“ก.พาณิชย์” ประสานหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน และสถาบันการเงิน กำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ครอบคลุมทั้งส่วนประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจ เช่น ส่งสินค้าระดับประหยัดบรรเทาผลกระทบ พักหนี้ให้สินเชื่อฟื้นฟู ผ่อนผันการยื่นจดทะเบียนของนิติบุคคล
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประสานหน่วยงานพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อหามาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ให้ครอบคลุมทั้งภาคประชาชน และภาคธุรกิจ พร้อมทั้งร่วมมือกับสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทยช่วยเหลือผู้ประกอบการโชวห่วยในพื้นที่ทั้งรายเล็กรายใหญ่อย่างเต็มที่ เนื่องจากร้านโชวห่วยมีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เป็นแหล่งกระจายสินค้าสู่ชุมชน
ทั้งนี้ จากที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประชุมหารือหน่วยงานต่างๆ เช่น สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย บริษัท ซี.พี.คอนซูเมอร์โปรดักส์ จำกัด, บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด รวมทั้งสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารทหารไทย ที่ประชุมได้สรุปมาตรการการช่วยเหลือเยียวยาทั้งในส่วนของภาคประชาชนภาคธุรกิจ และธุรกิจโชวห่วย ดังนี้
ด้านมาตรการการช่วยเหลือภาคประชาชน กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ผลิต และผู้แทนจำหน่ายจะส่งสินค้าราคาพิเศษสู่มือประชาชนที่ได้รับผลกระทบฯ ผ่านร้านค้าส่งค้าปลีกที่กระทรวงพาณิชย์ให้การส่งเสริมในพื้นที่ภาคใต้
ส่วนมาตรการการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ทางกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสถาบันการเงิน เน้นความช่วยเหลือด้านการเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจผ่านมาตรการของธนาคารพันธมิตร ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระเงิน ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และอนุมัติวงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
- ธนาคารกสิกรไทย พักชำระเงินต้น 12 เดือน ลดยอดและขยายเวลาผ่อนชำระ
- ธนาคารทหารไทย พักชำระดอกเบี้ย 6 เดือน หรือพักชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 3 เดือน
- เอสเอ็มอีแบงก์ อนุมัติวงเงินสูงสุด 500,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ยไม่เกิน MLR ระยะเวลาชำระ 5 ปี เพื่อใช้ในการปรับปรุง ฟื้นฟู และหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจมาตรการการช่วยเหลือธุรกิจโชวห่วย
อีกทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะจัดทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือในการจัดร้านค้าและปรับภาพลักษณ์ร้านโชวห่วยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยภาคใต้ โดยมีเป้าหมาย 200 ร้านค้า
รวมถึงเจรจาให้ซัปพลายเออร์ เช่น บริษัท ซี.พี.คอนซูเมอร์โพรดักส์ จำกัด, บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ขยายเวลาชำระหนี้ค่าสินค้าจากปกติ 30-45 วัน เป็น 75-90 วัน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ และรับเก็บคืนสินค้าที่เสียหายจากน้ำท่วม
นอกจากนี้ ได้ออกมาตรการบรรเทาความเดือนร้อนผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยใน 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้ง จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดังนี้
- ผ่อนผันการแจ้งบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย ซึ่งตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 กำหนดให้แจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือควรทราบถึงการสูญหายหรือเสียหาย ให้สามารถยื่นล่าช้าและสามารถใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจบัญชีได้ ทั้งนี้ ธุรกิจสามารถแจ้งบัญชีและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหาย ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Permit) ได้ทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th
- ผ่อนผันการยื่นงบการเงินประจำปีของธุรกิจที่มีหน้าที่ต้องยื่นในช่วงที่เกิดอุทกภัยระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 - 28 กุมภาพันธ์ 2560 ให้สามารถยื่นล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดได้
- ผ่อนผันการยื่นจดทะเบียนของนิติบุคคลที่ต้องยื่นจดทะเบียนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดในช่วงระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2559 - 28 กุมภาพันธ์ 2560 ให้สามารถยื่นล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดได้
- จัดตั้งศูนย์บริการรับจดทะเบียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ใน 14 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง ชั้น 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ
ทั้งนี้ ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ทั้งในส่วนของประชาชน ภาคธุรกิจ และธุรกิจโชวห่วย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการการช่วยเหลือฯ ได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-5986 หรือสายด่วน 1570
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *