xs
xsm
sm
md
lg

‘Taris’ ปั้นโรงแรมโมเดิร์นผสานล้านนา เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่เมืองแพร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ธาริส อาร์ท โฮเทล” จ.แพร่
จ.แพร่ อาจจะไม่ใช่จุดหมายหลักในการท่องเที่ยวของคนส่วนใหญ่ที่ไปเยือนภาคเหนือ แต่ด้วยเสน่ห์แห่งวิถี ท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี ประกอบกับธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ดึงดูดให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ “ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล” ตัดสินใจลงทุนเปิดธุรกิจโรงแรมระดับ 4 ดาว แห่งแรกของเมืองแพร่ ในชื่อ “ธาริส อาร์ท โฮเทล”(Taris Art Hotel) เพื่อรอคว้าโอกาสตลาดท่องเที่ยวเติบโตในอนาคต
ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล เจ้าของธุรกิจ
เจ้าของธุรกิจโรงแรมน้องใหม่ เล่าว่า ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนทำโรงแรม“ธาริส อาร์ท โฮเทล” จ.แพร่ ในชีวิตไม่เคยเดินทางเยือนจังหวัดนี้มาก่อนเลย กระทั่ง มีผู้แนะนำว่า มีโรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่ง อยู่คู่กับเมืองแพร่ มากว่า 30 ปี ชื่อ “โรงแรมนครแพร่” ต้องการจะขายกิจการ เนื่องจากเจ้าของเดิม ไม่ต้องการจะทำธุรกิจนี้อีกต่อไปแล้ว

“ผมและภรรยา (ชญานิศ ธัญญวัฒนกุล) สนใจจะทำธุรกิจโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยว จากเดิมที่เคยทำแต่อพาร์ทเมนท์เพื่อคนทำงานมาตลอด พอมีคนมาแนะนำให้ไปดูโรงแรมที่ จ.แพร่ ในความรู้สึกแรก ก็แค่ลองไปดูเล่นๆ ไม่เสียหายอะไร ไม่ได้จริงจัง เพราะก่อนหน้านี้ แค่คิดจะไปเที่ยว ยังไม่ได้อยู่ในหัวด้วยซ้ำ แล้วจะให้ทำโรงแรมยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่พอไปถึง จ.แพร่ แล้ว ผมกับภรรยาเกิดความรู้สึกตรงกันว่า “หลงเสน่ห์” เมืองแห่งนี้เอามากๆ เพราะบรรยากาศเงียบสงบ สบาย เป็นเมืองขนาดเล็กแต่งดงาม คนท้องถิ่นก็น่ารักมีน้ำใจ และอากาศก็ดีมาก” เขา เผยความรู้สึกแรกที่มาเยือนเมืองแพร่
ห้องพักเตียงเดียว
ขณะเดียวกัน ตัวโรงแรม แม้จะมีอายุกว่า 30 ปีแล้ว แต่เห็นศักยภาพซ่อนอยู่ เพราะในอดีตเคยเป็นโรงแรมอันดับหนึ่งประจำจังหวัด พื้นที่กว้างกว่า 2 ไร่ มีจำนวนห้องพักถึง 150 ห้อง นับเป็นโรงแรมที่มีห้องพักมากที่สุดของจังหวัด รวมถึง ทำเลตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมครบครัน แถมราคาที่เจ้าของเดิมประกาศขาย ก็ไม่สูงเกินไป

ที่สำคัญ เมื่อพิจารณาข้อมูลการท่องเที่ยวประกอบด้วย ยิ่งเห็นโอกาสที่รอวันเติบโต เพราะ จ.แพร่ มีอัตรานักท่องเที่ยวเพิ่มปีละไม่ต่ำกว่า 10% มีเครื่องบินมา 2 เที่ยวต่อวัน ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบาย ขณะเดียวกัน มีพื้นฐานความพร้อม ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเก่าแก่หลากหลาย เช่น “พระธาตุช่อแฮ” อีกทั้งได้รับการส่งเสริมจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็นหนึ่งใน “12 เมืองต้องห้าม (พลาด) พลัส”

