ไก่สายพันธุ์ต่างประเทศ ที่จัดอยู่ในกลุ่มของสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงาม อาจจะมีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ ก็ต้องยกให้ "ไก่สายพันธุ์โปแลนด์ " (Poland) และ "สายพันธุ์ ซิลกี้" (Silkie) โดยแหล่งที่มาของไก่ทั้งสองสายพันธุ์ดังกล่าว มาจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา
มาทำความรู้จักกับไก่ ทั้งสองสายพันธุ์ เริ่มจากไก่โปแลนด์ ไก่พันธุ์นี้ไม่ได้มาจากประเทศโปแลนด์ แต่ที่มาของชื่อน่าจะมาจากลักษณะขนจุกบนหัวที่รูปทรงเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยม จัตุรัสคล้ายหมวกแก็ปที่ทหารโปแลนด์สวมในอดีต ซึ่งเชื่อว่าไก่สายพันธุ์นี้ถูกนำมาจากประเทศสเปน และมีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี ค.ศ. 1830-1840 ซึ่งใช้เป็นไก่ไข่ แต่หลังจากนั้น เป็นความพยายามของกลุ่มคนเลี้ยงไก่เพื่อความสวยงาม พยายามผสมข้ามพันธุ์ จนได้ไก่โปแลนด์ที่แปลกตา และมีความสวยงาม ในกลุ่มคนรักไก่ และนักสะสม
สำหรับในส่วนของไก่ซิลกี้ เป็นสายพันธุ์ไก่ ที่มีขนนุ่มเป็นพิเศษ จนนำมาเปรียบเทียบความนุ่มของขนเหมือนเส้นไหม มีสีสวยงามและมีหลายสี เป็นไก่ที่มีผิวดำ, กระดูกดำ, มีขนหลากหลายสี ขนปุกปุยตัวกลม ทำให้ไก่ซิลกี้ ได้รับความนิยมของกลุ่มคนเลี้ยงไก่เพื่อความสวยงาม ประวัติความเป็นมา ไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่ามีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนโบราณ (เพราะบางครั้งพบอีกชื่อคือไก่ ผ้าไหมจีน)
ส่วนชื่อ silkies มาจาก Marco silkies ซึ่งในปี 1874 ไก่ซิลกี้ ได้รับการยอมรับในทวีปอเมริกาเหนือ และได้รับมาตรฐานกลายเป็นไก่สามัญมากขึ้นในตะวันตก โดย สายพันธุ์ไก่ซิลกี้ มี 2 สายพันธุ์ แบบมีเคราและไม่มีเครา แบบเคราจะมีเคราหรือขนใต้จะงอยปากถึงหู สีที่ได้รับความนิยม ได้แก่ สีดำ , สีน้ำเงิน , Buff , สีเทา , นกกระทา , และสีขาว
สำหรับไก่ ทั้ง 2 สายพันธุ์ ในประเทศไทย มีการนำเข้ามาได้ ประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา และจัดเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงาม ปัจจุบัน ผู้เลี้ยงสามารถเพาะและขยายพันธุ์ รวมถึงผสมข้ามสายพันธุ์ จนได้ ไก่ที่มีความแปลกใหม่ รองรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบ ไก่สายพันธุ์นี้ และหนึ่งในนั้น คือ ฟาร์ม Doxxa House ของ “คุณศักดา บรรพจุลจินดา” หรือ “ฟาร์มไก่คุณนิ้ง”
"คุณศักดา" เล่าว่า ได้เริ่มเลี้ยงไก่ทั้ง 2 ชนิด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งเกิดจากความชอบส่วนตัว และซื้อจากผู้เพาะเลี้ยงในประเทศไทย มาเลี้ยงไว้ดูเล่น ก่อนจะมาเป็นธุรกิจ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งที่มาของธุรกิจเกิดมาจาก คนรู้จักที่แวะเวียนมาหาที่บ้าน ทุกคนต่างก็ชื่นชอบ และต้องการไก่ไปเลี้ยงบ้าง ก็เลยคิดว่าถ้าเราศึกษาเพิ่มเติม ก็น่าจะเพาะพันธุ์ไก่ขายได้ เริ่มจากการขายคนรู้จักก่อน เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะมาทำเต็มตัวเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้อย่างที่ตัวเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
