การที่ผักพื้นบ้านจะโลดแล่นอยู่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่สำหรับ “วินเทจ ฟาร์มดี” สามารถเจาะตลาดได้ และเข้าไปครองใจผู้บริโภคในเวลาไม่นาน ขณะที่เจ้าของธุรกิจนี้บอกเลยว่าเขาปลูกผักไม่เป็น แต่อาศัยเครือข่ายชาวบ้านคอยปลูกผักส่งขาย สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำทั้ง 2 ฝ่าย
จากการเป็นพนักงานประจำมาหลายสิบปี ไม่เคยรู้เรื่องการปลูกผัก หรือการทำเกษตรแต่อย่างใด แต่สุดท้าย “ฤทธิรงค์ โคตะพันธุ์” หรือ คุณอั๋น เจ้าของ บริษัท วินเทจ ฟาร์มดี จำกัด ก็เลือกวิถีนี้ที่เริ่มต้นจากความ 'สงสาร' ชาวบ้าน
แต่กว่าเขาจะก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมาไม่น้อย เริ่มจากการเป็นพนักงานในบริษัท เวิร์คพ้อยท์ ในตำแหน่งผู้ดูแลเวที เลื่อนขั้นสู่เลขาผู้จัดการฝ่ายผลิตและดูแลฝ่ายข้อมูล ซึ่งทำมานาน 8 ปี กระทั่งถูกทาบทามจากรัฐบาลกัมพูชา ให้ไปช่วยพัฒนาสถานีโทรทัศน์ที่นั่น เนื่องจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โทรทัศน์ที่กัมพูชาไม่ได้ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ซึ่งเขาคิดจะทำเพียง 3 เดือนเท่านั้น แต่กลับกลายเป็น 11 ปี ที่อยู่ที่นั่น ดูแลด้านการบริหารทั้งระบบ
กระทั่งต้องกลับมาอยู่เมืองไทยหลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิต มาทำงานเป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการวางกลยุทธ์เพิ่มยอดขายในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เขาวางแนวทางว่าต้องเป็นผักออร์แกนิกทั้งหมด ดังนั้นจึงนำร่องด้วยการเป็นวิทยากรสอนในเรื่องแนวคิดการทำเกษตรแบบปลอดสารพิษว่ามีผลดีอย่างไร จากนั้นก็เชิญเกษตรมาออกบูธ เพื่อเป็นการเปิดตลาดผักพื้นบ้าน แต่เมื่อเกิดปัญหาผักของเกษตรกรขายไม่หมด ด้วยความสงสารจึงรับซื้อไว้ทั้งหมด และเกิดไอเดียการรับผักพื้นบ้านมาขายส่งตามห้างสรรพสินค้า
ดังนั้นเขาจึงเริ่มเขียนแนวคิดในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวส่งไปที่ห้างเดอะมอลล์ ก็ได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหาร ทำให้ตั้งแต่นั้นมา “ผักพื้นบ้าน” ภายใต้แบรนด์ 'วินเทจ ฟาร์มดี' ได้รับโอกาสในการจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต เครือเดอะมอลล์ 5 สาขา และเร็วๆ นี้จะขยายสาขาเพิ่มอีก
สำหรับแนวคิดในการทำธุรกิจ “วินเทจ ฟาร์มดี” คุณอั๋น บอกว่า ต้องการที่รวบรวมผลผลิตของเกษตรกรและทำตลาดให้ และต้องการให้คนเมืองได้รับประทานผักที่เป็นยา ซึ่งผักพื้นบ้านที่นำมาจำหน่ายจะมีการรวบรวมไว้ประมาณ 100 ชนิด สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล เช่น ผักกูด ใบชะมวง ยอดมันปู ยอดมะม่วงหิมพานต์ ใบเหลียง ลูกเนียง ผักแพว ดอกกระเจียว ผักคะแยง ดอกขจร ดอกโสน ชะอม ตำลึง ผักปรัง ลูกมะตาด รวมถึงยังมีผักสวนครัวที่รู้จักกันดี อย่าง พริกขี้หนู ใบโหระพา ใบกระเพรา ฟักทอง มะเขือเทศราชินี มะเขือทุกประเภท เป็นต้น ซึ่งจะนำพืชผักมาจากแหล่งที่ขึ้นชื่อของผักชนิดนั้น ตัวอย่างเช่น ใบเหลียง นำมาจากชุมพร ดอกกระเจียว จากชัยภูมิ ส่วนประเภทผักยอด จะนำมาจากพระนครศรีอยุธยา และนครนายก ขณะที่ผักเหง้า อย่าง ฟักทอง ก็นำมาจากนครราชสีมา เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกที่ให้ผลผลิตดีที่สุด
“เราถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่นำผักพื้นบ้านมาจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตใจกลางเมือง มีผักหลากหลายชนิดให้เลือกสรร และยังเป็นเพียงเจ้าเดียวที่ไม่นำผักใส่ถุงพลาสติก แต่ให้ลูกค้าเลือกหยิบผักได้ตามใจชอบ แล้วนำไปชั่งตามปริมาณที่ต้องการ หรือผักบางชนิดจะห่อด้วยใบตอง และมัดด้วยเชือกกล้วย ก็ได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ เพราะเราเชื่อว่ายิ่งโลกโซเชียลเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน รากเหง้าทางวัฒนธรรมจะยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นเท่านั้น ขณะที่ความปลอดภัยก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราให้เกษตรปลูกผักแบบไม่ใช้สารเคมี มีการสุ่มตรวจคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้มาตรฐาน FAO 100%”
นอกจากการส่งผักจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว คุณอั๋น ยังมีฟาร์มเป็นของตัวเองด้วย บนเนื้อที่ 16 ไร่ ย่านอ่อนนุช 70 แยก 5 เน้นการทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกข้าว กล้วย เลี้ยงเป็ด ไก่ ห่าน กบ ปลา และเร็วๆ นี้จะเพาะถั่วงอกปลอดสาร พร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจ รวมถึงนักเรียน นักศึกษาเข้ามาเรียนรู้การทำการเกษตรลักษณะนี้โดยเปิดให้เข้าชมฟรี
ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตจะแตกไลน์ธุรกิจในลักษณะของดิลิเวอรี่ คีออส และแฟรนไชส์ หลังพบว่าคนเมืองยังมีความต้องการผักพื้นบ้านอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนในซูเปอร์มาร์เก็ต มีการฝึกอบรมพนักงานขาย ให้รู้จักผักชนิดต่างๆ และเมนูอาหารที่สามารถนำไปปรุงได้ให้กับลูกค้า รวมถึงที่ผ่านมาได้จัดส่งผักพื้นบ้านให้แก่ร้านอาหารย่านพัฒนาการอีกด้วย
***สนใจติดต่อ 09-1330-2494, 09-4909-5035 หรือที่ Facebook : vintagefarmd***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