“จากที่มาเห็นศักยภาพของโรงแรม ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง “ขนาด” และ “โลเคชั่น” พร้อมรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวในอนาคตได้ ทำให้ผมเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาปรับโฉมโรงแรมให้แตกต่างจากโรงแรมที่พักเดิมๆ ในแพร่ ที่ส่วนใหญ่จะตกแต่งสไตล์ล้านนาเดิมๆ เราจึงพัฒนาปรับปรุงโรงแรมให้เป็นสไตล์โมเดิร์นผสานล้านนา โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ระดับ 4 ดาว ซึ่งยังไม่มีมาก่อนใน จ.แพร่ ตอบความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยหวังให้เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัด” นักธุรกิจหนุ่ม ระบุ
ห้องอาหาร
แม้จะต้องการสร้างความโดดเด่นกว่าโรงแรมแห่งอื่นๆ ในท้องถิ่น ทว่า หัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปได้ จำเป็นต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตท้องถิ่นด้วย โดยเฉพาะห้ามทำลายเสน่ห์ของเมืองแพร่เด็ดขาด ดังนั้น ในการตกแต่ง เน้นกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม มีการใช้ภาพศิลปะท้องถิ่นในจังหวัดแพร่ มาประดับสถานที่ เครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ กว่า 90% ใช้ไม้เก่านำมาปรับปรุง เพื่อสะท้อนถึงเมืองแพร่ที่เป็นแหล่งค้าไม้ในสมัยโบราณ และอนาคต เตรียมเปิดให้ศิลปินท้องถิ่นได้มาจัดแสดงผลงานศิลปะกันแบบฟรีๆ อีกด้วย
ห้องจัดเลี้ยง
ขณะเดียวกัน ด้านราคาห้องพัก เริ่มต้นที่ประมาณ 1,000-3,000 บาทต่อคืน ซึ่งสูงกว่าราคาค่าห้องพักโดยเฉลี่ยของโรงแรมที่เปิดอยู่ก่อนแล้ว ที่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 บาทต่อคืน เหตุผลเพื่อจะจับระดับตลาดให้แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง หลีกเลี่ยงการแข่งขันกับผู้ประกอบการเดิมในท้องถิ่น

“ผมจะวางจุดยืนของตัวเองชัดเจนว่า เรามาเพื่อจะเป็นอีกทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค โดยไม่ทำร้ายรายเดิมที่อยู่มาก่อนแล้ว ดังนั้น ตลาดที่ผมจะจับจึงแตกจากโรงแรมในท้องถิ่น ที่จะมุ่งลูกค้ากลุ่มเซลล์แมนและราคาถูก ส่วนผมเน้นเปิดตลาดใหม่ ซึ่งเสียงตอบรับของคนท้องถิ่น หลังจากที่เปิดมาก็ดีมาก เพราะที่ผ่านมา จ.แพร่ ไม่เคยมีโรงแรมระดับ 4 ดาวมาก่อนเลย” ธีรินทร์ กล่าว และอธิบายต่อว่า

ใช้เงินเทคโอเวอร์และรีโนเวท เพื่อสร้าง “ธาริส อาร์ท โฮเทล” ประมาณ 150 ล้านบาท กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวคนไทยต่างถิ่นที่ต้องการมาเที่ยว จ.แพร่ 2.หน่วยงานภาคเอกชน และราชการ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดที่ต้องการห้องจัดประชุมสัมมนาต่างๆ 3.คนในท้องที่ ต้องการสถานที่จัดงานต่างๆ เช่น งานเลี้ยงวันเกิด แต่งงาน เลี้ยงรุ่น ฯลฯ และ 4.นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบัน มีสัดส่วนแค่ 5-10% เท่านั้นเมื่อเทียบกับจำนวนคนไทยที่มาเที่ยวแพร่ จึงเชื่อว่า จะเป็นอีกกลุ่มลูกค้าตลาดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก

สำหรับนักธุรกิจหนุ่มอย่าง “ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล” คนทั่วไปอาจจะรู้จักดีในฐานะทายาทธุรกิจข้าวสารบรรจุถุงชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี แบรนด์ “ไก่แจ้” กับอีกบทบาท คือ เจ้าของขนมไทยบรรจุซองเพื่อส่งออก แบรนด์ “แม่นภา” ส่วนอีกธุรกิจที่น้อยคนจะรู้ว่าเขาทำมานานแล้ว คือ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซื้อที่ดินและที่ดินมาสร้าง “อพาร์ทเมนท์ให้เช่า” ทั้งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครมารีโนเวท บริการแก่พนักงานหนุ่มสาวโรงงาน ราคาค่าเช่าเฉลี่ย 2 พันบาทต่อเดือน และ “เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์” ที่ให้บริการกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นในศรีราชา ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 2 หมื่นบาทต่อเดือน

จนเมื่อสะสมความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบห้องพักเพื่อคนทำงาน จึงต้องการขยายธุรกิจสู่โรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อจะเชื่อมโยงธุรกิจในเครือเข้าด้วยกันครบวงจร ตัวอย่างเช่น ใช้ข้าวไก่แจ้ บริการลูกค้าในโรงแรม มีขนมแม่นภาเสิร์ฟเป็นอาหารเช้า และของกินเล่นในมินิบาร์ นอกจากนั้น มีจัดโปรโมชั่นลูกค้าของข้าวไก่แจ้ และแม่นภา ได้ Gift Voucher มาใช้บริการห้องพักของ“ธาริส อาร์ท โฮเทล” เป็นต้น

เขา เผยต่อว่า การทำธุรกิจโรงแรมแห่งนี้ ใช้เงินทุนส่วนตัวล้วนๆ ไม่ได้พึ่งบริการสินเชื่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะจากประสบการณ์อยู่ในวงการธุรกิจอสังหาฯ รู้ดีว่า หากใช้เงินกู้มาลงทุนทำโรงแรมหรืออพาร์ทเมนท์ โอกาสล้มเหลวสูงมาก เนื่องจากรายได้ที่เข้ามาจะไม่มากเพียงพอต่ออัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไป ในที่สุดจะกระทบสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้น ในแง่ของการลงทุนครั้งนี้ จึงหวังผลตอบแทนระยะยาว โดยตั้งเป้าจะคืนเงินทุนได้ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ถ้าวันนี้ ตัดสินใจจะขายโรงแรมแห่งนี้เลย ก็ได้กำไรแล้ว ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น แต่ยืนยันว่า จะไม่ทำเช่นนั้น เพราะส่วนตัว มุ่งลงทุนแบบซื้อเก็บและให้เช่า มากกว่าขายทำกำไร เพราะทุกทรัพย์สินและทุกธุรกิจที่ทำ ล้วนเกิดจาก “ความชอบ” จึงอยากรักษาให้เป็นของครอบครัวตลอดไป

“ชื่อ “TARIS” มาจากตัวอักษรในชื่อสมาชิกทุกคนของครอบครัว เพื่อสะท้อนว่า ธุรกิจต่างๆ สมาชิกทุกคนในบ้านต่างมีส่วนร่วมอยู่เสมอ ซึ่งแผนในอนาคต ผมอยากจะพัฒนาธุรกิจอื่นๆ โดยให้เกิดการเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน อย่างธุรกิจโรงแรม ต่อไปจะมีแบรนด์ “ธาริส” ไปเปิดยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป ภายใต้แบรนด์เดียวกัน ซึ่งคงเอกลักษณ์ให้เกิดความแตกต่าง และอยู่กับท้องถิ่นได้อย่างกลมกลืน” เจ้าของธุรกิจหนุ่ม ทิ้งท้าย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น