xs
xsm
sm
md
lg

“LAZGAM” ผู้ปลุกกระแสเกมยิง Laser Tag เมืองไทย เปิดฉากรุกคู่แข่งด้วยระบบแฟรนไชส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี หุ้นส่วนคนไทย (กลาง)
“เลซเกม” (LAZGAM) การนำเกมการยิงต่อสู้ด้วยปืนเลเซอร์ (Laser Tag) มาปลุกกระแสนักเล่นเกมเมืองไทยในสนามแข่งขันจริงที่ถูกเนรมิตให้เสมือนกับสนามแห่งการต่อสู้ของนักรบ และการเปิดตัว เลซเกม ในประเทศไทย เกิดจากสองหนุ่มจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้แก่ “มร.เซบาสเตียน อาแบด” ประธานบริหาร และ “มร.เบนจามิน เจอรริกซ์” หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ผู้มาสร้างตำนาน Laser Tag เมืองไทย
เหล่าเซเลบ และนักแสดง ต่างๆให้ความสนใจกับกิจกรรมใหม่ตัวนี้กันเป็นจำนวนมาก
มร.เบนจามินกล่าวว่า ที่มาของ เลซเกม (LAZGAM) ในครั้งนี้มาจากตนเองชื่นชอบ และพอมาอยู่เมืองไทยหาเลเซอร์เกมเล่นไม่ได้ ก็เลยเกิดไอเดียว่า ถ้าเมืองไทยไม่เคยมีมาก่อน ทำไมเราไม่ลองเปิด Laser Tag ในเมืองไทย หลังจากได้ไอเดียว่าจะเปิด Laser Tag ก็ชวนเพื่อน มร.เซบาสเตียน อาแบด มาร่วมธุรกิจ โดยเราสองคนก็เริ่มศึกษาตลาด และเทคนิคต่างๆ ของการเปิด Laser Tag ในเมืองไทย ซึ่งคาดหวังที่จะทำ LAZGAM ให้เป็นแบรนด์สุดยอดเกมการต่อสู้ด้วยเลเซอร์แห่งแรกในประเทศไทย

หลังจากลงตัวเรื่องความคิด และอุปกรณ์ ก็เลือกสถานที่ ลงตัวที่โรงแรม "ฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท" (ซอยสุขุมวิท 22) เพราะเป็นแหล่งใจกลางย่านธุรกิจการค้า ภายใต้แบรนด์ ชื่อ "LAZGAM Laser Games" หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อต้นปี 2559 ใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น สามารถปลุกกระแสคนไทยที่เป็นคอเกมเข้ามาใช้บริการเกินกว่าเป้าที่ผมคาดหวังไว้ถึง 2 เท่าตัว วันนี้ผ่านไป 1 ปี มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากกว่า 70,000 ราย มีการซื้อเกมมากกว่า 140,000 เกม และวันนี้ LAZGAM กลายเป็นแหล่งบันเทิงของเหล่าเซเลเบริตี เน็ตไอดอล และผู้ที่มีชื่อเสียงในแวดวงออนไลน์

ด้วยเหตุที่การเข้ามาของคนดังต่างๆ จึงเป็นที่มาในการเข้าถือหุ้นของนักธุรกิจหนุ่มทายาท “กร ทัพพะรังสี” อดีตนักการเมืองชื่อดัง “ก้อง-กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี” เข้ามาขอร่วมเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ LAZGAM สร้างความแข็งแรงให้กับแบรนด์ LAZGAME ที่พร้อมกับการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยเกมรุกเพื่อสู้กับคู่แข่งที่เริ่มทยอยเปิดให้บริการ เพียงแค่ 1 ปีได้เห็นธุรกิจ Laser Game ในเมืองไทยอีก 6 รายเปิดอยู่ในพื้นที่ต่างๆ

มร.เบนจามินกล่าวต่อว่า แม้จะรู้สึกว่ามีคู่แข่งเพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่กังวลเท่าไร เพราะคู่แข่งเหล่านี้เดิมก็เคยเป็นลูกค้าของเรา และก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไรที่เขาเห็นว่า กิจการของเราดีก็ต้องการจะเปิดบ้าง แต่จุดแข็งของเราคือ อุปกรณ์ และความทันสมัย ซึ่งลูกค้าที่เคยไปใช้บริการกับคู่แข่งก็จะมาบอกกับเราว่า ไปเล่นที่อื่นไม่เหมือนกับมาเล่นกับเรา ซึ่งอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในครั้งนี้ ทางผม และ มร.เซบาสเตียนได้เดินทางไปดูเองที่บริษัทผู้ผลิต และได้เลือกใช้อุปกรณ์อย่างเป็นทางการหนึ่งเดียวของ Lasermaxx ซึ่งอุปกรณ์เลเซอร์แม็กซ์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นระบบเลเซอร์แท็กที่ดีที่สุดในโลก
เปิดให้สื่อมวลชน ได้ทดลองเล่น
เราสองคนริเริ่มธุรกิจ LAZGAM จากความชื่นชอบส่วนตัวและความฝันของเราสองคน ผมชอบอ่านหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีอย่างมาก และเบนจามินก็หลงใหลการเล่นเกมคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจ ถึงกระนั้นเราก็มีความตั้งใจให้การเล่นเลเซอร์เกมไม่ได้ให้เพียงความสนุกสนานเท่านั้น แต่คือการสร้างความสามัคคีในกลุ่มผู้เล่นทุกคนให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ต้องอาศัยความเป็นทีมเวิร์กจึงจะสามารถคว้าชัยชนะให้กับทีมได้ ที่ LAZGAM เราใช้อุปกรณ์เลเซอร์เกมที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุด ดังนั้น การเล่นเลเซอร์เกมจึงเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กอายุ 7 ขวบ ไปจนถึงผู้ใหญ่วัย 77 ปี อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่จะช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว นักเรียน นักศึกษา คนทำงานหรือผู้สูงวัย และที่ผ่านมา เรายังได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรมาจัดสัมมนา และทำกิจกรรมร่วมกันที่ LAZGAM เพราะเราไม่ได้มีเพียงพื้นที่สำหรับเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังจัดพื้นที่เพื่อจัดปาร์ตี้ มีค็อกเทลไว้บริการ และในบางวันยังมีการจัดคอนเสิร์ตเล็กๆ ดังนั้นกลุ่มองค์กรธุรกิจจึงสนใจ และมาใช้ LAZGAM เป็นพื้นที่ในการสัมมนา จัดกิจกรรม อีเวนต์ รวมถึงการเปิดตัวสินค้า โดยที่ผ่านมาเรามีกลุ่มองค์กรธุรกิจเข้ามาใช้บริการกับเราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” เซบาสเตียนกล่าว
มร. เซบาสเตียน อาแบด” ประธานบริหาร (ซ้าย) และ “มร. เบนจามิน เจอรริกซ์” หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ (ขวา)
มร.เซบาสเตียนกล่าวต่อว่า จากการที่ประสบความสำเร็จกับ LAZGAM แห่งแรกที่ฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท มีแผนในการขยายธุรกิจของเราออกไปยังจุดอื่นๆ เพื่อรองรับความต้องการของคนไทยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเร็วๆ นี้มีกำหนดเปิดอีก 2 สาขาที่เมเจอร์ รัชโยธิน และเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา ในเดือนมีนาคมและเมษายน 2560 ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำแห่งเลเซอร์เกมของเอเชีย และในประเทศไทย จึงมีแผนการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ LAZGAM โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายสาขา LAZGAM ในเมืองไทย จำนวน 10-12 สาขา ซึ่งเน้นไปที่จังหวัดที่เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจการค้าของประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ สมุย ภูเก็ต โคราช ขอนแก่น และหัวหิน โดยล่าสุดมีแผนที่จะเปิดที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ ในส่วนของการเข้าร่วมแฟรนไชส์ของแฟรนไชซีมีข้อตกลงร่วมกัน ดังนี้ ประการแรก ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะจ่ายค่าแฟรนไชส์ วงเงิน 2 ล้านบาท สิ่งที่จะได้รับคือ แบรนด์ LAZGAM คำปรึกษาตลอดอายุสัญญา 10 ปี การทำแผนการตลาด และประชาสัมพันธ์ร่วมกัน ซึ่งรูปแบบของธุรกิจ ทางเจ้าของแฟรนไชส์ จะเป็นผู้ออกแบบระบบ เพื่อจะได้รูปแบบของธุรกิจที่ออกมาในทิศทางเดียวกัน และที่สำคัญคือ ทำเล เป็นหัวใจสำคัญ ทางเจ้าของแฟรนไชส์ขอเป็นผู้เสนอทำเลให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ แต่ก็ไม่ได้บังคับ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ขอเลือกที่ตั้งเพื่อให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จไปพร้อมกับเราด้วย
เด็กๆ ก็เล่นได้เช่นกัน
ส่วนเงินลงทุนในการทำธุรกิจ LAZGAM ในครั้งนี้ ทางเจ้าของแฟรนไชส์ “มร.เซบาสเตียน” ตั้งไว้ที่ 15-20 ล้านบาท ส่วนโอกาสคืนทุนตั้งไว้ 2 ปี ถึง 2.5 ปี แต่เมื่อถามถึงสาขาแรกที่โรงแรมฮอลิเดย์อิน มร.เซบาสเตียนบอกกับเราว่า เราคืนทุนได้เร็วกว่านั้น เพราะด้วยทำเล และเราเป็นรายแรก มีสื่อทีวี หนังสือ และเว็บไซต์ โดยเฉพาะรายการโทรทัศน์ มาถ่ายทำที่ LAZGAM ของเราบ่อยมาก และเซเลบคนดังต่างๆ ช่วยประชาสัมพันธ์ ทำให้ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้าแฟรนไชส์เราจึงไม่กล้าการันตีว่าจะทำได้ จึงได้ตั้งโอกาสคืนทุนไว้ถึง 2 ปี

เลซเกม เลเซอร์เกมส์ (LAZGAM Laser Games) ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-02.00 น. ค่าบริการเกมปกติราคาเกมละ 350 บาท/คน/15 นาที เกมถัดไปในวันเดียวกันราคาเกมละ 300 บาท/คน/15 นาที สำหรับเล่นเป็นกลุ่มตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ราคาเกมละ 320 บาท/คน/15 นาที เกมถัดไปคิดราคาเกมละ 280 บาท/คน/15 นาที

สนใจโทร. 09-6245-9796

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น