สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จับมือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สานต่อ โครงการ “การสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระยะที่ 2” เพื่อสนับสนุน SME ให้เข้าถึงและนำนวัตกรรมไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ผ่านโปรแกรม ITAP สวทช. และชุดโครงการ Innovative house สกว. ชี้ หลังระยะที่ 1 สนับสนุน SME ด้านอาหาร เครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมอื่นทั่วประเทศแล้ว 100 โครงการจาก 76 บริษัท ตั้งเป้าระยะที่ 2 หนุน SME ให้ได้เพิ่มอีก 110 โครงการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้พัฒนาได้อย่างมั่นคง
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การดำเนินของ สวทช. โดยโปรแกรม ITAP ในการสนับสนุน SME ร่วมกับ สกว. ที่ได้ดำเนินโครงการร่วมกันในปี 2559 หรือระยะที่ 1 ต่อเนื่องมาจนครั้งนี้ในระยะที่ 2 (2560-2562) เพื่อผลักดันการสร้างนวัตกรรมที่เป็นผลิตภัณฑ์สามารถขายได้จริงในเชิงพาณิชย์ และมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็น SME ด้านอาหาร เกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ทั่วประเทศ โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเพิ่มศักยภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นด้วย
ด้าน ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ รองผู้อำนวยการ สกว. กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือระหว่าง สกว. กับ สวทช. ในครั้งนี้ จุดมุ่งหมาย เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจผ่านกระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับการจัดการด้านธุรกิจ และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถแข่งขันได้ รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถของนักวิจัยให้สามารถทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างมีคุณภาพ
โดยผลการดำเนินงานในระยะที่ 1 ได้รับการตอบรับที่ดี เกิดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องสำอางกว่า 100 ผลิตภัณฑ์ หลายผลิตภัณฑ์อยู่ระหว่างการทดสอบตลาด และบางผลิตภัณฑ์เริ่มจะผลิตจริงแล้ว สำหรับความร่วมมือในระยะที่ 2 สกว. จะร่วมสนับสนุนงบประมาณการวิจัย และผลักดันผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์จากการส่งเสริมกิจกรรมปลายน้ำ เช่น การอบรมให้ความรู้ทางการตลาด การนำผลิตภัณฑ์ไปจัดแสดงทั้งในและต่างประเทศเพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย สกว. หวังว่าโครงการจะ เป็นตัวอย่างในการผลักดันให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ และยังเป็นการส่งเสริมภาคเกษตรด้วยการนำวัตถุดิบทางการเกษตรของประเทศมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ด้าน ดร.ณัฐกา สิงหวิลัย ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช. กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา มีโครงการวิจัยทั้งสิ้น 100 โครงการ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 76 บริษัท แบ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อม (S) 57 บริษัท และขนาดกลาง (M) 19 บริษัท โดยได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร 88 โครงการ และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 12 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาวิจัยในช่วงต้นน้ำ 7 โครงการ กลางน้ำ 81 โครงการ และปลายน้ำ 12 โครงการ โดยในระยะที่ 2 นี้ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 110 โครงการ ซึ่งทั้งสององค์กรจะร่วมกันบริหารจัดการงานวิจัยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อผลักดันงานวิจัยที่เกิดขึ้นให้สามารถขายได้จริง
สำหรับ ตัวอย่างผลงานวิจัยจากโครงการในระยะที่ 1 ที่พร้อมออกสู่เชิงพาณิชย์แล้ว เช่น ผลิตภัณฑ์เยลลี่ Mello Bello โดยบริษัท ภัทชนิก จำกัด ได้ต่อยอดผลไม้ที่มีอยู่แล้วเป็นเยลลี่บรรจุน้ำผลไม้สำเร็จรูป เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าจากผลไม้สดสูง มีใยอาหาร เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีเวลาน้อย / ผลิตภัณฑ์สบู่ฟิล์มถั่งเช่าผสมสารสกัดเมล็ดลำไยและขมิ้นชัน โดยบริษัท นาวิสพลัส จำกัด ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สบู่ฟิล์มจากถั่งเช่าสีทองและมีส่วนผสมจากธรรมชาติ คือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำผึ้ง สารสกัดเมล็ดลำไยและขมิ้นชัน ผลิตภัณฑ์รูปแผ่นฟิล์มที่พกพาสะดวก ใช้งานง่าย / ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักชนิดแคปซูลจากสมุนไพร STAY โดยบริษัท เฟอร์ฟู แปซิฟิก จำกัด ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับลดน้ำหนักที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากสมุนไพร 4 สูตรที่แตกต่างกัน มีประสิทธิภาพและปลอดภัย/ ผลิตภัณฑ์มะพร้าวอ่อนแช่เยือกแข็งทั้งลูกพร้อมน้ำมะพร้าว โดยบริษัท ห้องเย็นเอเซีย จำกัด ได้พัฒนามะพร้าวน้ำหอมแช่เยือกแข็งทั้งลูกพร้อมรับประทาน เหมาะเป็นของฝากหรือสินค้าในระดับพรีเมี่ยมขายยังต่างประเทศ และ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำมะนาวพาสเจอร์ไรส์ โดยบริษัท พี พี ออย แอนด์ ฟู้ดส์ จำกัด ได้พัฒนาเครื่องดื่มน้ำมะนาวพาสเจอร์ไรส์ ให้มีกลิ่น รสชาติและลักษณะปรากฎใกล้เคียงน้ำมะนาวสด โดยไม่เติมสารให้ความขุ่น เก็บได้ที่อุณหภูมิห้อง
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *