ถ้าเอ่ย ชื่อ “เอกชัย ศรีวิชัย” นอกจากภาพของนักร้อง นักแสดง ที่เป็นตัวแทนของคนใต้ ในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นของภาคใต้ แต่วันนี้ “ เอกชัย ศรีวิชัย” ไม่ได้มาถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรม ในรูปแบบของการแสดงภาคใต้เท่านั้น แต่สิ่งที่ “เอกชัย” นำมาถ่ายทอดให้กับคนอื่นๆ ได้รู้จัก ภาคใต้มากขึ้น นั่น คือ “อาหารใต้สูตรต้นตำรับ” ที่ใครได้ชิมอาหารฝีมือของเขารับประกันความอร่อยในแบบฉบับของอาหารใต้แท้
ด้วยเหตุนี้เอง “เอกชัย ศรีวิชัย” จึงอยากแสดงฝีมือการทำอาหารใต้ ให้กับคนเมืองหลวง ได้ลิ้มรส อาหารใต้แบบต้นตำรับ โดยการเปิดร้าน ที่มีชื่อว่า “ครัวเอกชัย” พร้อมกับโชว์การปรุงอาหาร รสมือแม่ ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติ กันแบบหากินที่ไหนไม่ได้
“เอกชัย” เล่าว่า ร้าน “ครัวเอกชัย” เกิดขึ้นมาจากตนเองคิดจะเปิดร้านอาหาร เพราะมีความคิดอยากหางานให้น้อง ซึ่งเป็นลูกน้องในวง ได้มีงานทำ เพราะการทำวงดนตรี มีงานไม่แน่นอน อยากจะหางานให้กับน้องๆได้ทำกัน ซึ่งตอนนั้นสูตรมีอยู่แล้ว พร้อมทำขายได้เลย ขาดก็แต่ทำเล ประจวบเหมาะกับหุ้นส่วน “คุณบอส-ดร.รัฐไกร เอกเพชร” กำลังจะเปิดร้านกาแฟ แต่เมื่อฟังแผนการเปิดร้านของเรา ก็เปลี่ยนใจ ยอมให้เราเปิดร้านข้าวแกง และด้วยความที่เป็นคนปักษ์ใต้เหมือนกัน จากร้านกาแฟ กลายเป็นร้านข้าวแกง แบบง่าย ร้านตั้งอยู่ที่โรงแรม สกาย โดม รีโซเทล ถนนเกษตรนวมินทร์ (ตอม่อที่ 74)
สำหรับสูตรต่างๆ “เอกชัย” บอกว่า อยู่ในหัวอยู่แล้ว สูตรทั้งหมดได้มาจากแม่ ของพี่เอกเอง เดิมแม่เป็นแม่ครัวอยู่บ้าน เวลาทำอาหารอะไรก็จะถ่ายทอดให้กับลูก จนฝีมือการทำอาหารขึ้นชื่อ เรียกแขกให้มาชิมที่บ้านอยู่บ่อยๆ ก็เลยเป็นที่มาของความคิดว่า เราน่าจะเปิดร้านอาหารขายแบบเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้คนอื่นๆ โดยเฉพาะคนภาคกลาง และภาคอื่นๆ ได้กินอาหารใต้แบบต้นตำรับแท้ประกอบกับ ส่วนตัวเป็นคนชอบทำกับข้าวอยู่แล้ว
“ความแตกต่างอาหาร ร้าน ครัวเอกชัย คือ เราจะทำอาหารที่เป็นสูตรที่แม่ทำ และแม่ก็จะทำสูตรของบ้านเรา เช่น แกงไก่ใส่หยวกกล้วย หรือแกงปลา เมนูนี้ เป็นเมนูที่จำฝังใจ มันเหมือนไก่ซ่อนหายาก เพราะว่าแม่ไม่มีเงิน ซื้อไก่มานิดหนึ่ง คือไก่มันซ่อนอยู่ในหยวกกล้วย แกงปลาก็เหมือนกัน มีปลาอยู่ไม่กี่ชิ้นแล้ววันนี้พอมีโอกาสทำก็เลยอยากทำแกงหยวกกล้วยที่เห็นเนื้อไก่เยอะๆ เห็นเนื้อปลาเยอะๆ ในแกงเหลือง คือพี่เป็นคนที่คิดอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนคนอื่น พี่อยากทำอะไรที่คนมานั่งกินแล้วได้กินอาหารใต้ที่เป็นของแท้ๆ ใต้เดิมๆ พี่ไม่ลดรสชาติลงมาให้เป็นภาคกลางเพื่อคนภาคกลางกินได้ เพราะพี่ถือว่าคนที่มากินอาหารที่นี่จะต้องรู้จักอาหารใต้จริงๆ ว่าเป็นยังไง มันไม่ได้มีแต่เผ็ดนำ คือเผ็ดมันนำ แต่ว่ารสชาติอย่างอื่นมันกลมกล่อม แบบนี้ คือความเป็น ครัวเอกชัย”
“เอกชัย” ยังได้เล่าถึงที่มาของรสชาติอาหารที่มีความเป็นอัตลักษณ์ของภาคใต้ คือ ความเผ็ด สาเหตุที่คนใต้ชอบรสชาติที่เผ็ดจัด เพราะด้วยสภาพภูมิอากาศที่ทั้งปี จะมีฝนตกเยอะ คนใต้จึงกินของเผ็ด เพื่อไล่ความหนาว ความชื้น และเครื่องเทศส่วนใหญ่มาจากสมุนไพรและหลักๆ คือ ขมิ้น เครื่องเทศหลักๆ ที่ใช้ในร้านจะมีขมิ้นเป็นตัวเอก ทุกๆ แกงต้องใส่ขมิ้น อย่างถ้าเป็นแกงเหลืองปกติไม่ใส่กระเทียม แต่พี่ใส่กระเทียมด้วย ใส่ข้าวสารแช่น้ำแล้วนำมาโขลกกับเครื่องแกง มันจะทำให้น้ำแกงข้น ถ้าเป็นแกงพริกแกงป่าก็จะเน้นไปทางใส่เครื่องแบบร้อนๆ พริกขี้หนู ตะไคร้ ข่า ส่วนกะปิต้องเป็นกะปิใต้
สำหรับ ร้านครัวเอกชัย นี้ คุณเอกชัย บอกว่า ทุกคนทำด้วยความตั้งใจและมีความสุขกับร้านนี้มาก ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แม้แต่เจ้าของร้านก็มีหน้าที่จับจ่ายหาวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ร้านไม่ได้ใหญ่มาก เป็นร้านธรรมดา เหมือนร้านข้าวแกงทั่วไป จะ ขายแบบตักราด เป็นจานๆ ใส่ถุงกลับบ้าน หรือว่าแยกเป็นถ้วยก็ได้ ราคาเหมือนร้านปกติ ซึ่งวันแรกๆ ที่เปิดขายได้ 4,000 กว่าบาท หลังๆ มานี่เกือบหมื่น ลูกค้าบางคนามากินตั้งแต่วันที่เปิดร้าน ทุกวันนี้ ก็ยังมากินอยู่ ค่อนข้างมั่นใจว่า ในอนาคตจะดีขึ้นเรื่อย เพราะขายคุณภาพ และรสชาติ ถ้าใครได้ลองจะต้องกลับมากินอีก และที่สำคัญ เป็นราคาที่คนทั่วไป สามารถจับต้องได้
สนใจ www.facebook.com / ครัวเอกชัย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *