กว่าจะเจอธุรกิจที่ใช่! และลงตัวคงต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับ “Brownie House the Original” ของเด็กหนุ่มไฟแรง ที่กว่าจะลงตัวกับธุรกิจนี้ก็ล้มลุกคลุกคลานมาไม่น้อย มาวันนี้เขาขอทุ่มเทให้กับขนมเค้กสีเข้มอย่าง 'บราวนี่' รสชาติต้นฉบับแท้จากสหรัฐฯ ที่ญาติเป็นผู้ถ่ายทอดสูตรลับให้
ด้วยวัยเพียง 28 ปีก็ขึ้นแท่นเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว สำหรับ “ไพศาล วงศ์นิศานาถกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพศาลฟู้ดส์ จำกัด เผยที่มาของธุรกิจนี้ให้ฟังว่า เมื่อเรียนจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ ถือเป็นหนุ่มไฟแรง อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หลังจากได้ลองเป็นพนักงานประจำได้เพียงไม่กี่เดือนก็คิดว่าไม่ใช่วิถีชีวิตที่เขาจะเลือกเดิน จึงขอทุนจากพ่อแม่เพื่อมาทำธุรกิจ เริ่มตั้งแต่การขายเครื่องสำอาง ไปจนถึงรับจัดอีเวนต์ และเล่นหุ้น แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ทำให้ต้องกลับมาตั้งสติ อยู่กับตัวเอง และช่วยธุรกิจสิ่งพิมพ์ แพกเกจจิ้งของครอบครัว กระทั่งถึงวันรวมญาติ ที่แต่เดิมได้อพยพจากแดนมังกรไปอยู่ตามประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไทย เวียดนาม อังกฤษ และสหรัฐฯ ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน รวมถึงญาติที่มาจากสหรัฐฯ ได้ลงมือทำบราวนีสูตรของครอบครัวให้รับประทาน ก็ติดใจในรสชาติ และคิดว่ามีความแตกต่างจากบราวนีในไทยมาก จากสูตรที่เป็นแบบฉบับดั้งเดิม ไม่หวานมาก ได้รสสัมผัสความขมของช็อกโกแลต ซึ่งหากนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจน่าจะยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เขาจึงขอเรียนรู้สูตร และวิธีการทำทั้งหมดจากญาติผู้ใหญ่ และนำมาปรับเปลี่ยนรสชาติเล็กน้อยเพื่อให้ถูกปากคนไทย
“นับจากวันที่ผมได้ชิมบราวนีของญาติก็รู้เลยว่าต้องก่อเกิดเป็นธุรกิจได้ จึงขอเรียนสูตร พร้อมคิดแบรนด์ ทำแพกเกจจิ้งควบคู่กันไป โดยใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้นก็เริ่มเห็นธุรกิจเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ส่วนในเรื่องของรสชาติและวัตถุดิบก็ใช้เวลาเฟ้นหา และพัฒนารสชาติอีกระยะหนึ่ง โดยใช้ช็อกโกแลตแท้จากประเทศเบลเยียมและสวิตเซอร์แลนด์มาเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะถือเป็นแหล่งช็อกโกแลตที่ดีที่สุดในโลก เพื่อให้ได้บราวนีที่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม อร่อยลงตัว”
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มขายจริง ประเดิมทำเลแรกคือ 'ตลาดนัด' หลังตึกแกรมมี่ นำโต๊ะพับไปตั้งวางจำหน่ายสินค้า วันแรกขายได้เพียง 10 กว่าชิ้น (ราคาชิ้นละ 50 บาท) ซึ่งมีกำไรไม่มากนัก แต่ก็ไม่ท้อ ตระเวนไปตลาดนัดอื่นๆ 7 วัน 7 ตลาดนัดไม่ซ้ำ ก็ได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ จากคนทำงานออฟฟิศ และนักศึกษาที่ได้ลองซื้อไปชิมจะมีการกลับมาซื้อซ้ำในสัปดาห์ที่ 2 โดยยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากรสชาติที่ไม่ซ้ำใคร และเมื่อนำไปแช่เย็นจะเพิ่มความหนึบยิ่งขึ้น
หลังจากมั่นใจในรสชาติ และการตอบรับดี เขาจึงเริ่มนำผลิตภัณฑ์ไปนำเสนอที่ห้างเดอะมอลล์ และไปออกงานที่สยามพารากอน ก็ประสบความสำเร็จ และปัจจุบันได้มีโอกาสนำสินค้าไปจำหน่ายที่ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวม 94 สาขา และมีหน้าร้าน 2 สาขา คือ ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมรุกมาตรฐานการผลิต อย่าง อย., GMP และ HACCP รองรับตลาดต่างประเทศในอนาคต
บราวนีกรอบ อยู่ที่ถุงละ 40 บาท ส่วนบราวนีสด จำหน่ายเป็นกล่องบรรจุ 6 ชิ้น ราคา 180 บาท และอนาคตจะพัฒนาบราวนีกรอบด้วยการใส่ผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน และมะม่วง จากเดิมที่มีรสดาร์กช็อก (Dark Choc) ใช้ช็อกโกแลตจากประเทศเบลเยียม ให้รสชาติขม รสต้นตำรับ (Swiss Choc) ใช้ช็อกโกแลตจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และรสไวต์ช็อก (White Choc) ใช้ช็อกโกแลตขาวจากสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน ซึ่งรสชาติที่ขายดีที่สุดคือ รสดาร์กช็อก ทั้งบราวนีสดและบราวนีกรอบ
คงต้องดูกันต่อไปว่า “Brownie House the Original” จะเติบโตไปในทิศทางใด แต่ขณะนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไประดับหนึ่งแล้ว ด้วยฝีมือของหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 28 ปี ที่เกิดจากความตั้งใจและใส่ใจในการดำเนินธุรกิจล้วนๆ
***สนใจติดต่อ 09-5470-8222, 08-9055-8678 หรือที่ www.facebook.com/browniehouseoriginal***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *