กสอ.ปั้นดีไซเนอร์ไทยผงาดเวทีแฟชั่นโลก ผ่านกิจกรรม ‘Fashion Next 2017’ คัดนักออกแบบเลือดใหม่ไฟแรง 33 รายเข้าอบรมเชิงลึกครบวงจร พร้อมพาจัดโชว์ผลงานทดสอบตลาด ระหว่างวันที่ 24-26 มี.ค. ณ ดิเอ็มควอเทียร์ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายอย่างต่ำ 1 ล้านบาทต่อราย
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินกิจกรรมพัฒนารูปแบบและผลิตภัณฑ์ให้ตรงต่อความต้องการของตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ ‘Fashion Next 2017’ ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ โดยพัฒนาและส่งเสริมเอสเอ็มอีกลุ่มแฟชั่นรุ่นใหม่ให้มีศักยภาพมากขึ้นกว่าเดิม สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง ตรงใจผู้บริโภค และขายได้จริง
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว กสอ.ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จำนวน 7 ล้านบาท ภายใต้โครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ SMEs สู่ตลาดโลก หรือ Global Reach เริ่มดำเนินงานตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว (2559) ร่วมกับ “สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์” เปิดอบรมเอสเอ็มอีที่สนใจร่วมกิจกรรม เบื้องต้นมีผู้เข้ากว่า 600 ราย ผ่านคัดเลือกรอบแรกประมาณ 250 ราย และผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย จำนวน 33 ราย ซึ่งมีศักยภาพดีอยู่แล้ว มีแบรนด์ของตัวเองมาระยะหนึ่งแล้ว พร้อมจะต่อยอดไปสู่ตลาดสากลได้
อธิบดี กสอ.เผยต่อว่า จุดเด่นของ Fashion Next 2017 คือการอบรมแบบเข้มข้นและเจาะลึกแบบตัวต่อตัว ให้ความรู้ทุกด้านครบวงจร จากวิทยากรที่ล้วนเป็นบุคลากรในวงการแฟชั่นที่มีชื่อเสียง ผ่านความสำเร็จในระดับสากลมาแล้ว สามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จริงได้อย่างถ่องแท้ ทั้งการออกแบบ ผลิต บริหารธุรกิจ และการตลาด รวมถึงให้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนเทรนด์แฟชั่นของโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพื่อให้รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง
นอกจากนั้น หลังผ่านการอบรมเชิงลึกมากว่า 5 เดือนแล้ว ยังนำทั้ง 33 รายมาจัดแสดงผลงานและจำหน่ายสินค้า ระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2560 ณ ควอเทียร์ แกลเลอรี ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ เพื่อเป็นการทดสอบตลาด ให้นักออกแบบได้พบกับผู้บริโภคโดยตรง สามารถนำคำติชมกลับไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจตลาดมากยิ่งขึ้น
“กิจกรรม Fashion Next 2017 ต้องการให้ผู้เข้าร่วมอบรมเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ก้าวไปสู่เวทีแฟชั่นระดับสากลได้จริงๆ โดยวางเป้าว่าในระยะเวลา 1 ปี หลังจากผ่านอบรมไปแล้วทุกรายต้องมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการแฟชั่นรายอื่นๆ เห็นและเชื่อมั่นว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจตลาดจะก่อให้เกิดความสำเร็จ” ดร.พสุระบุ
ด้านนางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สสว. เผยว่า โดยพื้นฐานแล้วนักออกแบบแฟชั่นไทยมีความสามารถด้านการออกแบบและผลิตสูงเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การจะพาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยไปสู่ตลาดโลกได้จริง ลำพังเพียงแค่ความสามารถเชิงผลิตอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ ต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เช่น การวางแผนการตลาด การบริหารจัดการธุรกิจ ฯลฯ ดังนั้น กิจกรรม Fashion Next 2017 จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะพัฒนาเอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมนี้ให้มีศักยภาพพร้อมทำตลาดได้ในเวทีแฟชั่นโลก
“การจะก้าวไปสู่ตลาดโลกได้นั้น ลำพังแค่สวยอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผู้ประกอบการต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค มีระบบบริหารจัดการที่ดี เช่น รักษาช่างฝีมือ ควบคุมต้นทุนให้เหมาะสม เป็นต้น รวมถึงคาดการณ์เทรนด์แฟชั่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยากที่ตัวผู้ประกอบการจะทำได้เอง แต่เมื่อมาร่วมกิจกรรม Fashion Next 2017 ช่วยให้มีทีมที่ปรึกษามืออาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถจะยกระดับไปขายในต่างประเทศได้” ผอ.สสว.กล่าว
นางสาวมิตรธิดา ชาญทวีคุณ เจ้าของเสื้อผ้าสตรี แบรนด์ “Label31” ผู้ประกอบการแฟชั่น 1 ใน 33 รายที่ผ่านคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม Fashion Next 2017 เล่าว่า เดิมจะมุ่งเน้นแค่ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีที่สุด จนมาร่วมกิจกรรมนี้ ซึ่งมีการอบรมเชิงลึกครบทุกด้าน ทำให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจตัวเอง และนำไปพัฒนาธุรกิจให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ตั้งแต่การยกระดับแบรนด์ให้ภาพลักษณ์ชัดเจน มีการวางแผนการตลาดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สามารถกำหนดลูกค้าเป้าหมายได้ นอกจากนั้นยังได้เครือข่ายทางธุรกิจ ทั้งจากกลุ่มเพื่อนนักออกแบบในกิจกรรมด้วยกัน รวมถึงบรรดาที่ปรึกษา ซึ่งล้วนเป็นบุคลากรหัวแถวในวงการแฟชั่นไทย ซึ่งจะก่อประโยชน์อย่างสูงต่อการทำธุรกิจต่อไป
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *