สมกับที่เป็นคนรุ่นใหม่จริงๆ กับความไม่หยุดนิ่ง ใฝ่รู้อยู่เสมอ ของ “น้องลูกยาง” นักออกแบบผลิตภัณฑ์หนุ่มไฟแรง ที่วันนี้เขาสวม 3 บทบาท ในสายงานดีไซน์ และล่าสุดขึ้นแท่นเป็นเจ้าของธุรกิจขายผลงานของตนเอง พร้อมคว้ารางวัล DeMark และ G-Mark มาครองกับผลิตภัณฑ์ “ปฏิทินปลูกผัก”
'วีรพล วงศ์เทวัญ' หรือ น้องลูกยาง หนุ่มนักออกแบบผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ที่ไม่เคยหยุดนิ่งทางความคิดด้านงานออกแบบ มักจะสรรหาของใช้ใกล้ตัวมารังสรรค์เป็นผลงานออกแบบใหม่ๆ พร้อมประโยชน์ใช้สอย ล่าสุดออกแบบ “ปฏิทินปลูกผัก” สู่สายตาคนในวงการเดียวกัน และยังเป็นที่สนใจของผู้ซื้อต่างชาติอีกด้วย หลังได้ส่งผลงาน2 คอลเลคชั่น ชิมลางมาแล้ว อย่าง คอลเลคชั่นหลอดทดลอง คอลเลคชั่นหญ้าเทียม และล่าสุดคือคอลเลคชั่น ปฏิทินปลูกผัก
แต่ก่อนที่เราจะรู้จักผลงานภายใต้แบรนด์ 'Lukyang' ลองมารู้จักหนุ่มคนนี้กันก่อน เริ่มจาก น้องลูกยางเลือกเรียนด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และหลังจากเรียนจบก็ทำงานประจำประมาณ 1 ปี จึงตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ หวังนำความรู้มาต่อยอดเพื่อการเป็นเจ้าของธุรกิจในอนาคต ซึ่งในช่วงเรียนต่อ เขาได้ทำงานประจำ และให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์พร้อมสร้างแบรนด์ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งลึกๆ แล้วเขาฝันที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองบ้าง หลังจากสั่งสมประสบการณ์ให้คำแนะนำผู้ประกอบการมาหลายรายแล้ว
ดังนั้นเขาจึงเริ่มนำสิ่งใกล้ตัวมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แทนการทิ้งให้เป็นขยะ โดยเริ่มจากการทำใช้เอง อย่าง 'ปากกาจากหลอดทดลอง' ก็มีคนสนใจจึงลองทำขายในเฟซบุก และส่งผลงานเข้าประกวดโครงการ Bridgestone Lifestyle Idea Contest เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา ก็คว้ารางวัลที่ 3 มาครองพร้อมเงินรางวัลจำนวนหนึ่ง จึงนำมาต่อยอดสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง
“ที่ผ่านมาผมทำงานหลายบทบาทหน้าที่ ได้แก่ 1.การเป็นพนักงานประจำ ในตำแหน่งดีไซเนอร์ด้านไอที 2.ให้บริการด้านงานดีไซน์แก่ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็น ออกแบบบรรจุภัณฑ์ โลโก้ และสร้างแบรนด์ และ 3.การเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของตนเองภายใต้แบรนด์ lukyang (ลูกยาง)”
โดยคอลเลคชั่น ของแบรนด์ lukyang ได้แก่ คอลเลคชั่นหลอดทดลอง โดยนำมารังสรรค์เป็นปากกา หรือการนำหลอดทดลองมาใส่อาหารแห้ง เช่น เกลือ พริกไทย ซึ่งเขาก็เคยทำใช้เองอยู่ก่อนแล้ว ถัดมาเป็นคอลเลคชั่นหญ้าเทียม โดยนำมาเย็บทำเป็นปกหนังสือ หรือห่อหุ้มของใช้ในบ้านเพื่อเพิ่มความสดชื่นและเป็นธรรมชาติ และล่าสุดเปิดตัว คอลเลคชั่นปฏิทินปลูกผัก โดยแนวคิดนี้ น้องลูกยาง ตั้งใจจะทำปฏิทินเพื่อแจกให้กับลูกค้าแทนคำขอบคุณช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ต้องเป็นปฏิทินที่ไม่เหมือนใคร ไม่ต้องทิ้งเมื่อหมดปี จึงลองนำเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวที่ปลูกรับประทานเองที่บ้านมาเป็นส่วนหนึ่งในปฏิทิน ก็ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
