ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ฉะนั้นคิดอะไรต้องแตกต่าง อย่างการนำผลไม้มาแปรรูปเป็นน้ำพริกเพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ของน้องแอม เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำพริกผลไม้ “แอมแซ่บ” เลือกลำไยผลไม้พื้นถิ่นใกล้ตัวสร้างโอกาสธุรกิจ และวันนี้เธอเลือกใช้ผลไม้อีก 4 ชนิด บุกตลาด
ทิวาพร ศิริ เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำพริกผลไม้ แบรนด์ “แอมแซ่บ” ย้อนที่มาไอเดียธุรกิจนี้ให้ฟังว่า ที่ผ่านมาธุรกิจของครอบครัว ใน จ.ลำพูน เป็นผู้ผลิตแคปหมู น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกข่า และน้ำพริกทั่วไปจำหน่ายอยู่นานหลายปี แต่เมื่อเธอต้องการจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองสักหนึ่งอย่าง กลับมองว่าหากต่อยอดธุรกิจของครอบครัวในส่วนของแคปหมู คงจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากอายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น จึงกลับมามองในส่วนของน้ำพริกที่เก็บได้นานกว่า ซึ่งเธอเชื่อว่าหากรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เก็บได้นานเท่าไร โอกาสจะทำให้ผลิตภัณฑ์เดินทางไปได้ไกลก็มีมากเท่านั้น
“เรามองว่าในส่วนของแคปหมู และน้ำพริกหนุ่ม แม้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย แต่ต่อยอดยาก และอายุสั้น จึงมองไปที่น้ำพริก ซึ่งถ้าเป็นน้ำพริกที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ผู้คนจะรับประทานน้อยกว่าผลไม้ และลำไยก็เป็นของใกล้ตัว เป็นผลไม้ขึ้นชื่อใน จ.ลำพูนมีเป็นจำนวนมาก เราจึงลองแปรรูปเป็นน้ำพริกผลไม้แบบแห้ง ใช้สำหรับโรยข้าว คล้ายอาหารญี่ปุ่น”
ตลอดระยะเวลา 6เดือนเศษน้ำพริกผลไม้ลำไยก็เริ่มทดลองตลาด ภายใต้แบรนด์ “แอมแซ่บ” บรรจุกระป๋องขนาดเล็ก มีการสอบถามความพึงพอใจของลูกค้าโดยตลอด เพื่อนำไปปรับปรุงรสชาติและลงตัวอย่างในปัจจุบัน อาศัยหน้าบ้านเป็นหน้าร้านแห่งแรก จากนั้นได้นำน้ำพริกลำไยเข้าร่วมโครงการของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) หวังทำให้ 'น้ำพริกไม่เป็นเพียงแค่น้ำพริก' ต้องการปรับโฉมใหม่ไม่ให้ดูแก่ มีความโดดเด่น และสามารถดึงรสชาติผลไม้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำพริกที่ใครต้องทึ่ง! ในความแปลกใหม่กับรสชาติไม่ซ้ำใคร
ดังนั้นน้ำพริกผลไม้ แอมแซ่บ ตัวอื่นๆ จึงเกิดตามมา ได้แก่ น้ำพริกแอปเปิ้ล สับปะรด ลิ้นจี่ และมะม่วง เบื้องต้นเน้นหยิบจับผลไม้ของภาคเหนือมาแปรรูปก่อน ชูความโดดเด่นในเรื่องกลิ่นผลไม้ชนิดนั้นๆ ออกมาอย่างชัดเจน ทำให้น้ำพริกทุกรสชาติได้รับความนิยมพอๆ กัน ขณะที่รูปลักษณ์ของน้ำพริกผลไม้ แอมแซ่บ จะเป็นลักษณะผง รสกลมกล่อม พร้อมกลิ่นผลไม้ สามารถรับประทานได้กับทุกเมนูตามต้องการ
โดยมีจำหน่ายที่บ้านเลขที่ 29/1 ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน พร้อมขายในช่องทางออนไลน์เฟซบุก Amzap และในเร็วๆ นี้อาจจะเห็นวางจำหน่ายที่ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งขายในราคากระปุกละ 89 บาท ฟรีค่าส่งหากสั่งตั้งแต่ 3 กระปุกขึ้นไป ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนวัยทำงานอายุตั้งแต่ 25-35 ปี เนื่องจากคนเหล่านี้ชอบทดลองของใหม่เป็นทุนเดิม ทำให้น้ำพริกผลไม้แอมแซ่บ เข้าไปนั่งในใจของคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก
“การที่ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถทำให้คนรุ่นใหม่ชื่นชอบได้นั้น น่าจะเป็นเพราะวัยที่ใกล้เคียงกัน ทำให้รู้ถึงความชอบและพฤติกรรมผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งปกติเราก็ไม่ค่อยชอบรับประทานน้ำพริกปลาย่าง พริกเผา หรือน้ำพริกทั่วไปที่หลายคนคุ้นเคย เพราะแค่นึก ก็รับรู้ถึงรสชาติได้แล้ว ดังนั้นเมื่อเราทำเป็นน้ำพริกผลไม้ เป็นผงโรยข้าวก็โดนใจคนกลุ่มนี้ทันที ส่งผลยอดขายดีเกินคาด จากการเปิดตัวได้เกือบ 2 เดือน รายได้ก็เข้าสู่หลักแสนบาทไปแล้ว”
ต่อไปน้องแอม มองตลาดส่งออก หลังได้มาตรฐาน อย., GMP และ Codex เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเธอมองไปที่ชาวมุสลิมที่มีเป็นจำนวนมาก อย่าง ประเทศอินโดนีเซีย เพราะชาวอินโดฯ ชอบรับประทานน้ำพริก แต่ต้องไม่เผ็ดมาก รสชาติต้องกลางๆ ซึ่งน้ำพริกผลไม้แอมแซ่บ ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เธอ ยังเห็นโอกาสเติบโตในประเทศสิงคโปร์ ที่มีชาวมุสลิมจำนวนมากเช่นกัน รวมถึงคนรักสุขภาพ โดยจะหาตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ เพื่อกระจายสินค้าให้ ขณะที่ประเทศจีน ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี แต่อาจจะต้องปรับลดเรื่องความเผ็ดลง เพราะชาวจีนไม่รับประทานอาหารเผ็ดเลย
ถือเป็นอีกหนึ่งสตาร์ท อัพ ที่สามารถนำนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงในผลิตภัณฑ์ ก่อเกิดเป็นธุรกิจใหม่ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ไทยเป็นอย่างดี เพียงเพราะเห็นช่องว่างสินค้าพื้นถิ่นอย่างน้ำพริกที่คุ้นเคย
***สนใจติดต่อ 29/1 ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน 51150 โทร.09-8782-6528 หรือที่ Facebook: Amzap และ Line ID: Am-Tivaporn***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
