xs
xsm
sm
md
lg

Barrel Workshop โคมไฟไม้มีดีไซน์ โชว์เก๋ด้วยหลอดไฟเอดิสัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ด้วยความหลงใหลในงานไม้ โดยเฉพาะลวดลายของเนื้อไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบกับธุรกิจครอบครัวเป็นผู้ผลิตตู้อบเซานา (Sauna) มานาน ดังนั้นเมื่อเด็กหนุ่มจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากประเทศอังกฤษ ขอปั้นธุรกิจด้วยตัวเอง กับโคมไฟไม้ โชว์ความต่างด้วยหลอดไฟเอดิสันกับลายเส้นแสงไฟแปลกตา แบรนด์ Barrel Workshop
ณัฐภัค ยอดจรัส หรือ ยอด เจ้าของธุรกิจ Barrel Workshop
โคมไฟตั้งโต๊ะรูปแบบต่างๆ
โคมไฟรุ่น Love to Read
แม้ “ณัฐภัค ยอดจรัส หรือยอด” จะเติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจผู้ผลิตและผู้ส่งออกตู้อบเซานา ที่ชื่อว่า เซานา เวล (Saunawell) มานานกว่า 18 ปี ซึ่งเขาสามารถสานต่อธุรกิจนี้ได้สบาย แต่กลับเลือกทำในสิ่งที่ชอบ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ขึ้นเองกับโคมไฟไม้สนนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ ชูจุดขายด้วยหลอดไฟเอดิสันที่มีลวดลายของไส้หลอดอันเป็นเอกลักษณ์
รุ่น Hanging Tree
รุ่น The Beatles ตั้งไว้หัวนอนก็ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ
“งานไม้เป็นสิ่งที่เราชอบด้วยลวดลายของเนื้อไม้ และเราก็เติบโตมากับงานไม้คือตู้อบเซานาของคุณพ่อที่ผลิตมานาน ทำให้คิดว่าหากจะออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองขึ้นมาสักชิ้นหนึ่งต้องมีไม้เป็นส่วนประกอบ กระทั่งไปเจอหลอดไฟเอดิสันไส้สวย ที่เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยหลอดไฟชนิดนี้ส่วนใหญ่จะถูกนำมาทำเป็นโคมไฟแขวน ยังไม่มีแบบตั้งโต๊ะ จึงลองออกแบบโคมไฟไม้แบบตั้งโต๊ะ อาศัยช่างจากโรงงานของครอบครัวเป็นผู้ขึ้นสินค้าต้นแบบให้จากการออกแบบของเราเอง”
ออกแบบเป็นที่วางนามบัตร
มุมโชว์ของและโคมไฟ
'Barrel Workshop' แบรนด์โคมไฟไม้ ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกในชีวิตของณัฐภัค เขาบอกว่า เมื่อเห็นหลอดไฟเอดิสันก็รู้สึกว่าเข้ากับงานไม้ได้เป็นอย่างดี ให้อารมณ์ความรู้สึกที่อบอุ่น เหมาะกับการนำทั้งสองสิ่งนี้มาผนวกเข้าไว้ด้วยกัน เน้นการออกแบบที่ทันสมัยแต่เรียบง่าย เลือกใช้ไม้สนอายุ 30 ปีขึ้นไป นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ มาเป็นวัตถุดิบหลัก เนื่องจากเป็นไม้เนื้อขาวเห็นตาไม้ชัดเจน
นาฬิกาข้อมือในกล่องไม้
โต๊ะทำงานถูกตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ของ Barrel Workshop
เมื่อได้ชิ้นงานออกมาเป็นที่น่าพอใจเขาเริ่มใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อกลางเชื่อมลูกค้า และทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะเขาใช้ความรู้ที่เรียนมาในระดับปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์มาปรับใช้ เริ่มจากการทำเพจในเฟซบุ๊ก และทำเว็บไซต์ไปพร้อมๆ กัน ใช้เวลาเพียง 1 เดือนทุกอย่างก็ลงตัว สินค้าได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะลูกค้าจากต่างประเทศที่สนใจงานไม้ และงานแฮนด์เมดเป็นทุนเดิม จากการนำสินค้าไปโพสต์ขายในเว็บไซต์อะเมซอน (Amazon) ของสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ รวมถึงเมื่อไม่นานมานี้ได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายในสิงคโปร์ คาดว่าในปี 60 จะส่งไปจำหน่ายที่ฮ่องกง และเกาหลีใต้ได้
รุ่น Box Space ขายดี
รุ่น Love to Read
ความน่าสนใจของโคมไฟ Barrel Workshop อยู่ที่ความละเอียดฝีมือการผลิตที่ส่วนใหญ่เป็นงานแฮนด์เมด รวมถึงการออกแบบที่เราพยายามลดความรุงรังของสายไฟให้มากที่สุด ด้วยการซ่อนสายไฟไว้ในเนื้อไม้ เช่น หากหลอดไฟอยู่ด้านบน ก็จะนำสายไฟซ่อนไว้ในตัวผลิตภัณฑ์เพื่อให้สายไฟมาอยู่ด้านล่าง ซึ่งความละเอียดในทุกขั้นตอนนี้ทำให้ราคาค่อนข้างสูงสำหรับคนไทย คือ เริ่มต้นที่ 1,490 บาท ขณะที่ชาวต่างชาตินั้นเป็นราคาที่แข่งขันได้ หรืออาจจะถูกกว่าในหลายประเทศที่เลือกใช้วัสดุใกล้เคียงกัน ทำให้ที่ผ่านมาสัดส่วนการเติบโตในตลาดต่างประเทศจะสูงกว่าในไทย”
รุ่น Wood House
รุ่น The Beatles
ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะเน้นการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะทำงานใช้งานได้จริง จากเดิมเป็นเพียงสินค้าตกแต่งบ้านเพื่อการโชว์เท่านั้น โดยปัจจุบันมีประมาณ 7-8 แบบให้เลือกสรร ซึ่งล้วนทดลองตลาดมาแล้วว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชื่นชอบ รวมถึงยังคำนึงถึงการออกแบบให้ดูสวยงาม และใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกตัวจะปรับความสว่างได้ (Dimmer) เพื่อความเหมาะสมในสถานที่ต่างๆ ที่นำไปวางตั้งโชว์ และมีช่องเสียบสาย USB เพื่อการใช้งานกับวิถีชีวิตผู้คนในปัจจุบัน

ตกแต่งบ้านให้เก๋ไปอีกแบบ
โดยสินค้าขายดีที่สุดจะเป็นรุ่น 'เอดิสัน บ็อกซ์' (Adison Box) ราคา 1,890 บาท, 'วู้ดเฮ้าส์' (Wood House) ราคา 2,290 บาท และ 'เลิฟ ทู รี้ด' (Love to Read) ราคา 1,690 บาท ขณะที่อายุการใช้งานของหลอดไฟเอดิสันหากเปิดแสงสว่างเต็มที่จะใช้งานได้ประมาณ 4,000 ชั่วโมง หรือ 5,000-6,000 ชั่วโมงหากเปิดใช้งานทุกวัน และเมื่อหลอดเสียก็สามารถซื้อได้จาก Barrel Workshop ราคาไม่เกิน 100 บาท/หลอด
ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยการซ้อนสายไฟด้านบนให้มาโผล่ด้านล่าง

อนาคตเขาเตรียมแตกไลน์ผลิตภัณฑ์งานไม้ที่หลากหลาย เช่น แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือ นาฬิกา แฟลชไดรฟ์ ซึ่งอาจเป็นงานไม้ไผ่ ไม้วอลนัท ไม้เมเปิล หรืออื่นๆ ที่มีสีเข้มขึ้น หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้า แต่ยังคงเน้นช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์เป็นหลัก เพราะเชื่อว่าโลกดิจิตอลยังเติบโตได้อีกมาก ซึ่งถือเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้ประกอบการ SMEs ไม่ควรมองข้าม หรือทำให้เป็นช่องทางจำหน่ายหลักก็ย่อมได้

หมดปัญหาสายไฟรกรุงรัง

***สนใจติดต่อ 08-4321-1232 หรือที่ www.barrlelworkshop.com, Facebook: barrel_workshop, Line id: @barrel_workshop***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น