เมื่อราคากล้วยพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ผลผลิตขาดตลาด บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างแย่งชิง สาเหตุหลักมาจากภัยแล้ง รวมถึงตลาดต่างประเทศอ้าแขนรับผลผลิตกล้วยจากไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีน ต่างชื่นชอบกล้วยไข่ และกล้วยหอม ก็ยิ่งทำให้สินค้ากล้วย กล้วย กลายเป็นของไม่กล้วยสำหรับการทำตลาดในยุคนี้
ทางแก้ที่คิดง่ายที่สุดคือ “การปลูกเพิ่ม” ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเกษตรกรหน้าใหม่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางให้ศึกษา...
ล่าสุดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเวทีเสวนา “เรื่องกล้วย กล้วย ก็รวยได้” ทีมงาน SMEs ผู้จัดการ จึงได้เก็บข้อมูลมาฝาก เผื่ออใครที่กำลังสนใจจะเป็นเกษตรกรหน้าใหม่และกำลังคิดจะกระโจนปลูกกล้วย ได้ใช้เป็นข้อมูลปรับทิศทางธุรกิจให้สอดรับกับตลาดปัจจุบัน
ก่อนอื่นมาศึกษาตลาดส่งออกกล้วยไข่ของไทยกันก่อน จากข้อมูลของกรมศุลลากร พบว่า ไทยส่งออกกล้วยไข่ไปยังประเทศจีน 80.6% ฮ่องกง 16.04 % และลาว 0.30% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่
@@@รู้จักกล้วยไข่@@@
ข้อมูลจาก “ศาสตราจารย์เบญจมาศ ศิลาย้อย” อาจารย์ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า กล้วยไข่ เป็นกล้วยที่อยู่ในกลุ่ม AA มีโครโมโซม 2n=22 มีขนาดเล็กกว่ากล้วยหอมมาก เป็นลูกผสมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีการปลูกมากแถบจังหวัดกำแพงเพชร จึงนิยมเรียกกันว่า “กล้วยไข่กำแพงเพชร” ล่าสุดมีกล้วยไข่เกิดขึ้นอีก 1 พันธุ์ คือ กล้วยไข่เกษตรศาสตร์ 2 ซึ่งเกิดจากกล้วยไข่ปกติ ที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ทำให้ได้กล้วยไข่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเปลือกหนาขึ้น สะดวกต่อการขนส่ง มีอายุที่ยาวนานขึ้น จึงเป็นที่นิยมของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า
กล้วยไข่พันธุ์เกษตรศาสตร์ 2 เคยถูกเสิร์ฟบนเครื่องการบินไทยมาแล้ว โดยให้นักกีฬาต่างชาติได้ลิ้มลองจนเป็นที่ชื่นชอบ จากความหอม หวาน เนื้อแน่น ขนาดลูกพอเหมาะ รับประทานได้ต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันกล้วยไข่สายพันธุ์นี้ได้รับความนิยม มีเกษตรกรนำไปปลูกเป็นจำนวนมาก
@@@มาปลูกกล้วยไข่เกษตรศาสตร์ 2 กัน@@@
เคล็ดลับการปลูกกล้วยไข่เกษตรศาสตร์ 2 ศาสตราจารย์เบญจมาศ บอกว่า กล้วยไข่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ แต่คุณภาพอาจจะแตกต่างกันตามสภาพภูมิอากาศ ดิน และน้ำ ซึ่งแหล่งที่เหมาะสม คือ จ.ตาก สุโขทัย จันทบุรี นครสวรรค์ และกำแพงเพชร เป็นต้น โดยขั้นตอนการปลูกมีดังนี้
1.เริ่มจากให้เกษตรกรนำต้นกล้ากล้วยไข่เกษตรศาสตร์ 2 ไปชำในกระบะ หรือนำหน่อที่ตัดเครือแล้วที่ต้องเป็นหน่อที่มีใบแคบ มาปลูกในดินที่เตรียมไว้
2.เมื่อกล้วยเริ่มออกผลก็นำถุงพลาสติกสีฟ้ามาห่อผล เพื่อรักษาผิวของกล้วยไข่ไม่ให้สีซีดจาง
3.การใส่ปุ๋ยบริเวณโคนต้น ใช้ปุ๋ยขี้นกกระทาประมาณ 3 ขีด พร้อมใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-25 ประมาณ 200 กรัม/ต้น จนกล้วยออกปลีใช้เวลาประมาณ 15 วัน จนปลีกล้วยคลี่หมด
4.ตัดกล้วยไข่ให้เหลือเพียง 6 หวี/ต้น เท่านั้น จะทำให้ได้จำนวนกล้วย และขนาดผลกล้วยที่พอดี ลูกสวย จากนั้นรดน้ำตามปกติ
5.การเก็บเกี่ยว หลังจากวันตัดหัวปลี ให้ห่อผลไว้ให้เรียบร้อย นับอีก 30 วัน จะได้กล้วยไข่ที่มีคุณภาพเกรด A ควรเก็บเกี่ยวอย่างระมัดระวัง ใช้มีดสะอาดและคมตัดเครือกล้วยไม่ให้เครือกล้วยสัมผัสกับพื้นดิน ใช้วัสดุหนานิ่มรองเพื่อไม่ให้กล้วยช้ำ เพื่อคุณภาพที่ดีส่งตรงต่อผู้บริโภค
4.หากต้องการขยายพันธุ์ก็เพียงนำหน่อไปปลูกต่อ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาเอาพันธุ์ที่ ม.เกษตรศาสตร์แล้ว
@@@เกษตรกรเงินล้าน รวยจากกล้วยไข่@@@
มีเกษตรกรหลายรายที่มุ่งเอาดีทางด้านการปลูกกล้วยไข่จนรวยเป็นล้านมาแล้ว โดยกระจายอยู่แทบทุกพื้นที่ในประเทศไทย อย่าง นายสุพล ลิมป์รัชดาวงศ์ ประธานกลุ่มผู้ผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออก อ.สอยดาว เจ้าของสวนเกษตร สวนกล้วยไข่ส่งออกจีน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ส่งออกกล้วยไข่ขายกิโลกรัมละ 100 บาท สร้างรายได้ 100,000 บาท/สัปดาห์, กล้วยไข่ “สวนสายศร” จ.สระบุรี ของ อัมพวัน ผงแสง หรือ คุณใบเฟิร์น ส่งออกไปยังประเทศจีน และเจาะตลาดโมเดิร์นเทรด ชูจุดต่างด้วยกล้วยไข่ปลอดสารเคมี กับพื้นที่ปลูกกว่า 300 ไร่ ประมาณ 120,000 ต้น
ดูแล้วกล้วยไข่ปลูกไม่ยากเลย แต่จะปลูกให้ดี และมีตลาดสำหรับส่งขาย อาจต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าหากมีผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ ตลาดทั้งไทยและเทศอ้าแขนรับแน่ จากตลาดจีนรู้จักดีและกำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้กล้วยหอมทองของไทย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
