xs
xsm
sm
md
lg

กลับมาอีกครั้ง! ร้านชื่อแปลก “จะกินอย่าบ่น-กระหรี่ หมี่เตี๋ยว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป้ายชื่อหน้าร้าน
ชื่อนั้นสำคัญอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ ว่าชื่อ... สำคัญกับการทำการค้าในยุคโซเชียลเป็นอย่างมาก วันนี้มีตัวอย่างของชื่อร้านอาหาร ที่หลายคนเห็นก็อดนึกในใจไม่ได้ว่า เขาคิดยังไงกันถึงตั้งชื่อแบบ....
 นายสรเทพ โรจน์พจนารัช  เจ้าของร้าน
“จะกินอย่าบ่น” ร้านอาหารสไตล์ฟิวชัน

เริ่มจากร้าน “จะกินอย่าบ่น” ร้านนี้เปิดให้บริการอยู่บนถนนพระสุเมธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ขายอาหารรูปแบบฟิวชันหลายชาติ ทั้งอาหารไทย อิตาเลียน และเอเชีย ใครมาร้านนี้ต้องพร้อมที่จะรับรสชาติอาหารในแบบแซบเวอร์ไม่เหมือนใคร เผ็ด..คือเผ็ด เข้มข้น จัดจ้าน ถ้ามากินอาหารร้านนี้ และบอกว่า ขอเผ็ดน้อย ... เจ้าของบอกว่า ถ้าไม่อยากกินเผ็ด แนะนำให้สั่งเมนูอื่นๆ เพราะทุกเมนูเป็นสูตรที่ทางร้านคิดค้นออกมาแล้วว่าอร่อย ไม่สามารถเพิ่มหรือลดอะไรได้
เมนูเด่น พิซซ่าหน้าเนื้อใจเสือ
หลังจากได้รู้จักร้าน จะกินอย่าบ่น กันไประดับหนึ่งแล้ว วันนี้เรามารู้จักกับเจ้าของร้านกันบ้าง ซึ่งเจ้าของร้านไม่ใช่ใครที่ไหน ผ่านการเปิดร้านอาหารมาแล้ว จากสาขาแรกรู้จักกันดี ร้านอาหารริมน้ำ ชื่อว่า ... Stave Café & Cusine “นายสรเทพ โรจน์พจนารัช” และที่เขาเลือกใช้ชื่อร้าน จะกินอย่าบ่น มาจากความรุ้สึกว่า เวลาไปกินร้านไหน ไม่ควรจะตำหนิอะไร เพราะถ้าทำไม่อร่อย สุดท้ายก็ไม่มีคนมากินและเลิกไปเอง ดังนั้น เมื่อจะกินก็อย่าบ่น และเป็นที่มาของชื่อร้าน

นายสรเทพ บอกกับเราว่า เวลาพาครอบครัวไปกินอาหารนอกบ้าน ก็จะบอกลูกๆ ว่าอย่าไปตำหนิเขา ถ้าไม่ชอบก็กินน้อย หรือครั้งหลังเราก็ไม่มากินอีก เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราอาจจะไม่ชอบ แต่คนอื่นๆ เขาอาจจะชอบก็ได้ หรือถ้าไม่มีใครชอบสุดท้ายก็ขายไม่ได้ก็เลิกกิจการไปเอง ซึ่งคนที่มากินที่ร้าน พอเห็นชื่อร้านก็คงจะรู้ว่าเขาก็ไม่ควรที่จะบ่น แต่ที่เขาไม่กล้าบ่นเพราะรสชาติอาหารของเราอร่อยหรือว่าไม่กล้าบ่น แต่สิ่งที่ได้คือ มีคนถ่ายรูปชื่อร้านของเราไปโพสต์ลงในโซเชียลจำนวนมาก ทำให้คนรู้จักร้านของเรามากขึ้น
เมนูตำถาด ที่ใครเห็นตาโต  จานนี้ 400กว่าบาท
สำหรับลูกค้าของทางร้าน จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และคนไทยที่เคยกินอาหารที่ร้านเดิม พอเราเปิดร้านใหม่ก็ลองมากินที่นี่ เพราะที่ร้านจะกินอย่าบ่นมีเมนูที่ร้านสตีฟ คาเฟ่ ควิซีน ไม่มี เพราะที่ร้านแรกจะมีแต่อาหารไทย กลุ่มลูกค้าของทางร้านจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการกินเมนูอาหารไทย ก็จะแวะมาที่ร้านสตีฟ คาเฟ่ ซึ่งร้านจะกินอย่าบ่น เป็นร้านที่ขายนักท่องเที่ยวในสัดส่วน 50-60%
เก้าอี้โรงหนังถูกนำมาใช้ในการ เพื่อความสบายของลูกค้า
ทั้งนี้ ภายในร้านทางเจ้าของร้านได้นำรูปแบบของเก้าอี้โรงหนังมาให้บริการแก่ลูกค้า เพราะมองว่าเก้าอี้โรงหนังเป็นเก้าอี้ที่นั่งสบายที่สุด สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่มาเยือน และที่แปลกไม่ได้แค่ชื่อร้าน เมนู ของทางร้านก็ถูกตั้งชื่อให้แปลกด้วย เช่น พิซซ่าหน้าเนื้อใจเสือ ฯลฯ ใครชื่นชอบเมนูอาหารไทย และเมนูนานาชาติแบบแซบเวอร์ ต้องลองไปชิมดู

โทร. 0-2282-4003, www.facebook.com/JA Kin Ya Bon
นายเฉลิมศักดิ์ เดชพล  (บอย)  เจ้าของร้านกระหรี่ หมี่เตี๋ยว
“กระหรี่ หมี่เตี๋ยว” ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น

สำหรับร้านที่นำเสนอต่อจากนี้ ใครได้ยินชื่อร้านก็คงจะอดคิดไปต่างๆ นานาไม่ได้ กับ ร้านกระหรี่ หมี่เตี๋ยว เป็นร้านขายแกงกะหรี่ และก๋วยเตี็ยว เปิดขายอยู่ที่ถนนเส้นทางเข้าสนามบินเส้นเก่า ตลาดต้นพยอม จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของร้านคือ นายเฉลิมศักดิ์ เดชพล (บอย) และ นางสาววนิดา เฆษพยุง (หนึ่ง) ทั้งสองคนทำงานประจำเป็นครีเอทีฟ และหุ้นส่วนทำงานบัญชี

“เฉลิมศักดิ์” เล่าว่า ที่มาของร้านกระหรี่ หมี่เตียว มาจากส่วนตัวต้องการมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง และเมื่อครั้งได้เดินทางประเทศญี่ปุ่น ก็ได้รู้จักกับร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ เปิดอยู่ในซอย พอกลับมาก็เลยนำไอเดียร้านนี้มาลองเปิดร้านของตัวเอง โดยนำเมนูดังของญี่ปุ่น อย่าง ข้าวแกงกะหรี่ มาเป็นเมนูเด่นของทางร้าน ซึ่งได้มีการปรับแกงกะหรี่ด้วยการใช้เครื่องแกงของไทยกับญี่ปุ่นอย่างละครึ่ง ทำให้มีรสชาติเป็นแบบเฉพาะของทางร้าน

ส่วนเมนูราเมน หรือ ก๋วยเตี๋ยว ทางร้านทำน้ำซุปแบบโซยุราเมน และใช้เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่ และเส้นข้าวซอย แทนเส้นราเมน และยังมีเมนูหมูชาชู ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างหมูชาชูแบบญี่ปุ่น กับคอหมูย่างอบน้ำผึ้งแบบไทย จนได้เป็นหมูชาชูอบน้ำผึ้งสูตรเฉพาะของทางร้านเช่นกัน และทั้ง 3 เมนูเป็นเมนูเด่นของทางร้าน
เมนูเด่นของร้าน รุมกระหรี่
“ส่วนที่มาของชื่อ “กระหรี่ หมี่เตียว” มาจากผมและหุ้นส่วนอยากตั้งชื่อให้คนจำง่ายและสะดุดตา เลยเอาคำว่า “แกงกะหรี่” และ “ก๋วยเตี๋ยว” มารวมกัน ส่วน ร.เรือ ที่เขียนเข้าไปตั้งใจให้ร้านดูมีความทะเล้น ทะลึ่ง ตลก และผมยังได้แต่งเพลงของร้านขึ้นมาด้วย เพื่อให้คนมองร้านชัดมากขึ้น ชื่อว่า เพลงอัยชิเตะอิรุโยะ ใครฟังก็รู้เลยว่าบุคลิกร้านเป็นยังไง”

ทั้งนี้ เมนูยอดนิยมของทางร้าน คือ รุมกะหรี่ เป็นเมนูที่ได้กินแกงกะหรี่กับข้าวญี่ปุ่น ข้าวซอย และบะหมี่ ในจานเดียว ส่วนราคาอาหารของทางร้าน เริ่มต้นตั้งแต่ 55 บาท จนถึง 95 บาท แต่ถ้าสั่งเพิ่มเมนูไข่ก็ต้องจ่ายเพิ่ม ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน เพราะเป็นวัยที่ชื่นชอบอะไรที่แปลกใหม่

โทร. 09-2696-5364 . www.facebook.com/currymeeteaw

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น