xs
xsm
sm
md
lg

บสย.ตั้งเป้าค้ำกู้ SMEs ปี 60 แสนล้าน ขยายฐาน Non Bank ดึงโมเดล “เกาหลี-ญี่ปุ่น” ช่วยอุ้มถึงแหล่งทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)
บสย. เผยผลงานปี 59 ยอดค้ำสินเชื่อเอสเอ็มอีกว่า 86,000 ลบ. ระบุปี 60 เดินหน้า 3 เครื่องมือ อุ้มทุกกลุ่ม ตั้งเป้า ยอดแตะแสนล้าน พร้อมขยายฐานสู่ Non Bank และนำโมเดลเกาหลี-ญี่ปุ่นมาปรับใช้ หนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น พร้อม เสริมสร้างความรู้ทางการเงิน

นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน บสย. นับถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ขณะนี้มียอดค้ำประกันสินเชื่อรวม 84,519 ล้านบาท และมีการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อใหม่ และมีการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อใหม่ จำนวน 51,115 ราย โดยมี 7 กลุ่มธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ขอสินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งเชื่อว่านับถึงสิ้นปีนี้ (2559) ยอดค้ำจะถึง 86,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับการค้ำประกันสินเชื่อ ประมาณ 56,000 ราย

ส่วนแผนงานของ บสย.ในปี 2560 ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ ยุทธศาสตร์ การขยายฐานลูกค้าผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ทุกกลุ่ม เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุน โดยให้ความสำคัญกับเอสเอ็มอี รายย่อย โดย บสย.มีเครื่องมือสำคัญในการค้ำประกันสินเชื่อให้เอสเอ็มอี ได้แก่ โครงการค้ำประกันสำหรับธุรกิจกลุ่มรายย่อย (ไมโคร) โครงการค้ำประกันสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรม และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (โครงการ PGS6) ได้การสนับสนุนจาก จำนวน 100,000 ล้านบาท เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า จาก 3 เครื่องมือดังกล่าว ในปี 2560 ตั้งเป้าสูงสุดจะตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีได้ถึง 100,000 ล้านบาท หรืออย่างน้อย 86,000 ล้านบาท และจำนวนลูกค้าใหม่เข้าถึงสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 54,000 ราย

นอกจากนั้น บสย.คิดหาโมเดลใหม่ๆ ในการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะการค้ำสินเชื่อให้แก่ Non Bank ซึ่งเวลานี้ ได้ดำเนินการแก้กฎหมายต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จะคาดว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรีได้ในเดือนมีนาคม 2560 หากผ่านการอนุมัติจะช่วยให้สามารถขยายโอกาสการค้ำสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยๆ ที่มีกว่า 1.1 ล้านราย มูลค่ากว่า 1.1 ล้านล้านบาท

นายนิธิศ กล่าวต่อว่า บสย.ยังคิดหานวัตกรรมใหม่เพื่อสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยจะนำระบบของเกาหลีมาใช้ ที่เรียกว่า korean technology rating system (KTRS) ซึ่งจะเป็นการวัดความเป็นไปได้ของธุรกิจเชิงนวัตกรรม เพื่อส่งให้สถาบันการเงินต่างๆ ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ช่วยให้กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพหรือนวัตกรรมมีเกณฑ์การวัดผล ช่วยสนับสนุนต่อการได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้น

รวมถึง นำระบบของญี่ปุ่น คือ “credit rating data” (CRD) ซึ่งจะเป็นระบบประมวลข้อมูลต่างๆ ของเอสเอ็มอีแต่ละรายในทุกด้าน เพื่อจัดลำดับว่าเอสเอ็มอีรายนั้นๆ อยู่ระดับใด ซึ่งจะช่วยให้สถาบันการเงินต่างๆ มีความเชื่อมั่นในการอนุมัติสินเชื่อมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น บสย. ยังมียุทธศาสตร์การสนับสนุนด้านความรู้ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (Financial Literacy)ในรูปแบบของการให้ความรู้และความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ตั้งเป้าจำนวน เอสเอ็มอี เข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้ 8,000 ราย และยุทธศาสตร์การวางระบบบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ทั้งในส่วนการตามหนี้ และเก็บหนี้

“ทิศทางการดำเนินงาน ยังมุ่งเน้นขับเคลื่อนโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ และโครงการความร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรอย่างรวดเร็ว ตลอดจนปรับปรุงกระบวนการทำงานภายใน การลงทุนพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อรองรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี มากขึ้น” นายนิธิศ กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแผนกระตุ้นการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนวิสาหกิจ ปี 2560 ภายใต้กลยุทธ์เชิงรุกครบทุกมิติ ทั้งส่วนกิจการสาขา การตลาด พร้อมปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และสอดรับความต้องการของผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และธนาคารพันธมิตร โดยมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง บสย. ธนาคาร และหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจระหว่างกัน

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น