xs
xsm
sm
md
lg

เวทโปรดักส์ ทุ่ม 40 ล้าน ตั้งศูนย์วิจัยในอุทยานวิทยาศาสตร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับบริษัทในเครือ เวทโปรดักส์ เปิดศูนย์ “เวทโปรดักส์ รีเซิร์ซ แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์” พร้อมลงนามความร่วมมือวิจัยพัฒนาระหว่างเวทโปรดักส์ กับ สวทช. และนาโนเทค ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี เพื่อเดินหน้างานวิจัยด้านเวชภัณฑ์สัตว์เต็มสูบ ประเดิมต่อยอดงานวิจัยนาโนเทค ‘เทคโนโลยีระบบการนำส่งมาใช้ในกลุ่มยาปฏิชีวนะ’ มุ่งลดการดื้อยาในมนุษย์ ตั้งเป้าปีแรกเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 15% ในธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์

นายสัตวแพทย์ธานินทร์ ชีวะผลาบูรณ์ กรรมการบริหารในเครือเวทโปรดักส์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำร่วมวิจัยพัฒนากับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. โดยการใช้เทคโนโลยีระบบการนำส่งมาใช้ในกลุ่มยาปฏิชีวนะของบริษัท เพื่อพัฒนารูปแบบ เพิ่มการดูดซึมที่มีประสิทธิภาพในสัตว์ และลดปริมาณการใช้ยา งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานวิจัยที่สำคัญมากที่จะช่วยลดการสูญเสียจากภาวะการดื้อยาในคน เหตุนี้บริษัทจึงตัดสินใจทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท เพื่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในนาม Vet Products Research and Innovation Center (VRI) ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย (อวท.) ปทุมธานี

ทั้งนี้ การตัดสินใจเลือกตั้ง R&D Center ที่นี่เพราะประเด็นแรก ต้องการให้ทีมวิจัยของบริษัทฯ ได้ทำงานใกล้ชิดกับนักวิจัยของ สวทช.ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ประเด็นที่ 2 คือ อวท.มีอาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 (INC 2) ซึ่งเป็นอาคารที่ทันสมัยออกแบบมาเพื่อทำวิจัยพัฒนาโดยเฉพาะ มีโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการจัดการในด้านต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานวิจัยที่ครบครัน ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ไปได้มาก ประเด็นสุดท้าย คือ เรามีเพื่อนบ้านอีกกว่า 70 บริษัท ที่เข้ามาตั้งศูนย์วิจัยในนี้ซึ่งมีหลายบริษัทที่น่าสนใจและคิดว่าในอนาคตน่าจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน

“สำหรับแผนงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต ทางศูนย์วิจัย VRI กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำงานวิจัยร่วมกับไบโอเทค สวทช.ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ เพื่อช่วยลดภาวะการดื้อยาในคนที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน และไม่ใช่แต่การทำงานวิจัยกับทาง สวทช. เท่านั้น ศูนย์วิจัย VRI ยังมีการร่วมมือกับ สถาบันศึกษาชั้นนำต่างๆ เพื่อผลักดันการวิจัยและนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ให้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ภายใต้งานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีการร่วมมือกับสถาบันชั้นนำนั้น ทางศูนย์วิจัย VRI ได้ตั้งเป้าหมายในการเติบโตของธุรกิจทางด้านเวชภัณฑ์สัตว์ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 15% ของส่วนแบ่งทางการตลาด โดยปัจจุบันส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศทางด้านธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์ มีมูลค่าอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท” นายสัตวแพทย์ธานินทร์กล่าว

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช.ให้การสนับสนุนภาคเอกชนให้มีการทำวิจัยและให้คำปรึกษาแนะนำทั้งด้านการวิเคราะห์ ทดสอบ และอื่นๆ เช่น ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ นอกจากนี้ส่วนของอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ยังส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชน ในการสร้างความสามารถด้านการแข่งขัน และก้าวทันกระแสของการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เสริมสร้างระบบนวัตกรรมของประเทศ โดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างภาคการศึกษาและวิจัย กับภาคการผลิต รวมทั้งความเชื่อมโยงระหว่างภาคการผลิตด้วยกันเอง ทั้งนี้ ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และแก้ไขจุดอ่อนที่เป็นอยู่

“สำหรับการร่วมงานกับเครือเวทโปรดักส์ ถือเป็นเป้าหมายหนึ่งของนโยบายในส่วนของคลัสเตอร์อาหาร อันจะนำไปสู่การสร้างและผลักดันผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์และนำไปใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์และผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ “ประเทศไทย 4.0” และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้สูงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะสามารถหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้” ผู้อำนวยการ สวทช.กล่าว

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น