“ไก่ที่ผมนำมาเพาะจำหน่าย เป็นไก่ที่นำเข้าพ่อ-แม่พันธุ์จาก ประเทศสหรัฐอเมริกา สาเหตุที่ไม่ได้ใช้ไก่ที่เลี้ยงในครั้งแรกมาใช้ขยายพันธุ์ เพราะไก่ยังไม่สวยพอ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเพาะจำหน่าย ผมได้ศึกษาเรื่องไก่ทั้ง 2 ชนิด พบว่า ในต่างประเทศมีไก่สวยเยอะ ก็เลยคิดหาวิธีนำเข้าพ่อ แม่พันธุ์ น่าจะได้ไก่ที่สวย แต่การนำเข้าพ่อ แม่พันธุ์มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ก็เลยตัดสินใจนำเข้าไข่ และมาฟักเอง ซึ่งช่วยให้ประหยัดต้นทุนและเวลาได้เยอะ” คุณศักดา เล่าถึงที่มา
ปัจจุบันไก่ที่ “คุณศักดา” เพาะเลี้ยงได้จะแบ่งเป็น ไก่ซิลกี้ ขนนุ่ม ขนย้อนกลับ และไก่ซิลกี้พันธุ์โชว์เกิร์ล ไม่มีขนคอ ส่วนไก่โปแลนด์ แบ่งเป็นขนเรียบ และขนย้อนกลับ เช่นกัน โดยตอนนี้มีพ่อ-แม่พันธุ์ประมาณ 60 ตัว ในแต่ละเดือนจะได้ไข่ไก่ประมาณ 150-170 ฟอง ซึ่งไก่ที่เพาะได้จะมีทั้งไก่ที่เพาะข้ามสายพันธุ์จนได้สีที่แปลกใหม่ และ ไก่ที่เป็นสายพันธุ์ และสีดั้งเดิม
การเลี้ยงไก่ ทั้ง 2 ชนิดนี้ ไม่ได้แตกต่างจากการเลี้ยงไก่พื้นบ้านทั่วไป อาหารชนิดเดียวกัน คือ อาหารไก่ และถ้าเป็นอาหารเสริม พวกหนอน แมลง ผักและผลไม้บ้างเป็นบางโอกาส อายุของไก่ที่สามารถผสมพันธุ์ได้ ประมาณ 8 เดือน อายุของไก่ ถ้าเป็นโปแลนด์ 5-6 ปี แต่ถ้าเป็นไก่ซิลกี้ อายุสั้นกว่า ไม่เกิน 5 ปี ข้อควรระวัง คือโรคเกิดกับไก่ เช่น โรคหวัด โรคฝีดาด อหิวาตกโรค โรคเหล่านี้จะมาในช่วงฤดูฝน การรักษา คือ การฉีดวัคซีน ป้องกัน
โดยไก่ที่สามารถส่งให้ลูกค้าได้ ตั้งแต่ เดือนแรก เป็นต้นไป ในราคาที่แตกต่างกัน คือ ไก่ซิลกี้ ราคาตัวละ500- 1,000 บาท ส่วนไก่โปแลนด์ ราคาตัวละ 1,000-1,500 บาท แต่ถ้าเป็นแบบขนย้อนกลับราคาจะคูณสอง
คุณศักดา บอกว่า ปัจจุบัน ลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ซึ่งไก่ที่เพาะได้แต่ละเดือนยังไม่พอ กับจำนวนลูกค้าที่มีการสั่งซื้อเข้ามา โดยลูกค้ากว่า 80% เป็นลูกค้าต่างจังหวัด โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากทางภาคเหนือ และอีสาน มากกว่า ทางภาคใต้ และยังได้ออเดอร์ ลูกค้าจาก สปป.ลาว สั่งเข้ามาทุกเดือน เพื่อนำจำหน่ายอีกที่หนึ่ง
สำหรับฟาร์มไก่คุณนิ้ง ใช้พื้นที่บริเวณบ้านจัดสรร ที่หมู่บ้านมิตรประชาวิลล่า โครงการ 15 ถนนบางกรวยไทร น้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี บนพื้นที่ 118 ตารางวา แบ่งพื้นที่สำหรับเลี้ยงไก่กว่า 50 ตารางวา ทำเล้าไก่ และพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นดินเพื่อให้ไก่ได้ออกมาวิ่งเล่น และออกกำลังกาย
เดิมคุณศักดา เป็นพนักงานประจำ และลาออกจากงาน มารับงานออกแบบตกแต่งภายใน แต่รายได้ไม่ดีนัก แต่พอหันมาเลี้ยงไก่ สามารถทำรายได้ถึงหลักแสนบาทต่อเดือน เขาใช้ช่องทางการขายหลัก ตอนนี้ คือ ผ่านหน้าเพจเซฟบุ๊กเป็นหลัก โดยเขาเป็นรายแรกๆ ที่ทำตลาดไก่ซิลกี้ ผ่านหน้าเพจอย่างจริงจัง
"คุณศักดา" บอกว่า เขาพยายามอัพรูปภาพความน่ารัก และความสวยงามของไก่อยู่เรื่อยๆ เพราะไก่ทั้ง 2 ชนิด ยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับคนไทย แม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงก่อนหน้านี้ แต่อยู่ในวงแคบ ไม่ได้มีการแนะให้คนทั่วไปได้รู้จัก พอตนเองมาทำการตลาด ก็อยากจะแนะนำให้คนไทยได้รู้จักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกงานอีเวนท์ การนำไก่ไปโชว์ตัวตามที่ต่าง รวมถึง การออกสื่อ เป็นการกระตุ้นตลาดให้กว้างมากขึ้น เพื่อโอกาสทางการขายที่มากขึ้นต่อไปในอนาคต
สนใจโทร. 08-1405-2612
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *