การทำธุรกิจวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ถ้าไม่มีจุดขาย โอกาสประสบความสำเร็จก็คงยาก แต่สำหรับหนุ่มคนนี้ เขาเลือกที่จะสร้างจุดขายโดยไม่ต้องรอโอกาส และโชค ….
ครั้งนี้เรากำลังพูดถึงผู้ชายชื่อ “อนุพันธุ์ ฆ้องย่ำ” (คุณปุ้ม) เจ้าของร้าน “ปุ้ม... กะเพราวัดใจ ใส่อะไรก็แดกได้” และที่มาของชื่อ กะเพราวัดใจ มาจากคุณปุ้มมีจุดขายอยู่ที่ภาชนะที่ใส่ ซึ่งหลายคนคงไม่มีใครคาดคิดว่าภาชนะแบบนี้มันเอามาเป็นที่ใส่ข้าวผัดกะเพราได้ ซึ่งคุณปุ้มดีไซน์สิ่งที่อยู่รอบตัวมาเป็นภาชนะใส่เมนูของเขาได้ทั้งหมด แม้แต่ที่ตักขยะ และการที่มีภาชนะที่หลากหลายนี้เองจึงได้เป็นที่มาของ กะเพราวัดใจ เพราะทุกครั้งที่สั่งไม่รู้ว่าจะได้ภาชนะอะไร สร้างความรู้สึกให้ลูกค้าได้สนุก และตื่นเต้นกับการได้ลุ้น......
“อนุพันธุ์” เล่าว่า เดิมตนเองเรียนจบปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี หลังจากเรียนจบได้ไปทำงานที่จังหวัดระยองอยู่ 5 ปี แต่วันหนึ่งเกิดความรู้สึกอยากทำร้านเหล้าเล็กๆ ที่ดูแลเองได้ ก็เลยได้ลาออกจากงานประจำ เดินตามฝันไปเปิดร้านเหล้าที่จังหวัดจันทบุรี เพราะนึกถึงประสบการณ์ตอนสมัยเรียนที่จันทบุรีไม่มีร้านเหล้าที่นั่งชิลๆ แถวมหาวิทยาลัย ก็เลยมาเปิดร้านเหล้าที่นั่น โดยใช้ชื่อร้าน "แคลอรี่ บลาห์ บลาห์" เพราะตนเองไว้หนวดเคราจนมีคนทักบ่อยว่าเป็นนักร้องวง "แคลอรี่ บลาห์ บลาห์" ก็เลยตั้งชื่อร้านเสียเลย
"สำหรับร้านเหล้าเปิดมาได้ 5ปี ธุรกิจนี้ทำรายได้ดีเลยทีเดียว แต่แล้วธุรกิจร้านเหล้าก็มีอันต้องสะดุดลง เนื่องจาก พ.ร.บ.ควบคุมการจำหน่ายสุราออกมาใหม่แบบคุมเข้ม ร้าน ( โดยเฉพาะร้านที่เปิดใกล้สถาบันการศึกษา) จึงมีปัญหาโดนยึดใบอนุญาตห้ามจำหน่ายสุราเป็นเวลา 5 ปี
ทีแรกก็คิดไม่ออกว่าจะทำอะไร สุดท้าย ก็มาจบลงที่ร้าน กะเพราวัดใจ เพราะมองว่าข้าวยังไงก็ต้องกินทุกวัน แต่เหล้าเบียร์ไม่ได้ดื่มทุกวัน แต่ข้าวกะเพราก็มีคู่แข่งเยอะอยู่หลายร้าน และจะทำยังไงให้คนมาเช็กอินร้านเราได้มากๆ จึงลองใส่ภาชนะแปลกๆ ดู พอลงรูปในโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่ามีคนมาถูกใจและแชร์ต่อกันไปเป็นพันกว่าคน
“ผมเองไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีร้านกะเพราแบบนี้อยู่แล้ว "ชื่อร้านแล้วแต่กะเพราแท้ระดับโลก" อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งก็เกิดปัญหาต่อว่าต่อขานกันยกใหญ่ เพราะร้านที่ขอนแก่นเขาบอกว่าเราไปก๊อบปี้เขามา แต่ผมก็พยายามทำให้แตกต่าง เพราะผมเองก็ชอบที่คิดนอกกรอบ แบบที่หลายคนเรียกว่า คิดพิเรนอยู่แล้ว จึงไม่คิดมากเพราะเราคิดว่าเราทำอาชีพสุจริตไม่คิดเอาเปรียบหรือเบียดเบียนใครอยู่แล้ว และสิ่งที่ผมได้กลับมาคือ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะแบบมีความสุขของลูกค้าทุกคนที่มาอุดหนุน "ปุ้มกะเพราวัดใจ ใส่อะไรก็แดกได้” แค่ชื่อก็เรียกรอยยิ้มได้แล้ว....” อนุพันธุ์กล่าวในที่สุด
สำหรับร้าน "กะเพราวัดใจ ใส่อะไรก็แดกได้" มีภาชนะให้เลือกมากมาย ในแต่ละวัน ลูกค้าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวันนี้จะได้ผัดกะเพราอยู่ในภาชนะแบบไหน ส่วนราคา มีให้เลือก 3 ราคา คือ เมนูธรรมดา อิ่มละ 40 บาท พิเศษ แบบกินแล้วจุก ราคา 45 บาท ส่วนโครตพิเศษ ... กินแล้วอ้วก ราคา 50 บาท ถ้าเพิ่มไข่ไก่ดาว 7 บาท และไข่เป็ดดาว 10 บาท ส่วนเมนูอื่นๆ เหมือนกับร้านตามสั่งทั่วไป เช่น ผัดพริกแกงไก่ หมูกระเทียม ฯลฯ ลูกค้าก็จะเป็นคนทั่วไป มีทุกเพศทุกวัย สำหรับภาชนะต่างๆ ทางร้านจะมีกระดาษที่ใช้รองชนิดเดียวกับรองข้าวมันไก่ ซึ่งจะนำมารองข้าวก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง เว้นแต่เป็นภาชนะที่ใส่อาหารอยู่แล้วก็จะไม่มีกระดาษรอง
หลายคนคงนึกไม่ออกว่าร้านคุณปุ้มเขามีภาชนะอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น เก้าอี้ ถังน้ำดื่ม กะละมัง โอ่งพลาสติก ตะกร้า หรือแม้แต่ที่ตักดิน เครื่องชั่ง หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ถาด กระทะ หรือครก หรือกระทั่งที่ตักขยะ ฯลฯ คือเรียกว่าหาอะไรได้ก็นำมาใส่ได้ทั้งหมด แต่เจ้าของร้านบอกว่า ทุกอย่างต้องสะอาด ส่วนลูกค้าที่ซื้อกลับบ้านก็มีใส่กล่องทำจากวัสดุธรรมชาติเพื่อช่วยลดโลกร้อนด้วย
พอถามถึงยอดขาย คุณปุ้มบอกว่า เมื่อครั้งเปิดร้านแรกๆ ขายได้เพียงวันละ 300-400 บาทเท่านั้น แต่พอผ่านไปได้ประมาณสักเดือนหนึ่ง ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมียอดขายวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก แต่รายได้ไม่ได้สำคัญสำหรับคุณปุ้มเท่ากับความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้าที่มาอุดหนุน ได้อิ่ม สนุก และมีความสุข ใครที่อยากจะชิมฝีมือคุณปุ้มคงจะต้องเดินทางไปไกลสักหน่อย เพราะร้านเปิดอยู่ที่ถนนรักศักดิ์ชมูล ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
โทร. 08-3118-2179
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *