"ปลาร้า" ธุรกิจอาหารที่ได้รับความสนใจจากเหล่าดารานักแสดง หลายคนหันทำธุรกิจนี้ อาทิ ดารานักแสดงตลก “จั๊กกะบุ๋ม” และนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ตั๊กแตน ชลลดา” และก่อนหน้านี้ก็มีอีกหลายคน แต่สำหรับดาราสาว “ฮารุ สุประกอบ” (ยามากูชิ) นั้นเริ่มทำธุรกิจอาหาร โดยเลือกทำ “ปลาร้าทอด” ยี่ห้อ ช.ฮก (Chor hok)
“ฮารุ” นักแสดง พิธีกรที่ควบตำแหน่งคุณแม่ยังสาว เล่าถึง ธุรกิจปลาร้าทอด ช.ฮก ของเธอ ว่า เกิดขึ้นมาจากความชอบส่วนตัว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ตนเองตั้งท้องลูกคนแรก เกิดอยากกินปลาร้าทอดมาก และจากความที่ชอบกินมาก ก็เลยต้องไปหาซื้อมากินอยู่บ่อย เป็นเหตุผลที่ว่ากินบ่อยๆ งั้นก็เลยลองทำกินเองเสียเลย
“ฮารุ คิดสูตรเอง หมักเอง ทอดเอง ลองผิดลองถูกไปเรื่อย จนในที่สุดก็ได้ปลาร้าทอดรสชาติตามที่ต้องการ เพราะสนุกกับการทำไปหน่อยเลยทำเยอะเกินไป จึงได้แบ่งให้เพื่อนๆ ลองชิม หลายคนติดใจก็บอกให้ทำขาย ตอนแรกกังวลอยู่ว่าจะขายได้ไหม แต่ด้วยความอยากรู้ว่า ผลจะออกมาอย่างไร ก็เลยตัดสินใจลองทำขาย ได้คนในครอบครัว คุณแม่มาช่วยในการกระบวนการผลิต ส่วนการขายเป็นหน้าที่ของ ฮารุ”
หลังจากเธอตัดสินใจทำปลาร้าทอดขาย ช่องทางยอดนิยมของดารานักแสดง คือ การขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่างอินสตาแกรม ซึ่งก็ผ่านมาได้ด้วยดี เพราะเปิดตัวเพียงไม่กี่สัปดาห์ ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดีมาก จนถึงปัจจุบัน เธอขายปลาร้า แบรนด์ ช.ฮก มาได้เกือบ 3 ปี โดยลูกค้าอยู่ทุกเพศทุกวัย เพราะปลาร้าทอด ช.ฮก ไม่ใช่แค่ปลาร้าธรรมดา แต่กลายเป็น สแน็กของกินเล่นที่ใครก็กินได้
สำหรับสูตร ปลาร้าทอดของ ช.ฮก ไม่ได้มีแค่ปลาร้า แต่ได้ผ่านการปรุงรส และมีส่วนผสมของสมุนไพร อย่าง เครื่องต้มยำ อยู่ด้วย ส่วนของปลาร้า “ฮารุ” บอกว่า ทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหมักปลา โดยเลือกใช้ปลานิล นำมาหมักด้วยข้าวคั่วและเกลือ จนได้มาเป็นปลาร้า (วัตถุดิบหลัก) ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของช.ฮก ที่ไม่เหมือนกับของคนอื่นๆ และพอได้เนื้อปลาร้าแล้ว สูตรหรือส่วนผสมในการทำปลาร้าทอด ก็เป็นสูตรเฉพาะของเราเช่นกัน โดยเลือกใช้สมุนไพร หลายตัว เช่น เครื่องต้มยำ ตะไคร้ ใบมะกรูด อื่นๆ อีกหลายชนิด ดังนั้น ปลาร้าทอดของเราออกมาคล้ายกับปลาสมุนไพรมาก ซึ่งลูกค้าจะซื้อไปกินเล่นคล้ายกับสแน็ก หรือ บางคนนำไปกินกับข้าวเหนียว ข้าวต้ม หรือไม่นำทำเมนูต่างๆ เช่น ข้าวผัดปลาร้าทอด สปาเก็ตตี้ปลาร้าทอด คล้ายกับสปาเก็ตตี้ปลาเค็ม เป็นต้น ซึ่งสามารถนำไปแทนปลาเค็มได้ในหลายเมนูที่ใช้ปลาเค็ม
ทั้งนี้ ในส่วนของยอดขาย "ฮารุ" เล่าให้ฟังว่า ในช่วงแรกขายได้น้อยมาก เพียงแค่ 2 ถุงก็ดีใจแล้ว เพราะไม่คิดว่าจะทำเป็นธุรกิจ ตั้งแต่แรก จึงไม่คาดหวังว่าจะขายได้มากหรือน้อย อาศัยว่าทำเล่นในช่วงที่ต้องอยู่บ้านดูแลลูก มีอะไรทำเพลิน แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบ 3 ปี ยอดขายเพิ่มขึ้นมาตลอด โดยในช่วงปีแรกมียอดขายสูงถึงวันละ 1,000ถุง และยังได้ลูกค้าต่างประเทศ จากการที่คนไทยเดินทางไปต่างประเทศหิ้วไปจำหน่ายให้กับคนไทยในต่างประเทศและต่างชาติได้กินด้วย
