xs
xsm
sm
md
lg

‘Nineshop99’ฝ่าวิกฤตธุรกิจจ่อเจ๊ง! ฮึดสู้ใช้ความรู้เหนือเงิน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จุฑามณี อาจกล้า” เจ้าของธุรกิจ ‘Nineshop99’
เส้นทางธุรกิจที่ยิ่งกว่าละครของ ‘Nineshop99’ กิฟท์ชอปเพนท์ลายคาแรคเตอร์สดใสแสนกวน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีหน้าร้านถึง 5 แห่ง ทำรายได้หลายแสนบาทต่อเดือน แถมเงินสดเก็บในกระเป๋าสบายๆอีกกว่า 2 ล้านบาท แต่ ในระยะเวลาแค่ 2 ปี สถานการณ์กลับพลิกตาลปัตร เจอมรสุมสารพัด ทุกสิ่งที่สร้างมานับทศวรรษแทบจะสูญสลายไปทั้งหมด

ท่ามกลางวิกฤตขั้นโคม่า กลับทำให้ “จุฑามณี อาจกล้า” เจ้าของธุรกิจ มองเห็นปัญหาและจุดอ่อนของตัวเองที่ผ่านมา นำมาสู่จุดเปลี่ยนทั้งแนวคิดและวิธีปฏิบัติ เพื่อจะอึดสู้พาธุรกิจให้รอดจากปากเหว กลับมายืนและวิ่งได้อีกครั้ง



จุฑามณีบอกว่า ต้นทุนชีวิตของเธอ เริ่มจากติดลบ เพราะเติบโตในครอบครัวแตกแยก มีโอกาสเรียนในระบบแค่ ป.6 แถมตั้งท้องมีลูกคนแรกตั้งแต่วัยรุ่น และที่เลวร้ายสุดในชีวิต คือ เสียลูกสาวคนที่สองไปในวัยไม่ถึงขวบ ตามด้วยเลิกรากับอดีตสามี

“แหม่ม (ชื่อเล่นของจุฑามณี) ชอบวาดภาพ เมื่อเสียลูกสาวไป กลายเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะประกอบอาชีพที่จะรำลึกถึงลูก และอยากให้เป็นสินค้านี้ ช่วยให้คนอื่นๆที่พบความเสียใจขั้นรุนแรงมาเหมือนกัน ได้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปได้ โดยออกแบบตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์น่ารัก สีสดใส ไร้ความเศร้า นำคนรอบๆ ตัวมาเป็นแรงบันดาลใจ เช่น “เซ็กซี่เกิร์ล” (Sexy girl) ตัวแทนลูกสาวที่เสียไป กับ “มิสเตอร์เอ็กซ์” (Mr.X) ตัวแทนลูกชายคนโต ตอนนั้น เขาอายุแค่ 5 ขวบ ซึ่งเขาเป็นพลังให้เราต้องฮึดสู้ อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปสาววัย 38 ปี เล่าจุดเริ่มต้น
ตุ๊กตาซ้ายมือ “เซ็กซี่เกิร์ล” (Sexy girl) ตัวแทนลูกสาวที่เสียไป กับด้านขวา “มิสเตอร์เอ๊กซ์” (Mr.X) ตัวแทนลูกชาย ที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
กิฟท์ชอปเพนท์ลายคาแรคเตอร์ออกสู่ตลาดครั้งแรก เมื่อ 10ปีที่แล้ว ตั้งแผงเล็กๆขายในถนนคนเดิน จ.เชียงราย ทว่า วันแรกกลับขายได้แค่โปสการ์ดแผ่นเดียวราคา “9 บาท” เลยกลายมาเป็นที่มาแบรนด์ ‘Nineshop99’ ซึ่งเลข “99” ต่อท้าย เป็นการเล่นคำพ้องเสียงว่า “ก้าว ก้าว” เพื่อที่ธุรกิจจะก้าวต่อไปเรื่อยๆ

แม้จะเริ่มด้วยความขรุขระ แต่หลังจากนั้นสินค้าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากลูกค้าในท้องถิ่นสู่นักท่องเที่ยว และชาวต่างชาติสั่งออเดอร์ไปขายต่างแดน ระยะเวลาแค่ 2 ปีหลังออกตลาด สามารถสร้างเนื้อสร้างตัว ซื้อบ้าน ซื้อรถ เลี้ยงดูสมาชิกครอบครัวได้ทั้งหมด จุดสูงสุดเคยมีหน้าร้านภายใน จ.เชียงราย 5 แห่ง ทำรายได้แตะ 5 แสนบาทต่อเดือน มีทีมงานอีก 8 คน แถมเงินสดเก็บสำรองกว่า 2 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม ช่วงฮันนีมูนของธุรกิจค่อยๆจางหาย เมื่อเจอมรสุมลูกแล้วลูกเล่า ไล่ตั้งแต่ปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททำให้ต้นทุนเพิ่ม ตามด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เชียงราย นักท่องเที่ยวหดหาย ต่อเนื่องถึงสภาพเศรษฐกิจซบเซา ผู้บริโภคลดจับจ่าย แถมเจอลูกน้องขโมยของในร้านอีก กระทบต่อธุรกิจขั้นรุนแรง จากเคยมีรายได้หลักหลายแสนบาทต่อเดือน เหลือแค่ไม่กี่หมื่นบาท ต้องลดทีมงานเหลือแค่ 3 คน และทยอยปิดหน้าร้าน จนในปัจจุบันเหลือแค่ 1 ห้องเล็กๆในถนนคนเดินเท่านั้น

สารพัดปัญหาที่ถาโถมนั้น เจ้าตัวสรุปสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมาถึงจุดนี้ ไม่ใช่แค่ปัจจัยภายนอก แต่เพราะที่ผ่านมา ทำธุรกิจโดยขาด “ความรู้” และไม่สามารถ “ปรับตัว” ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

“เมื่อก่อนคิดว่าเราเก่ง งานดี ขายดีอยู่แล้ว วันๆ เลยเอาแต่เก็บตัวทำงานอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกมาดูโลกภายนอกว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว จนเมื่อยอดขายเริ่มลดลง แรกๆ ก็คิดเอาเองว่า สักพักก็ดีขึ้นเอง เอาเงินเก็บสะสม ไปพยุงค่าเช่าร้าน แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น กลายเป็นว่าที่สุดแล้ว ร้านก็ต้องปิด แถมเงินเก็บสะสมก็หมดไปด้วย” แหม่มเล่า


หลังกลับมาวิเคราะห์ตัวเอง ทำให้เห็นจุดอ่อนมากมาย เช่น ไม่เคยรู้ว่ากลุ่มลูกค้าแท้จริงคือใคร ไม่เคยขยายหาตลาดใหม่ ลูกค้าแทบทั้งหมดคือรายเดิมที่นับวันยอดซื้อจะลดลง ส่วนตลาดออนไลน์ที่สามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ กลับละเลยมาตลอด รวมถึง มักจะทำสินค้าตามใจตัวเอง ไม่ได้สนใจผู้ซื้อมากนัก ทำให้ลูกค้ายากจะเข้าใจความหมายของคาแรคเตอร์ รวมไปถึง เรื่องวิธีบริหาร เรื่องบัญชีก็ทำแบบคราวๆ ไม่เคยจริงจัง

“สาเหตุที่ธุรกิจเราเจอวิกฤต แหม่มมองว่าไม่ได้เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจทั้งหมด เพราะหลายธุรกิจก็ยังขายได้ดี ดังนั้น เมื่อเรากลับมาดูตัวเอง สาเหตุจริงๆ มันเกิดจากตัวเราที่พัฒนาตามไม่ทัน ทั้งคู่แข่ง หรือลูกค้า ล้วนพัฒนานำหน้าเราไปแล้ว”

คาแรคเตอร์ตัวการตูนต่างๆ
เมื่อกล้าเปิดใจยอมรับปัญหาเกิดจากตัวเอง กลายเป็นแรงขับให้จุฑามณีเปลี่ยนความคิดและวิธีปฏิบัติ ก้าวออกมาเผชิญโลกภายนอก มุ่งมั่นเติม “ความรู้” เพื่อนำไปใช้พื้นฟูธุรกิจ โดยเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่ส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เช่น เขียนแผนธุรกิจเพื่อขึ้นทะเบียนขอเป็นผู้ประกอบการโอทอป เข้าแผนฟื้นฟูธุรกิจ ในโครงการ “เทิร์น อะราวนด์” ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เป็นต้น

“ทุกวันนี้ ไม่ว่าหน่วยงานภาครัฐไหน มีโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอี การอบรมต่างๆ แหม่มจะขอเข้าไปร่วมด้วยเสมอ เพราะแหม่มอยากได้ความรู้มาพัฒนาตัวเอง สำหรับแหม่มความรู้มันมีคุณค่าและประโยชน์มากกว่าตัวเงินมาก เพราะถ้าได้เงินมาตอนนี้ก็ไม่ได้มีความหมาย เพราะเราไม่พร้อม แต่ถ้าเรามีความรู้ จะสามารถไปใช้พัฒนาต่อยอดธุรกิจได้” สาวแหม่ม ระบุ

สินค้าแบรนด์ ‘Nineshop99’ มีมากมายหลายชนิด เช่น กระเป๋า หมวก ตุ๊กตา รองเท้า ฯลฯ ราคาเริ่มต้นที่ 30-2,000 บาท ทั้งหมดมีจุดเด่นเป็นงานเพนท์มือ โดยมีตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์แบ่ง 3 ครอบครัว 22 ตัว แต่ละตัวล้วนมีเรื่องราวของตัวเอง ด้านช่องทางตลาด ปัจจุบัน ผ่านออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.Nineshop99.com โซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึง หน้าร้านที่ จ. เชียงราย ศูนย์โอทอปใต้ทางด่วนสีลม ออกบูท และฝากวางขายที่ ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา และร้านเอกชัยสาลี่สุพรรณ เป็นต้น


เธอยอมรับว่า ระยะเวลา 1 ปีหลังเริ่มเปิดตัวสู่โลกภายนอก แม้ด้านธุรกิจยังไม่กลับมาฟื้น แต่สิ่งที่ได้รับอย่างชัดเจน คือ มีความสุขในการดำเนินชีวิตมากกว่าที่ผ่านมา จากเคยมองไปรอบตัวมืดแปดด้าน ไร้ความหวัง ปัจจุบันเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายถ้ำ มีหนทางที่จะเดินต่อไปได้ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าไม่หยุดเดิน จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นและยั่งยืนกว่าที่เป็นมา

“ถ้าไม่เกิดวิกฤต แหม่มก็คงไม่ออกมาเผชิญกับโลกภายนอก วันๆ ก็จะจมอยู่ในโลกแคบของตัวเอง ไม่ได้ออกมาพัฒนาตัวเองอย่างปัจจุบัน แหม่มจะพูดกับลูกชายเสมอว่า วันนี้ เรายังไม่ได้ล้มตาย เพียงแค่เราเดินช้าลง และหากเรา สู้ไปด้วยกัน โดยพยายามพัฒนาความรู้ เราจะกลับมาเดินได้ดีอีกครั้ง” จุฑามณี ทิ้งท้าย





@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ติดต่อโทร.081-034-1614 , www.nineshop99.com , FB: nineshop99 , IG:nineshop99 , ID Line:nineshop99



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น