ขึ้นชื่อว่า "ถั่วแระญี่ปุ่น" หลายคนคงคิดว่าต้องนำเข้ามาจากประเทศต้นกำเนิดอย่างแน่นอน แต่แท้จริงแล้ว คนไทยปลูกและส่งออกไปยังแดนปลาดิบมานานกว่า 20 ปี! จากความพร้อมในเรื่องของภูมิอากาศ และสภาพดินที่อุดมสมบูรณ์ทางตอนเหนือของไทย ทำให้ "บริษัท ลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด" แจ้งเกิดในฐานะผู้ส่งออกถั่วแระญี่ปุ่น สัญชาติไทยได้อย่างงดงาม
ถั่วแระญี่ปุ่น แบรนด์ มินนะมาเมะ (MINNAMAME - みんなまめ) เป็นผลิตภัณฑ์ที่เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่สำหรับการส่งออกถั่วระญี่ปุ่นแบบแช่แข็งของ "บริษัท ลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด" มีมานานกว่า 23 ปี โดยวางตำแหน่งเป็นผู้ส่งออกถั่วแระญี่ปุ่นเกือบ 100% ไปยังประเทศญี่ปุ่น อเมริกา ประเทศในแถบยุโรป บราซิล สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา สปป.ลาว และประเทศในตะวันออกกลาง หลังทั่วโลกเห็นคุณประโยชน์จากโปรตีนสีเขียวเม็ดเล็กชนิดนี้
แต่กว่าบริษัทฯ จะเติบโตและได้รับความไว้วางใจในเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะจากลูกค้าญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่เข้มงวดในเรื่องคุณภาพของอาหารมากที่สุดประเทศหนึ่ง ก็ต้องผ่านการลองผิดลองถูก จนสามารถเฟ้นหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของถั่วแระญี่ปุ่นได้ตามความต้องการของตลาด ซึ่งที่มาของธุรกิจนี้ "กรกช วงศ์วรรณ" รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด เผยว่า เดิมครอบครัววงศ์วรรณ ยึดอาชีพการทำเกษตรมานานกว่า 60 ปี ด้วยการปลูกยาสูบ ในรูปแบบของคอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) เป็นปลูกเพื่อส่งออกใบยาสูบไปทั่วโลก ภายใต้การดูแลคุณภาพของ "นายณรงค์ วงศ์วรรณ"
กระทั่งเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา เห็นตลาดการเติบโตของถั่วแระญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่เชื่อว่าเป็นแหล่งโปรตีนสีเขียวที่รับประทานง่ายที่สุด อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แต่ที่ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงต้องนำเข้าจากประเทศไต้หวันจึงคิดทดลองปลูกในไทยบ้าง โดยเลือกพื้นที่ที่มีอุณภูมิเหมาะสม โดยทดลองอยู่นานประมาณ 2-3 ปี ก็ได้ถั่วแระญี่ปุ่นรสชาติดี ตรงตามมาตรฐานส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 23 ปีแล้วที่บริษัทฯ ได้ปลูกถั่วแระญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ โดยใช้วิธีคอนแทรคฟาร์มมิ่งเช่นเดิม โดยเน้นการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกร ถึงวิธีการปลูกที่ถูกต้อง มีการประกันราคา พร้อมปรับทัศนะของเกษตรกรสำหรับการปลูกที่ยึดมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการใส่ปุ๋ย และใช้สารเคมี เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกว่า 12,000 ไร่ กระจายอยู่ 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน พะเยา และอุทัยธานี มีเกษตรกรที่เข้าร่วมทำคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ประมาณ 2,000 ครอบครัว โดยเกษตรจะมีกำไรจากการปลูกถั่วแระญี่ปุ่นเฉลี่ย 7,000-10,000 บาท/ไร่ (70 วันได้ผลผลิต) ขณะที่ถั่วแระญี่ปุ่นจะชอบอุณหภูมิกลางๆ ไม่ร้อนและหนาวเกินไป ต้องการน้ำเพียง 30% ของการปลูกข้าวเท่านั้น
"ปัจจุบันถั่วแระญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็น Super Food เป็นแหล่งของโปรตีน มีกรดอมิโน และมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่ไขมันต่ำ ไม่มีคอลเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ กระดูกพรุน ลดความดันโลหิต และป้องกันมะเร็ง ซึ่งคนญี่ปุ่น นิยมรับประทานมานานกว่า 100 ปี และสหรัฐฯ ก็เริ่มเป็นที่นิยม เมื่อ 10-15 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มที่นิยมมากขึ้น"
ดังนั้นเมื่อตลาดในไทยถั่วแระญี่ปุ่นมีโอกาสเติบโต ทางบริษัทฯ จึงสร้างแบรนด์ "มินนะมาเมะ" ขึ้น เพื่อให้คนไทยได้รับประทานผักสีเขียวที่มีประโยชน์บ้าง เน้นการรับประทานง่ายเพียงเปิดถุงทิ้งให้น้ำแข็งละลายเล็กน้อยก็รับประทานได้ทันที ซึ่งนอกจากคุณค่าของถั่วแระญี่ปุ่นที่ธรรมชาติมอบให้แล้ว ความโดดเด่นในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ก็ไม่แพ้กัน ที่ดูเรียบหรู แต่น่าหยิบจับมาลิ้มลอง โดยมีการใช้ถั่วแระญี่ปุ่นฝักเขียว โค้งมน มาสร้างรอยยิ้ม บนแพคเกจที่มีพื้นหลังเป็นสีขาวนวล สื่อถึงความจริงใจที่ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้โดยไม่ต้องลังเล และเพื่อให้สอดคล้องกับความหมายของคำว่า มินนะมาเมะ ถอดความได้ว่า 'ถั่วแระของทุกคน'
และเมื่อพลิกไปด้านหลังของแพคเกจ จะพบ QR code ที่เมื่อสแกนจะพบว่าถั่วแระญี่ปุ่นที่ลูกค้ากำลังรับประทานกันอย่างเพลิดเพลินนั้น เกษตรกรผู้ใดเป็นคนปลูก ถิ่นกำเนิดของถั่วแระ รวมถึงยังได้รู้จักครอบครัวของพวกเขาด้วย ซึ่งแนวคิดนี้ คุณกรกช บอกว่า ต้องการให้กระดูกสันหลังของชาติได้มาอยู่เบื้องหน้า หลังจากที่พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์ดิน และรังสรรค์ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพให้คนไทยและทั่วคนทั่วโลกมายาวนาน แต่กลับไม่เป็นที่รู้จัก รวมถึงต้องการสื่อว่าพวกเขารักในอาชีพ และมีความสุขในการส่งมอบผลผลิตคุณภาพแก่ผู้บริโภค
สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 20 บาท สำหรับถุงขนาดเล็ก 120 กรัม และ 55 บาท ขนาด 400 กรัม หาซื้อได้ที่ Gourmet Market, Home Fresh Mart, Food Land, Lawson’s และริมปิงซูเปอร์มาร์เก็ต จ.เชียงใหม่
แผนธุรกิจในอนาคตทางบริษัทฯ เตรียมเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายถั่วแระญี่ปุ่นในไทยให้มากขึ้น รวมถึงประเทศในเออีซี ที่มีอัตราการเติบโตของตลาดประมาณ 10% ต่อปี ซึ่งขณะนี้แหล่งปลูกถั่วแระญี่ปุ่นได้กระจายในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน (มณฑลฟูเจี้ยน) ไต้หวัน (ทางตอนใต้) อินโดนีเซีย ส่งเข้าญี่ปุ่นปีละ 3,000 ตัน เวียดนาม 200-300 ตัน/ปี และสหรัฐฯ ยังปลูกไม่มากนัก ส่วนไทยปลูกได้ 30,000 ตัน/ปี (ติดอันดับ 3 ของโลก)
***สนใจติดต่อ บริษัท ลานนาเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด 106/5 หมู่ 8 ถ.เชียงใหม่-ลำปาง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โทร.0-5342-1389-65 หรือที่ www.lannaagro.com***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