“ส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว เพราะได้ส่งปลาร้าทอดไปให้กับเพื่อนๆ นักแสดงได้ชิม เพื่อนก็ถ่ายรุูปอัพลงอินสตาแกรม แล้วแท็กมาที่อินสตาแกรมของทางร้าน จึงมีกลุ่มคนที่ติดตามพวกเขาตามมาด้วย แต่ความเป็นดาราก็ไม่ได้การันตีว่า ธุรกิจจะอยู่ได้ หากแต่เป็นคุณภาพและการบริการมากกว่าที่สามารถซื้อใจลูกค้าได้ และการเราลงมือทำเอง เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า เราจะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อที่รักษาฐานลูกค้าเดิม และสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นด้วย และราคาที่เราตั้งก็เป็นราคาที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้ ไม่สูงมากเกินไป”
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมา "ฮารุ" เธอเลือกขายผ่านทางโซเชียล ดังนั้น หัวใจสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องของวัตถุดิบ และขั้นตอนการทำให้ออกมาได้รสชาติที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับแพคเกจจิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับปลาร้าทอดในถุง จากขั้นตอนการขนส่งทางไปรษณีย์ และบริษัทขนส่ง ดังนั้น เธอจึงยอมลงทุนกับการเลือกใช้แพ็กเกจจิ้ง ที่จะช่วยลดการแตกหักของสินค้าได้
“ในช่วงแรกเราใช้ถุงที่ค่อนข้างบาง จึงทำให้สินค้าง่ายต่อการแตกหัก และเมื่อลูกค้าเจอปลาร้าทอดที่แตกหักจนป่น พวกเขาก็ส่งสินค้ากลับคืน โดยเปลี่ยนสินค้าให้ ดังนั้น เพื่อป้องกันการเสียหายตรงนี้เราจึงเปลี่ยนมาใช้ถุงที่หนาขึ้น ซึ่งช่วยกันกระแทกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับลูกค้าที่ค่อนข้างล่าช้า เพราะทุกๆ วันมีลูกค้าติดต่อเข้ามาเยอะมาก เราไล่ตอบไลน์ทุกวันจากล่างขึ้นบน แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ครบทุกคน และแม้จะเหนื่อยกับการคอยอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่า เหตุใดเราจึงตอบไลน์ช้า เราก็ต้องยอมเหนื่อยเพราะนี่คือการบริการอีกอย่างหนึ่ง”
สำหรับ ราคาขายปลาร้าทอด ช.ฮก มีขนาดเดียวราคาเดียว คือ 150 บาท น้ำหนัก 250 กรัม ราคานี้ ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบปริมาณ คุณภาพคุ้มกัน ส่วนลูกค้าที่รับไปจำหน่ายเป็นราคาพิเศษ ซึ่งราคาขายส่งเป็นราคาที่ต้องตกลงกัน แต่ต้องสั่งขั้นต่ำ 60 ถุงขึ้น ส่วนคู่แข่งตอนนี้ ก็เริ่มมีให้เห็นบ้าง แต่ไม่ได้กังวล เพราะสูตรของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลูกค้าชอบสูตรไหนก็จะเลือกแบรนด์นั้น
โทร.09-1196-6155 , อินสตาแกรม : @chor_hok Line : chor_hok
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *