xs
xsm
sm
md
lg

สจล.ตั้งสำนักวิศวกรรมสังคีต รับเติบโตอุตสาหกรรมดนตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผศ.ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน ประธานหลักสูตรวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) เผยทิศทางอุตสาหกรรมดนตรีของไทยแนวโน้มสดใส ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% เงินสะพัดราว 35,000 ล้านบาท ชี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันพัฒนา ไม่ว่านักร้อง นักดนตรี รวมถึงสถาบันการศึกษา ด้าน สจล.เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว พัฒนาหลักสูตรรองรับ ตั้งเป็นสำนักวิศวกรรมสังคีต นักศึกษาเรียนจบหลักสูตรนี้ประกอบอาชีพได้ถึง 7 กลุ่มอาชีพเกี่ยวกับดนตรี

ผศ.ดร.พิทักษ์ ธรรมวาริน ประธานหลักสูตรวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ข้อมูลการวิจัยของ TCDC ในปี 2557 ระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมดนตรีสร้างเม็ดเงินสะพัดราว 35,000 ล้านบาทต่อปี แบ่งออกเป็น ธุรกิจค่ายเพลง 20,000 ล้านบาท ธุรกิจวิทยุที่เกี่ยวข้องกับดนตรีและบันเทิง 6,500 ล้านบาท ธุรกิจเครื่องเสียงและเครื่องดนตรี 5,000 ล้านบาท ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแสงและเสียง 2,000 ล้านบาท และธุรกิจโรงเรียนสอนดนตรี 300 ล้านบาท โดยภาพรวมมีแนวโน้มการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ชี้ให้เห็นว่าหากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ นักร้อง นักดนตรี บุคลากรในแวดวง รวมถึงสถาบันการศึกษา ร่วมกันพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างเป็นระบบ จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ พร้อมกับผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและนวัตกรรมด้านบันเทิงแห่งอาเซียนได้ในอนาคต
บรรยากาศการเรียน
ที่ผ่านมาสาขาวิชาวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม สจล.จึงพัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอน โดยการนำความรู้ศาสตร์วิศวกรรม ได้แก่ วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสาร/โทรคมนาคม และไอที ประยุกต์รวมกับความเป็นศิลป์ คือ ดนตรี องค์ประกอบทางแสง สี เสียง รวมถึงงานด้านกราฟิกและแอนิเมชันเข้าด้วยกัน รูปแบบการสอนในลักษณะนี้ถือว่าทัดเทียมกับหลักสูตรในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในด้านนี้ เช่น มหาวิทยาลัยไมอามี และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา จึงทำให้นักศึกษามีความรู้และทักษะที่หลากหลาย เมื่อจบออกไปสามารถประกอบอาชีพได้ทุกสายงาน ทั้งในอุตสาหกรรมดนตรีและบันเทิง รวมไปถึงสายงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้งอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันทั่วประเทศยังมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญน้อยมาก ตัวอย่างเช่น Sound Engineer ขณะนี้มีเพียงหลัก 10 เท่านั้น

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มอาชีพที่นักศึกษาวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสมสามารถประกอบอาชีพได้หลังจบการศึกษา แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มอาชีพหลัก ดังนี้

1. กลุ่มอุตสาหกรรมดนตรี โดยเป็นวิศวกรที่ทํางานทางด้าน Sound Engineer, Light and Sound Control ทั้งในภาคสนามและใน studio รวมทั้งการออกแบบงานด้านวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Live Show ทั้งในรูปแบบของคอนเสิร์ตและละครเวที ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยถือเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้แก่ศิลปินและภาคธุรกิจ

2. กลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์/โฆษณา/เกมและแอนิเมชัน ทำงานด้านการสังเคราะห์เสียงสําหรับผลิตเกมและแอนิเมชัน ผลิตโฆษณาและภาพยนตร์ รวมไปถึงเป็นวิศวกรระบบเครือข่ายสําหรับการ Download Digital Contents ต่างๆ และเกม On-line รวมทั้งงานทางด้าน Mobile Applications

3. สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ เป็นวิศวกรสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ออกแบบระบบอะคูสติกในห้องส่ง ควบคุมเสียงและภาพในการบันทึกเทปหรือออกอากาศสด และระบบการถ่ายทอดสัญญาณ ซึ่งปัจจุบันมีสถานีวิทยุและโทรทัศน์ต่างๆ มากมาย

4. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดนตรี เป็นวิศวกรที่นําเอาหลักการทางด้านวิศวกรรมมาสร้าง Audio/Sound Effect สําหรับเครื่องดนตรีต่างๆ การสร้าง Mixer, Equalizer, Amplifier รวมทั้งงานด้านการวิเคราะห์เสียงของเครื่องดนตรีไทย สําหรับการสร้างมาตรฐานของเสียงและการผลิตเครื่องดนตรีไทย

5. กลุ่มอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมความปลอดภัยทางเสียง และโสตทัศนะอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นวิศวกรด้านความปลอดภัยทางเสียง เช่น ออกแบบและสร้างเครื่องช่วยฟัง และอุปกรณ์ช่วยผู้บกพร่องทางการได้ยินและการมองเห็น เป็นต้น

6. กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นวิศวกรด้านระบบเสียงในรถยนต์ การออกแบบระบบอะคูสติกในห้องโดยสาร เครื่องเสียงติดรถยนต์ ระบบสื่อสารในรถยนต์และระหว่างรถยนต์กับรถยนต์รองรับระบบการขนส่งอัจฉริยะ

7. กลุ่มอุตสาหกรรม Consumer Electronics เป็นวิศวกรที่ทํางานด้านระบบเครื่องเสียงและระบบอะคูสติก ทั้งภายในสํานักงาน ห้องประชุม หอประชุมขนาดใหญ่ โรงละคร โรงภาพยนตร์ โรงแรม สถานบันเทิง รวมทั้งระบบ Home Theater ในบ้าน
แอ๊ด คาราบาว
ด้าน นายยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ด คาราบาว" ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันวงการเพลงเปลี่ยนแปลงไปมาก จากจุดเริ่มต้นของวงคาราบาวที่มีรายได้จากการอัดแผ่นเสียงและการขายเทปหรือซีดีเพลง แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้รูปแบบการหารายได้ไม่เหมือนเดิม จุดเปลี่ยนในยุคดิจิตอลเป็นความท้าทายที่คนวงการเพลงต้องไม่หยุดนิ่งในการปรับตัว จึงมองว่าการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาด้านวิศวกรรมดนตรีและสื่อประสม เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการผลิตเด็กรุ่นใหม่สู่วงการเพลงไทย ซึ่งที่ผ่านมาจากการจัดเวทีประกวดทำให้เห็นว่าเด็กไทยเก่งมากไม่แพ้เกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น ปัญหาจึงอยู่ที่ว่าเราจะจัดการและสนับสนุนอย่างไรให้เด่นดังเทียบเท่าทั้งสองประเทศ ซึ่งหากทำได้เชื่อว่าวงการเพลงบ้านเราจะพัฒนาได้ก้าวไกลไม่แพ้ใคร
แหลม นักร้องนำ วง 25 HOURS
นายสมพล รุ่งพาณิชย์ หรือ "แหลม" นักร้องนำวง 25 Hours กล่าวว่า ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา วง 25 Hours เริ่มพูดคุยถึงแนวทางพัฒนาการแสดงสดทั้งเรื่องเสียงและแสงสีให้ดียิ่งขึ้น เพราะรายได้หลักของวงมาจากการเล่นคอนเสิร์ต หรือไลฟ์โชว์ตามงานอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งจากปัญหาที่พบในการแสดงสดนั้น เชื่อว่าการที่ สจล.มีแนวคิดในการตั้งสำนักเพื่อยกระดับการเรียนการสอนที่ผสมผสานความรู้ ทั้งด้านดนตรีและเทคนิคต่างๆ เข้าด้วยกัน จะช่วยยกคุณภาพวงการดนตรีไทยได้ทัดเทียมนานาชาติ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าเรามีอุปกรณ์ไม่ดีหรือด้อยกว่าต่างชาติ แต่อยู่ที่ความรู้ความสามารถของคนที่ใช้เครื่องมือได้ไม่ดีพอ ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการแสดงสดของวงต่างชาติที่เล่นต่อจากวงไทย ภาพรวมที่ออกมาค่อนข้างต่างกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการควบคุมไฟและคุณภาพเสียง ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทำให้รู้ว่าเครื่องมือที่ใช้เป็นชุดเดียวกัน จึงคิดว่าการพัฒนาบุคลากรทางดนตรีให้มีความรู้ที่รอบด้าน คือหัวใจสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมดนตรีของประเทศไทยให้ก้าวหน้าได้เทียบเท่าวงดนตรีต่างชาติได้

นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2329-8111 หรือเข้าไปที่ www.kmitl.ac.th

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น