xs
xsm
sm
md
lg

ชี้เอสเอ็มอีญี่ปุ่นยังนิยมลงทุนไทย แนะโมเดลใหม่ เปลี่ยนจากจ้างผลิตสู่คู่หูลุยตลาดโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้บริหาร ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แห่งมหานครโตเกียว (Tokyo SME Support Center)  ถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องในโอกาสดำเนินศูนย์ฯ ครบรอบ 1ปี ในเมืองไทย
ศูนย์ Tokyo SME Support Center ครบรอบ 1 ปีในกรุงเทพฯ เผยผลสำเร็จเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่นเข้ารับคำปรึกษากว่าพันราย เกิดการเจรจาลงทุนสำเร็จกว่า 250 กรณี ชี้ผู้ประกอบการญี่ปุ่นยังสนใจลงทุนและทำการค้าในไทย แนะความร่วมมือที่เหมาะสม บริษัทญี่ปุ่นควรใช้บริษัทไทยเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกรุยทางไปสู่ตลาดโลก
นายมาซาฮิโกะ โฮซากา กรรมการ ผู้จัดการอาวุโส ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แห่งมหานครโตเกียว (Tokyo SME Support Center)
นายมาซาฮิโกะ โฮซากา กรรมการผู้จัดการอาวุโส ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว (Tokyo SME Support Center) กล่าวในงานประชุมรายงานการเปิด Tokyo SME Support Center ในกรุงเทพฯ ครบ 1 ปี ว่า ศูนย์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยส่งเสริมการค้าขายและลงทุนระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของญี่ปุ่นกับไทย โดยผลการดำเนินงานมีผู้ประกอบการเข้ามาขอรับคำปรึกษาแล้วกว่า 1,100 ราย แบ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่นประมาณ 750 ราย และผู้ประกอบการไทย ประมาณ 300 กว่าราย และเกิดการจับคู่ลงทุนธุรกิจกว่า 250 กรณี

นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมส่งเสริมเอสเอ็มอีระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดสัมมนาให้ความรู้ จัดพื้นที่สืบค้นข้อมูลธุรกิจ การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจเอสเอ็มอีไทยญี่ปุ่น การพาผู้ประกอบการญี่ปุ่นมาออกงานแสดงสินค้าในไทย และพาผู้ประกอบการไทยไปออกงานแสดงสินค้าที่ญี่ปุ่น รวมถึงยังมีการประสานงานเพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี ตลอดจนดูงานระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้ประกอบการของทั้งสองชาติเกิดความสัมพันธ์ที่กระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อประโยชน์ต่อการค้าขายและลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม

สำหรับใน Tokyo SME Support Center ใน กทม.จะมีบริการต่างๆ เพื่อเอสเอ็มอีทั้งสองชาติ เช่น บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจในท้องถิ่น ด้านกฎหมาย โดยทนายและผู้เชี่ยวชาญ แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงมีที่ปรึกษาทางธุรกิจ การส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจ รวมถึงพื้นที่ทำงาน ประชุม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายพหุ  โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)
ด้านนายพหุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เผยว่า การดำเนินการของศูนย์ Tokyo SME Support Center ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการทั้งสองชาติอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยได้รับการถ่ายทอดความรู้ และขยายช่องทางตลาด โดยได้รับการสนับสนุนพาไปออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการมีผู้เชี่ยวชาญนำไปช่วยให้ประสบความสำเร็จในการทำตลาดได้สูงยิ่งขึ้น
นายฮิเดโทชิ อุเมกิ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษา Tokyo SME Support Center
ด้านนายฮิเดโทชิ อุเมกิ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษา Tokyo SME Support Center เผยว่า สำหรับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่เข้ามาขอใช้บริการของศูนย์ ส่วนใหญ่จะมาขอรับปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติต่างๆ รวมถึงด้านแรงงาน และหาพันธมิตรการค้าชาวไทย ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่มาใช้บริการศูนย์ ส่วนใหญ่จะขอรับคำปรึกษาด้านโอกาสในการส่งออกสินค้าไปประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ เอสเอ็มอีญี่ปุ่นยังให้ความสนใจมาลงทุนและทำการค้าในประเทศไทยมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เพราะมีพื้นฐานความพร้อมต่างๆ ทั้งด้านสาธารณูปโภค การเดินทาง อากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ และความสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นฐานนิสัยของชาวญี่ปุ่นที่เป็นคนจริงจัง เคร่งครัดในกฎระเบียบอย่างสูง ให้ความสำคัญเรื่องระเบียบวินัยเป็นอันดับแรก ส่วนคนไทยมีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตสูง บางครั้งทำให้ทัศนคติไม่ตรงกัน ดังนั้น ความร่วมมือของเอสเอ็มอีไทยและญี่ปุ่นควรจะเริ่มจากปรับความคิดให้ตรงกัน โดยยอมรับในจุดเด่นและเรียนรู้ในจุดต่าง เพื่อจะทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน

สำหรับวิธีการร่วมมือธุรกิจที่เหมาะสมของเอสเอ็มอีทั้งสองชาตินั้น บริษัทญี่ปุ่นควรเปลี่ยนจากให้บริษัทไทยเป็นผู้รับจ้างผลิตมาเป็นคู่ค้าที่ทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายจะขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่สามารถขยายตลาดไปสู่ประเทศอื่นๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน และต่อเนื่องไปสู่ตลาดโลก โดยเอสเอ็มอีไทยจะได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีจากเอสเอ็มอีญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น