแล้วจำนวน 250 ราย ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และกระทรวงดิจิทัลฯ มีกำหนดจัดอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากร โดยวิทยากรที่ผ่านการอบรมของบริษัท ลาซาด้า ณ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 600 ศูนย์ทั่วประเทศ
3) การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ในประเทศ โดยมีบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดตั้งคณะทำงานผลักดันความร่วมมือพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน และการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ร่วมกับกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร เพื่อการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดการบูรณาการมากขึ้น และมีกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป ให้แนวทางแก่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้าและการให้บริการ Fulfillment สำหรับธุรกรรม E-Commerce ระหว่างประเทศ โดยนำรูปแบบของกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป มาปรับใช้กับการวางระบบงานคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) ของไปรษณีย์ไทย
4) การเชิญชวนบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด มาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development : EEC) เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 ที่ผ่านมีการเชิญชวนบริษัท อาลีบาบา มาลงทุนในโครงการ EEC เกิดผลเป็นรูปธรรม กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้นำคณะทำงานของบริษัท ลาซาด้า ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป เยี่ยมชม 3 นิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ในโครงการ EEC ได้แก่ (1) นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (จ.ชลบุรี) (2) เหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด (จ.ชลบุรี) และ (3) อมตะซิตี้ (จ.ระยอง) และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนในการหารือแนวทางพัฒนาโครงการ E-Commerce Park ในไทย
“โครงการ Lazada E-Commerce Park ของบริษัท ลาซาด้าฯ ถือเป็นโครงการสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนในประเทศไทยในอีกหลายปีข้างหน้า โครงการนี้จะเป็นศูนย์รวมของระบบโครงสร้างด้านลอจิสติกส์และเทคโนโลยีขั้นสูง และ Ecosystem ครบวงจรสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางลอจิสติกส์เป็นการเปิดช่องทางสู่ตลาดโลก และประเทศเพื่อนบ้านของไทย สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้ตรงตามแนวทางเศรษฐกิจ 4.0 ของรัฐบาลไทย” นางอภิรดีกล่าว
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *