สร้างตำนานในเรื่องลูกชิ้นหมูมานานกว่า 40 ปีตั้งแต่รุ่นพ่อ สำหรับ “ลูกชิ้นหมูท่าแพ” ชูจุดขายด้วยวัตถุดิบเกรดพรีเมียม รสชาติกลมกล่อม โดนใจผู้บริโภคใน จ.เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือ บุกช่องทางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เกตเป็นผลสำเร็จ ล่าสุดนำนวัตกรรมอาหารมาปรับใช้กับธุรกิจ เปิดตัว 'ลูกชิ้นสอดไส้น้ำจิ้ม' เพิ่มลูกเล่นให้เมนูคุ้นชินสร้างความต่าง
นายทศพล ปาติยเสวี ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 ลูกชิ้นหมูท่าแพ ย้อนที่มาธุรกิจนี้ให้ฟังว่า ครอบครัวได้ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตลูกชิ้นหมูมานานกว่า 40 ปี จากที่ไม่มีมาตรฐานใดๆ แต่ชนะใจผู้บริโภคด้วยรสชาติ และคุณภาพของวัตถุดิบที่เลือกใช้จนพัฒนาได้มาตรฐาน อย. และ GMP เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และยังได้รับโอกาสให้วางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำ อย่าง ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และบิ๊กซี
จุดเด่นของลูกชิ้นท่าแพ หลักๆ อยู่ที่การคัดเกรดเนื้อหมูที่นำมาทำลูกชิ้นจะเลือกเกรดพรีเมียม สั่งเนื้อหมูจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานสากล จะมีส่วนผสมของแป้งน้อยมาก ซึ่งแม้ราคาจะสูงกว่าท้องตลาดประมาณ 30-40% ก็ยังครองใจลูกค้าระดับไฮเอนด์ได้ โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว และผู้ที่นิยมซื้อไปเป็นของฝาก ส่วนบรรดาแม่ค้าที่ขายก๋วยเตี๋ยวจะยังเป็นส่วนน้อยอยู่
“การที่ลูกชิ้นท่าแพครองใจผู้ใจบริโภคมายาวนานนั้น นอกจากรสชาติและวัตถุดิบที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว การสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดอีกวิธีหนึ่ง คือ การโชว์ปั้นลูกชิ้นสด และลวกสดใหม่จำหน่ายให้ลูกค้า ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพ ที่ถนนคนเดิน ประตูท่าแพเป็นประจำ ส่งผลให้ปัจจุบันโรงงานผลิตของเราที่ตั้งอยู่ที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีกำลังการผลิตประมาณ 1 ตัน/วัน ส่วนราคาขายซูเปอร์มาร์เกตอยู่ที่ 135 บาท/ครึ่งกิโลกรัม และมีขนาด 250 กรัม ขายในราคา 75 บาท”
สำหรับการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของ “ลูกชิ้นท่าแพ” ต้องบอกว่าค่อนข้าง 'คิดต่าง' หลังจากที่นายทศพลได้เข้าร่วมโครงการ Northern Food Valley โดยความร่วมมือของกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารของไทยด้วยนวัตกรรม ซึ่งลูกชิ้นท่าแพก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับโอกาสนั้น และเป็นจุดกำเนิดของ “ลูกชิ้นสอดไส้น้ำจิ้ม” จากโจทย์ที่ทีมนักวิจัยตั้งโจทย์ให้ขบคิดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
“ผมได้เสนอไอเดียการทำลูกชิ้นสอดไส้น้ำจิ้มขึ้น ก็ได้รับการตอบรับดีจากทีมนักวิจัย พร้อมช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงแล้วเสร็จ และทำให้เราเป็นเจ้าแรกในตลาดที่ทำลูกชิ้นสอดไส้น้ำจิ้มอย่างจริงจัง ซึ่งความยากอยู่ที่การควบคุมน้ำจิ้มให้อยู่ในลูกชิ้นให้ได้ ไม่ให้มีการรั่วซึมออกมา รวมถึงเมื่อนำไปแช่แข็งและนำออกมารับประทาน ทุกอย่างต้องคงรูปทั้งในเรื่องรสชาติ และรสสัมผัส โดยลูกค้าสามารถนำไปอบ นึ่ง ปิ้ง ทอด ได้ตามต้องการ”
หลังจากที่นำนวัตกรรมมาสู่ธุรกิจอาหาร ทำให้ลูกชิ้นท่าแพสอดไส้น้ำจิ้มมียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 20% หลังจากเป็นที่นิยมของผู้บริโภควัยทำงาน และเด็กรุ่นใหม่ ที่ชอบทดลองเมนูที่แตกต่างออกไป ขณะที่รสชาติก็ยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้ โดยเฉพาะในส่วนของน้ำจิ้ม จะเป็นสูตรโบราณใช้มะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บเป็นหลัก และล่าสุดทางอุตสาหกรรม จ.เชียงใหม่ ได้เซ็นเอ็มโอยู (MOU) กับเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ในการนำสินค้าจัดแสดง และจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการญี่ปุ่น ซึ่งลูกชิ้นท่าแพก็ได้รับโอกาสนั้น โดยได้รับการตอบรับดีและเชื่อว่าจะบุกตลาดที่แดนปลาดิบไม่ยากนัก
ปัจจุบันลูกชิ้นท่าแพได้ขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ “ลูกชิ้นปิ้งท่าแพ” ด้วย มีกว่า 40 สาขา กระจายในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เช่น จ.นครสวรรค์ พิษณุโลก และสงขลา โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 8,500 บาท แฟรนไชซีจะได้รับคีออสก์ เตาปิ้ง น้ำจิ้ม 2 กิโลกรัม และลูกชิ้น 200 ไม้ ซึ่งจะมีคนที่ต้องการหารายได้เสริมมาซื้อแฟรนไชส์กันเป็นจำนวนมาก
สำหรับกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจลูกชิ้นท่าแพที่ครองตลาดมาได้นานถึง 40 ปีนั้น นายทศพลบอกว่า ต้องรักษาชื่อเสียงที่สั่งสมมาให้คงอยู่ โดยเฉพาะใน จ.เชียงใหม่ ที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และต้องพยายามสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในธุรกิจ โดยอนาคตเขาวางแผนจะเพิ่มไส้อื่นๆ ในลูกชิ้นอีก เช่น ไส้ชีส และจะขยายตลาดในภาคกลางให้มากขึ้น โดยขายผ่านฟู้ดแลนด์ (Food Land) รวม 22 สาขา ส่วนภาคใต้ก็จะขยายฐานตลาดเช่นกัน ผ่านห้างซูเปอร์ชีป (Super Cheap) จ.ภูเก็ต เพื่อกระจายสินค้าให้ทั่วภาคใต้ เพราะเขาเชื่อมั่นว่าตลาดลูกชิ้นเกรดพรีเมียมยังเปิดกว้างอีกมาก
***สนใจติดต่อ 08-1595-5533 หรือที่ Facebook : punsodporkball***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