จากนั้นเขาเริ่มพัฒนาอย่างจริงจัง โดยทำเป็นปฏิทินรวม 12 ซอง พร้อมรอยปรุ ซึ่งภายในบรรจุเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวที่ทุกบ้านต้องมีติดตู้เย็นไว้ เช่น โหระพา ผักกาด พริก กระเพรา โดยใช้เดือนเป็นตัวตั้งเวลาในการปลูกผัก เดือนละอย่าง ก็จะทำให้ใน1ปี จะมีผักที่กินได้ ไล่เลี่ยกันไปตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อผักสวนครัวอีกต่อไป
“ปฏิทินของเราใช้งานง่ายมากเพียงแค่ฉีก และเปลี่ยนปฏิทินตามรอยปรุของแต่ละเดือน เพื่อนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูกหลังต้นเดือนนั้นๆ ก็จะได้ผักไว้รับประทาน ซึ่งเราได้วางแผนการบรรจุเมล็ดพันธุ์ไว้ตามฤดูกาล อย่าง ในช่วงฤดูฝน จะเป็นโหระพา, ฤดูร้อน เป็นเมล็ดกระเพรา, พริก เน้นเป็นพืชยืนต้น, ส่วนฤดูหนาว จะเป็นเมล็ดผักกาด เป็นต้น เราเน้นผักไทยๆ ที่ผู้คนเลือกใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหารมากที่สุด ซึ่งเมล็ดผักจะอยู่ได้นาน 2 ปี เพราะเลือกเมล็ดพันธุ์ที่สดใหม่ ผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อปลอดแมลงเรียบร้อยแล้ว”
'ปฏิทินปลูกผัก' ถือเป็นสินค้าที่ใส่ไอเดียการออกแบบไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมประโยชน์ใช้สอยเต็มที่ ไม่ต้องทิ้งเป็นขยะให้รกโลก จากจุดขายเหล่านี้ทำให้น้องลูกยางตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวดรางวัล DeMark และ G-Mark ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ซึ่งก็สามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ
ส่วนแผนการต่อยอดผลิตภัณฑ์ปฏิทินปลูกผักนั้น ในช่วงปี 59 เขาจะเริ่มทำปฏิทินปลูกผักอีกครั้ง เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่ปี 2560 ยังคงเน้นเมล็ดพันธุ์ผัก นอกจากนี้ยังเตรียมออกแบบโปสการ์ด คอลเลคชั่นปลูกผักเช่นเดิม พร้อมนำเรื่องราวเมนูอาหารไทย ที่มีส่วนผสมของพืชผักที่ถูกบรรจุอยู่ในโปสการ์ดแผ่นนั้นด้วย รวมถึงทำ QR Code ฉายเป็นวิดีโอ สอนการทำอาหารไทย ในราคาแผ่นละ 100 กว่าบาท ประเดิมจำหน่ายที่ห้างสยาม ดิสคัฟเวอรี่ เป็นแห่งแรก
“ปฏิทินปลูกผัก ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้เป็นอย่างดี จากจำนวนเมล็ดพันธุ์ ไม่มากไม่น้อยเกินไป เหมาะกับการปลูกในพื้นที่เล็กๆ เช่น คอนโด อพาร์ทเมนต์ บ้านเดี่ยว และเราก็เลือกใช้กระดาษรีไซเคิล ขณะที่โปสการ์ดจะเลือกใช้หมึกพิมพ์ที่ทำจากถั่วเหลือง เพราะจะนำไปรีไซเคิลได้มากกว่า”
จากผลิตภัณฑ์ที่ถูกรังสรรค์ให้เกิดประโยชน์และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ภายใต้แบรนด์ “lukyang” น่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นส่วนหนึ่งในปณิธานที่นักออกแบบรุ่นใหม่รายนี้มุ่งหวังให้เป็น...
***สนใจติดต่อ www.lukyang.com หรือที่ Facebook: http://www.facebook.com/lukyangdesign***
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *